CARS 3
การกลับมาของ “CARS 3” คือการทำให้เราตั้งคำถามว่า ตอนหนังเรื่อง “CARS 2” เหล่าทีมเขียนบทและผู้กำกับทำอะไรอยู่ previous movie ถึงได้เละเทะ เลอะเทอะและปราศจากประเด็นที่จับต้องได้จนทำให้คนดูหลายคนเกือบจะเกลียดFranchise นี้ไปเลย
“CARS 3” กลายเป็นหนังแอนิเมชั่นที่เปิดเรื่องมาด้วยประเด็นเกี่ยวกับการวางมือของเหล่า senior athlete หรือพูดง่ายๆคือมัน reflect life ความเป็นจริงในนัยยะของคนที่ทำงานมาแล้วในระยะหนึ่งจนเกิดคำถามกับตัวเองว่า หากวันหนึ่งมีเด็กที่อายุน้อยกว่า Better และไฟแรงกว่าแซงหน้าเราไปแล้ว เราจะเลือกยอมแพ้หรือสู้จนยิบตาเพื่อ prestige ที่เหลืออยู่
แน่นอนว่าตัวละครอย่าง Lightning McQueen ครั้งหนึ่งในอดีตเขาก็เคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่น่าจับตามองในวงการ (in the first CARS) เขาเคยได้รับความนิยม เป็นที่รัก แต่การหลงอยู่กับ success ของตัวเองทำให้เขามองไม่เห็นคนอื่น บทเรียนแรกที่ McQueen ได้รับคือการรู้จักปรับตัวและเข้ากับคนอื่นให้ได้
การเดินทางของ McQueen ในภาคนี้คือการได้เจรจาต่อรองกับ Sterling เจ้าของศูนย์แข่งรถไฮเทคที่เป็นเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับรถแข่ง McQueen ยอมรับเงื่อนไขที่ว่า ถ้าหากการแข่งขันที่ Florida ครั้งต่อไป ถ้าหากเขาพ่ายแพ้เขาจะต้องยอมรับสัญญาในการใช้ชื่อของตัวเองไปเป็นชื่อ goods ที่ระลึกและต้องอำลาวงการเป็นการถาวร
ด้วยความดื้อรั้นหัวดื้ออย่าง McQueen จึงยอมที่จะลาวงการไปอย่างง่ายๆ เขาจึงต้องเข้ารับการฝึกฝนควบคู่ไปกับ Cruz Ramirez โค้ชคนสำคัญที่ฝึกรถแข่งหลายต่อหลายคัน ทว่าระหว่างการฝึกฝนนั้นเองทำให้ทั้ง McQueen ต่างก็ต้องเรียนรู้บทเรียนระหว่างกันและกัน
CARS 3 ยังพูดถึงประเด็นที่คนวัยทำงานหรือ old age ไม้ใกล้ฝั่งดูแล้วอาจจะต้องเกิดอาการจุกไปตามๆกันที่ว่า เมื่อวันหนึ่งความสำเร็จที่เราเคยได้ทำไว้นั้น เราอาจจะโดนแซงหน้าด้วยเด็กใหม่ไฟแรงอย่างแน่นอน McQueen ในภาคนี้จึงถูกเน้นย้ำตลอดเวลาว่าเขา “Old” สิ่งที่เขาทำได้คือการ “ยอมรับความจริง” และพยายามทำความเข้าใจกับ Situation และทำช่วงเวลาที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด
ฉากหนึ่งที่น่าประทับใจมากคือการที่ McQueen ได้เดินทางกลับมายังสนามแข่งในภาคแรกและได้พบกับ “legend” รถคันเก่าๆที่มาร่วมกันรำลึกถึงความทรงจำอันดีในอดีต แต่พวกเขาก็ไม่ได้ฟุ้งฝันแต่เพียงอย่างเดียว เขายังเตือนสติ McQueen เสมอว่า ในทุกตำนานมักจะมีตำนานใหม่เกิดขึ้นอยู่เสมอ โอกาสที่เราจะกลายเป็น Legend ที่น่าจดจำคือการใช้สติปัญญาที่มี
ยิ่งไปกว่านั้นหนังยังสอนเสมอว่า experience ในชีวิตและความสำเร็จนั้นล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นมาจากการที่เรา “have faith” ของตัวเองทั้งสิ้น ถ้าหากเรามีความหวังว่าเราจะประสบความสำเร็จ หรือการเห็นคนที่เราเชื่อมั่นว่าเขาจะพัฒนาต่อไปได้ประสบ success นั่นอาจจะเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิตก็เป็นได้
รีวิวDISNEY
สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : FlowเดอะFlim