Warriors of Future เป็นหนังดูง่ายครับ คือดูแบบไม่คาดหวังอะไรเลย หลักๆ คือดูเพราะเหล่าดาราฮ่องกงที่แสนคุ้นเคย ไม่ว่าจะกู่เทียนเล่อ, หลิวชิงหวิน, หลิวเจียหลิง, จางเจียฮุย และ Philip Keung สำหรับผมแล้วพวกเขาเหล่านี้รับประกันความโอเคของหนังได้ในระดับหนึ่งครับ อย่างบางเรื่องที่อาจไม่ได้สนุกอะไรนัก แต่อย่างน้อยการแสดงของพวกเขาก็พอจะประคองให้เราดูหนังไปจนจบได้
ก็น่าจะถือว่าเข้าข่าย “ติดตามกันมานาน เลยพร้อมจะตามดูกันต่อไป”
หนังมาในแนวไซไฟแอคชั่นครับ เหล่าตัวเอกคือนักรบแห่งโลกอนาคตที่ต้องรับมือกับพืชจากต่างดาว ภารกิจล่าสุดคือบุกเข้าไปวางยาเพื่อหยุดการเจริญเติบโตของเจ้าพืชชนิดนี้ก่อนที่มันจะกลืนกินเมือง ซึ่งก็แน่นอนว่าปฏิบัติการของพวกเขาย่อมไม่ง่าย นอกจากความร้ายกาจของสัตว์ประหลาดแล้ว พวกเขายังต้องเจอกับแผนร้ายบางอย่างที่มีคนอยู่เบื้องหลังด้วย
จะว่าไปหนังก็ไม่ไก่กานะครับ โอเค มันอาจไม่ได้สดใหม่อะไร ดูแล้วนึกถึง Final Fantasy: The Spirits Within บวกเข้ากับ Transformers และ Aliens มีวิ่งหนีสัตว์ประหลาด ตีกับหุ่น มีตัวละครเด็กมาเพิ่มความอ่อนโยนและเป็นโจทย์เพิ่มความลุ้น และสารพัดเหตุการณ์เสี่ยงตายประเภทตัวละครไปอยู่ในพื้นที่ที่จะหล่นแหล่ไม่หล่นแหล่ ซึ่งแม้มันจะไม่ได้เจ๋งมากมาย แต่ก็ดูได้เรื่อยๆ – ถ้ามองในแง่ของความระทึกไซไฟก็ถือว่าน่าพอใจ
งานเทคนิค CG ถือว่าโอเคตามอัตภาพครับ มีไม่เนียนบ้างแต่โดยรวมถือว่าทำได้ดี ที่ชอบหน่อยคือฉากซากปรักหักพังของเมืองที่ทำออกมาสมจริงดี ดูแล้วเชื่อว่าพวกตัวเองบุกไปยังพื้นที่รกร้างจริงๆ แล้วก็ชวนให้หายใจไม่ทั่วท้องเป็นพักๆ ว่าพื้นที่เหล่านั้นจะมีตัวอะไรแอบซ่อนอยู่หรือไม่
อย่างที่บอกครับว่าพลังสำคัญที่พยุงหนังไว้ก็คือดาราที่เล่นกันได้ดีตามมาตรฐาน กู่เทียนเล่อกับหลิวชิงหวินนี่หายห่วงครับ พวกเขาถึงจุดที่สามารถเล่นได้ทุกบท และมักจะเป็นกระดูกสันหลังให้หนังแต่ละเรื่องที่พวกเขาเล่น ส่วนจางเจียฮุยก็มาแบบนิ่งๆ วางมาดไม่น่าไว้วางใจ อาจไม่ถึงกับเด่นแต่ก็โอเค ส่วนหลิวเจียหลิงก็ออกแนวนิ่งเหมือนกัน ถ้ามองในแง่การแสดงก็อาจดูเหมือนเธอไม่ค่อยได้ทำอะไร แต่ถ้ามองจากบทแล้ว ผมว่ามันก็ไม่แปลกที่เธอจะดูนิ่งเบอร์นั้น
แต่รายที่เพิ่มรสชาติให้กับหนังต้องยกให้ Philip Keung ครับ ผมชอบพี่เขานะ แล้วก็ยินดีกับพี่เขาด้วย ผมจำพี่เขาได้จากบทม่งติ้งกั๊วะ แห่ง เปาบุ้นจิ้น ขุนศึกตระกูลหยางทั้ง 2 ภาค นับไปนับมาก็ 28 ปีเข้าไปแล้ว สมัยก่อนพี่เขาออกแนวบทสมทบเล็กๆ แต่มาระยะหลังนี่บทที่พี่เขาได้เริ่มเด่นขึ้น แม้จะออกแนวสบทบอยู่แต่ก็มีบทมากขึ้น แล้วพี่เขาเล่นดีด้วยเลยเป็นที่จดจำ ถือว่าพี่เขามาได้ไกลอยู่ครับ และกับเรื่องนี้ลีลากวนบาทาของเขาก็เพิ่มความเพลินให้หนังได้พอตัว
โดยรวมถือว่าโอเคครับ มีองค์ประกอบพื้นฐานสำหรับหนังแนวนี้ค่อนข้างครบ ไม่ถึงกับเด่นเด็ดดวง แต่ก็ดูได้เรื่อยๆ ตามสไตล์หนังฮ่องกง
สองดาวครับ
(6/10)