Dynasty Warriors Netflix

Dynasty Warriors เรื่องย่อ

เรื่องราวเริ่มขึ้นในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่น ปึ ค.ศ. 184 เมื่อแผ่นดินจีนกำลังตกอยู่ในสภาพกลียุค ผู้คนอดอยากแร้นแค้น จึงเกิดกบฏโจรโพกผ้าเหลืองที่นำโดยเตียวก๊ก ลุกฮือขึ้นมาก่อการหมายโค่นล้มราชวงศ์ฮั่น แต่พวกโจรผ้าเหลืองก็ถูกทำลายลงด้วยฝีมือของเหล่าทหารอาสา ที่นำโดย เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย รวมถึงนายทหารหนุ่มผู้มีสติปัญญาล้ำเลิศอย่าง โจโฉ

แต่แล้ว ตั๋งโต๊ะ แม่ทัพหัวเมืองเสเหลียงก็ใช้โอกาสในช่วงที่บ้านเมืองวุ่นวาย นำกำลังทหารนับแสนคนจากเสเหลียงเข้ามายึดครองและกุมอำนาจในเมืองหลวงลกเอี๋ยง แล้วเชิดฮ่องเต้เด็กไว้ กระทำการตามใจตนเอง สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว บรรดาขุนศึก 18 หัวเมืองจึงรวมพลกันก่อตั้งเป็นกองทัพพันธมิตรกวนจง เพื่อเปิดศึกกับตั๋งโต๊ะ

แต่การศึกนี้ก็ไม่ง่าย เพราะฝ่ายตั๋งโต๊ะมียอดขุนพลที่เก่งกล้าเกินมนุษย์ทั่วไปอย่าง ลิโป้ มาเข้าร่วมด้วย และมีศักด์เป็นลูกบุญธรรม อีกทั้งเขายังได้ครอบครองอาวุธที่สร้างจากศิลาวิเศษที่ยิ่งสังหารคนมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้น นี่จึงเป็นการต่อสู้ของเหล่าวีรบุรุษในยุคก่อนที่แผ่นดินจะแตกออกเป็น “สามก๊ก” 

Dynasty Warriors รีวิว

ก่อนอื่นต้องบอกว่า นี่คือหนังสามก๊กแนวแอ็กชั่นที่ดัดแปลงจากเกมชื่อดัง ไม่ใช่การสร้างจากเรื่องราวในประวัติศาสตร์หรือในวรรณกรรมสามก๊กโดยตรง (ซึ่งเกมก็อิงมาจากวรรณกรรมอีกทีนั่นแหละ) ดังนั้นการเดินเรื่องราว คอสตูมของตัวละคร อาวุธต่างๆ จึงมีความเป็นแฟนตาซีสูงมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่านี่คือหนังที่สร้างมาเพื่อตอบสนองแฟนคลับของเกม Dynasty Warrior ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ดังที่สร้างชื่อเสียงมาตั้งแต่ปี 1997 นับตั้งแต่เกมภาคแรก แล้วก็มีภาคต่อ ภาคแยก ทยอยออกมาเรื่อยๆ จึงเป็นเกมที่มีสาวกติดตามอยู่ทั่วโลก แล้วก็เป็นเกมที่มีส่วนทำให้เรื่องสามก๊กโด่งดังในวงกว้างด้วย เพราะแฟนเกมก็จะสนใจเรื่องราวในสามก๊กมากขึ้น ส่วนคนชอบสามก๊กก็สนใจที่จะมาเล่นเกมด้วย

ในด้าน CG สเปเชียลเอฟเฟค มีความอลังการ จัดเต็ม เป็นงานฟอร์มใหญ่พอสมควรในด้านนี้ แม้จะมีจุดไม่เนียนตาอยู่บ้าง แต่ภาพรวมถือว่าทำออกมาได้โอเคเลย ส่วนคอสตูมแม้จะดูลิเกไปหน่อย แต่มันคือการดัดแปลงมาให้ตรงกับชุดของตัวละครในเกมมากที่สุด ส่วนเพลงประกอบก็ยกมาจากเกมเลย อันนี้น่าจะเป็นหนึ่งในจุดที่แฟนเกมชอบ

รีวิว Dynasty Warriors Netflix หนังสามก๊กจากเกมดัง เตะเหตุผลทิ้งก่อนดู เน้นโอเว่อร์ ปูทางไปภาคต่อ 1

ด้านนักแสดง มีดาราระดับแม่เหล็กที่เคยมีผลงานมากมายในอดีตอย่าง กู่เทียนเล่อ มารับบทเป็น ลิโป้ ขุนศึกสุดแกร่งในเรื่องนี้ด้วย แล้วก็แสดงในบทลิโป้ได้อย่างยอดเยี่ยม การีนตีความเป็นยอดนักแสดงฝีมือดีในวงการมานาน แต่จะมีข้อด้อยอยู่บ้างตรงที่กู่เทียนเล่อไม่ใช่นักแสดงรูปร่างสูงใหญ่ หรือมีกล้ามเนื้อบึกบึน ความเป็นลิโป้ที่กู่เทียนเล่อแสดงออกมาจึงมาจากออร่าในฐานะนักแสดงของเขาล้วนๆ

ส่วนบทเตียวเสี้ยน ได้นักแสดงสาวชาวจีนเชื้อสายอุยกูร์ชื่อดังอย่าง กู่ลี่นาจา มารับบท ซึ่งก็เล่นได้สมกับเป็นเตียวเสี้ยนอยู่ไม่น้อย

สำหรับภาพรวมของนักแสดงหลัก ได้แก่

กู่เทียนเล่อ เป็น ลิโป้

หวางข่าย เป็น โจโฉ

หยางโย่วหนิง เป็น เล่าปี่

หานเกิง เป็น กวนอู

จัสตินซุง เป็น เตียวหุย

หลี่เหลียงเหว่ย เป็น อ้วนเสี้ยว

กู่ลี่นาจา เป็น เตียวเสี้ยน

รีวิว Dynasty Warriors Netflix หนังสามก๊กจากเกมดัง เตะเหตุผลทิ้งก่อนดู เน้นโอเว่อร์ ปูทางไปภาคต่อ 2

ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ ในเรื่องก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่งตามที่บทจะให้แอร์ไทม์มา แต่ที่น่าจับตาคือ หวังข่าย นักแสดงหนุ่มมาแรงที่ได้มารับบทสำคัญอย่าง โจโฉ ในช่วงวัยหนุ่ม ก็แสดงได้ดูสมกับเป็นผู้เหี้ยมหาญดี แต่ก็อย่าเอาการแสดงของเขาไปเปรียบเทียบกับคนที่เคยรับบทโจโฉในหนังและซีรีส์เรื่องอื่นๆ นะครับ เพราะหวังข่ายจัดว่าเป็นนักแสดงอายุน้อยที่สุดที่เคยมารับบทโจโฉ ซึ่งนักแสดงคนอื่นๆที่เคยมารับบทนี้ล้วนเป็นนักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือกันทั้งนั้น ดังนั้นในแง่ของดาราก็ถือว่าพอถูไถไปได้ เมื่อคำนึงว่านี่เป็นหนังแนว Live-Action ที่ดัดแปลงจากเกม

อีกคนหนึ่งที่ทำได้น่าสนใจคือ หยางโหย่วหนิง ในบทเล่าปี่ ที่ตีความตัวละครเล่าปี่เวอร์ชั่นนี้ออกมาได้น่าสนใจและแปลกตามาก เพราะทำให้เล่าปี่ฉบับนี้ดูมีความเป็นผู้นำที่ “ฉลาดและแอบร้ายลึก” แม้ว่าเบื้องหน้าจะดูเป็นผู้มีคุณธรรมก็ตาม

แต่สำหรับเรื่องนี้ก็มีคำแนะนำอย่างหนึ่งคือ ถ้าคนที่กดเข้ามาดูโดยคาดหวังว่าจะได้ดูหนังสามก๊กแนวอิงประวัติศาสตร์เข้มข้น เรื่องนี้มันปะหน้าไว้แต่แรกแล้วว่าไม่ใช่แนวนั้น เพราะมันดัดแปลงจากเกมสามก๊กที่เน้นการบุกตะลุยเดินหน้าฆ่ามัน เนื้อเรื่องเป็นแค่น้ำจิ้ม ดังนั้นถ้าคุณคาดหวังว่าจะมาดูบทที่จริงจังหรือการแสดงขั้นเทพ คงต้องผิดหวัง เพราะสิ่งที่หนังเรื่อนี้จะมอบให้ก็คือฉากแอ็กชั่นที่เน้นความโอเวอร์ เต็มไปด้วยเอฟเฟคสุดอลังการ ซึ่งก็อิงมาจากในเกมโดยตรงเลย

ดังนั้นถ้าถามว่าเรื่องนี้อยู่ในระดับที่ตรงกับความคาดหวังของคนดูหรือไม่ ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง เพียงแต่ด้วยความที่หนังมีเวลาจำกัด แล้วตัวเนื้อเรื่องเองในช่วงหลังจากศึกโจรผ้าเหลืองเตียวก๊ก ก่อนจะเข้าศึกใหญ่ของพันธมิตรกวนจง โดยเนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีฉากแอ็กชั่นอะไรใหญ่ๆ อยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้ก็เป็นไปตามเส้นเรื่องของสามก๊ก แล้วตัวหนังต้องการบิ้วเส้นเรื่องของโจโฉและเล่าปี่ว่าพวกเขาได้พบเจออะไรเหลวแหลกในวงราชการบ้าง ทำให้พวกเขาต้องการลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อตั้งตัวเป็นใหญ่ในภายหน้า เลยทำให้ช่วงหลังจากศึกผ้าเหลืองมาแล้วจนถึงกลางเรื่องประมาณชั่วโมงแรก เราจะรู้สึกว่าเดินเรื่องอืดๆและไม่ค่อยมีฉากแอ็กชั่นให้สะใจแบบที่คาดหวัง อาจเพราะตัวหนังเลือกที่จะปูปมเรื่องมากกว่าจะอัดฉากแอ็กชั่นเข้ามาเยอะเกินไป แล้วค่อยไปใส่ฉากแอ็กชั่นแบบจัดเต็มในตอนท้ายเรื่องเป็นหลัก แต่ภาพรวมแล้วก็นับว่าน่าเสียดายที่ฉากแอ็กชั่นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แถมเหมือนยังใส่ไม่สุดด้วย

รีวิว Dynasty Warriors Netflix หนังสามก๊กจากเกมดัง เตะเหตุผลทิ้งก่อนดู เน้นโอเว่อร์ ปูทางไปภาคต่อ 4

จุดด้อยอีกอย่างคือ ตัวละครหลัก มีน้อยเกินไป เพราะเข้าใจว่านี่คือภาคแรก ถ้าขนเอาตัวละครดังๆในเรื่องมาให้มีแอร์ไทม์มากเกินไปจะกลายเป็นการแย่งบทกันเอง ซึ่งเนื้อหาในภาคแรกต้องการเน้นที่เส้นทางวีรบุรุษของ เล่าปี่ โจโฉ และเน้นความร้ายกาจของลิโป้ กับบทที่มาเจอกับหญิงงามอย่างเตียวเสี้ยน แล้วบทของกวนอูเป็นอีกหนึ่งตัวหลักในด้านฉากต่อสู้ ในส่วนของบทตัวละครก็เลยพออนุโลมได้กับเวลาที่จำกัด แต่ก็น่าเสียดายว่าไปทำให้บทเหล่าขุนพลสำคัญของโจโฉไม่ได้ออกมาโลดแล่นเลยแม้แต่คนเดียว (น่าเสียดายมาก อย่างน้อยควรมีบทของแฮหัวตุ้น หรือซุนฮก ได้มาแจม) เช่นเดียวกับฝั่งของซุนเกี๋ยนที่ออกมามีบทนิดหน่อยในช่วงการประชุมและช่วงปิดท้ายอีกนิด แต่ก็ได้เห็นตัวละครซุนเซ็กและซุนกวนวัยเด็กออกมาแจมนิดหน่อยด้วย

Dynasty Warriors Netflix รีวิว ไดนาสตี้วอริเออร์ มหาสงครามขุนศึกสามก๊ก

อีกจุดหนึ่งที่รู้สึกว่าไม่ค่อยจำเป็นคือการเพิ่มตัวละครใหม่อย่างเจ้าแม่ผู้ใช้ศิลาวิเศษมาสร้างอาวุธ แต่ถ้ามองในแง่หนึ่งก็เหมือนเป็นการยั่วล้อจากในเกมที่หลายๆภาคจะต้องมีการอัพเกรดอาวุธ พอเป็นฉบับหนังคนแสดงก็เลยใช้วิธีการเขียนเรื่องว่า บรรดาอาวุธที่พวกตัวละครหลักใช้แล้วมันมีการเพิ่มพลังอัพเกรดได้ ก็เป็นเพราะเป็นอาวุธที่มาจากเจ้าแม่นี่เอง เพียงแต่มุกการอัพเกรดพลังของอาวุธในตอนท้ายก็ดูจะเล่นง่ายไปนิด แถมไม่ทันได้ใช้พลังอะไรกันเลย การต่อสู้ก็จบลงอย่างง่ายๆแล้ว แต่ตรงนี้ก็พอเข้าใจได้ว่า เนื้อหาภาคนี้เพียงแค่ต้องการปูที่มาที่ไปของตัวละครเพื่อการต่อสู้ในภาคต่อไปที่จะดุเดือดยิ่งขึ้น เพราะหากอิงตามเรื่องสามก๊กและในเกมแล้ว หนังภาคนี้เพียงแค่จับความช่วงต้นเรื่องและด่านแรกๆในเกมเท่านั้นเอง

สรุปภาพรวมแล้ว เป็นหนังดัดแปลงจากเกมสามก๊ก มาในแนว Live-Action ที่ไม่ได้ถือว่าแย่ แต่หลายจุดอาจจะไม่สมใจกับความคาดหวังของคนดูไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นความพยายามก้าวแรกในการต่อยอดแฟรนไชส์นี้สู่ฉบับภาพยนตร์ ซึ่งหากสร้างได้ดีก็สามารถสร้างภาคต่อและภาคแยกออกมาได้อีกเยอะเลยทีเดียว

ปล.สำหรับแฟนสามก๊กที่ดูหนังสร้างจากเรื่องสามก๊กมาหลายเรื่อง ต้องยอมรับว่านี่ไม่ใช่หนังสามก๊กที่ดีที่สุด แต่มันเป็นหนังที่มีเป้าหมายชัดเจนในการขายแฟนเกมนี้ครับ