Justice League

ustice League ฉบับใหม่

“Zack Snyder’s Justice League” หนังรวมดาวซูเปอร์ฮีโร่เวอร์ชั่นใหม่ ที่ “แซ็ค สไนเดอร์” หวนกลับมาสานต่องานที่ยังค้างคาของเขาให้เสร็จสมบูรณ์ตามแนวคิดของเขา โดยหนังจะออกฉายผ่านบริการสตรีมมิ่ง HBO Max และ HBO Go ทั่วโลกในช่วงสุดสัปดาห์ และล่าสุดบรรดานักวิจารณ์ต่างประเทศก็ได้ปล่อยรีวิวและคำวิจารณ์ของหนังที่มีความยาวถึง 4 ชั่วโมง ออกมาเรียบร้อยแล้ว

null

โดยภาพรวมพบว่า Zack Snyder’s Justice League ได้รับคำวิจารณ์ที่ค่อนข้างดีขึ้นกว่าหนังต้นฉบับในปี 2017 โดยคะแนนเฉลี่ยบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes นั้นพบว่า ได้คะแนนเฉลี่ยที่ 75% และยังได้รับมะเขือเทศสดอยู่ ต่างจากหนังต้นฉบับที่ได้คะแนนเพียง 40% กับมะเขือเทศเน่าไปครอง และนี่เสียงจากนักวิจารณ์บางส่วน…

 ก็ใช่แหละ Zack Snyder’s Justice League เป็นหนังที่ดีกว่าต้นฉบับอย่างที่ควรจะเป็น แต่เวอร์ชั่นตัดต่อใหม่ก็ไม่ได้เป็นหนังที่ดีที่สุด โดย โจชัว ริเวอร์รา จาก Polygon

• เอาจริงๆ Zack Snyder’s Justice League ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมตลอดเวลา 118 นาทีแหละ แต่ก็แค่เพิ่มพวกฉากที่ถูกตัดออกไปเข้ามาเพิ่มอีก 2 ชั่วโมง และใส่เข้ามาได้ในจังหวะที่ยังไม่ค่อยดีนัก โดย สก็อตต์ เมนเดลสัน จาก Forbes

null

• Zack Snyder’s Justice League ก็เป็นแค่อีกหนึ่งความย่ำแย่ของ Justice League ขณะที่ฉากไคลแม็กซ์ของพวกเขาก็ช่างไม่น่าจดใจ เบาโหว่ง กับพล็อตที่ยังน่าขบขันอยู่ โดย ดาร์เรน ฟรานิช จาก Entertainment Weekly

• การสร้างสรรค์เกี่ยวกับตัวละครในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจอย่างหนึ่งของหนัง และยังได้ทำการสำรวจ Steppenwolf เพิ่มเติมด้วย โดย เจนนา อันเดอร์สัน จาก ComicBook.com

• นี่คือหนังที่สร้างมาจากคอมิกส์ที่สามารถสะกดสายตาที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดย โอเว่น เกียลเบอร์แมน จาก Variety

• บอกตามตรงได้เลยว่า เวอร์ชั่นตัดต่อใหม่ครั้งนี้ทำได้ดีพอๆ กับบรรดาหนัง Avengers ของฝั่งมาร์เวล ที่แสดงออกถึงความแข็งแกร่งและมุ่งมั่นของกลุ่มซูเปอร์ฮีโร่ของกลุ่มนี้ จาก แมตต์ ซอลเลอร์ ไซต์ซ จาก RogerEbert.com

null

Zack Snyder’s Justice League เป็นเรื่องหลังจากเหตุการณ์เสียสละของซูเปอร์แมน (เฮนรี่ คาวิลล์) ที่กอบกู้โลกจากหายนะที่เหล่าวายร้ายอย่าง สเต็ปเปนวูล์ฟ เดอซาด และดาร์คซายด์ ก่อขึ้น ทำให้แบทแมน (เบน แอฟเฟล็ก) ต้องขอความช่วยเหลือจากวันเดอร์ วูแมน (กัล กาด็อต) เพื่อรวมทีมยอดมนุษย์ในการผนึกกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูและต่อสู้กับมหันตภัยร้ายครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง แต่การรวมทีมเหล่าฮีโร่ที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่าง แบทแมน, วันเดอร์ วูแมน, อควาแมน (เจสัน โมโมอา), ไซบอร์ก (เรย์ ฟิชเชอร์) และ เดอะ แฟลช (เอซรา มิลเลอร์) อาจสายเกินไปสำหรับการกอบกู้โลกจากเหล่าร้ายที่บุกจู่โจมในครั้งนี้

โดยหนังฉบับใหม่นี้จะออกฉายในเมืองไทย ผ่านบริการสตรีมมิ่ง HBO GO (เอชบีโอ โก) ได้ดูพร้อมๆ กับทางฝั่งอเมริกา และอีกหลายพื้นที่ทั่วภูมิภาคเอเชีย ในวันที่ 18 มีนาคมนี้