Time Trap (2017)

Untitled05898

หนังแนวนี้นี่ผมชอบอยู่แล้วครับ ประเภทไซไฟมิติพิศวงและเล่นกับลูปเวลาเนี่ย ขอให้ทำออกมาเถอะครับ พร้อมดูเสมอ ไม่ว่าจะทุนต่ำหรือทุนสูงก็เถอะ ส่วนจะสนุกหรือไม่ก็ค่อยมาว่ากันอีกที

เรื่องเริ่มเมื่อศาสตราจารย์ฮอปเปอร์ (Andrew Wilson) อาจารย์โบราณคดีผู้ที่ตั้งใจจะเข้าไปสำรวจถ้ำแห่งหนึ่ง แต่ปรากฏว่าเขาหายตัวไปหลายวันครับ นั่นทำให้ลูกศิษย์ยกขบวนกันไปตามหาถึงในถ้ำ และเมื่อพวกเขาได้ก้าวเข้าไปในถ้ำนั้นแล้ว พวกเขาก็ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ปริศนาเกี่ยวกับมิติเวลาที่จะพลิกชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล

ผมว่าหนังใช้ได้ครับ ทำออกมาได้น่าติดตามในระดับหนึ่ง ว่าตามจริงแล้วหนังอาจจะไม่ได้กลมกล่อมไปเสียทั้งหมดนะครับ บทก็อาจไม่ได้เข้มข้นหรือชวนว้าวอะไร และการตัดสินใจบางอย่างของตัวละครก็อาจทำให้รู้สึหงุดหงิดอยู่บ้าง และผมเชื่อว่าคอหนังไซไฟหรือคนที่ชอบดูหนังเกี่ยวกับลูปเวลาน่าจะเคยเห็นพล็อตแบบนี้มาเยอะจนสามารถเดาอะไรๆ ได้แล้ว แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ หนังก็ยังดูเพลินอยู่ครับ

สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกคือ หนังโอเค ดูได้เรื่อยๆ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ถึงกับชอบอะไรมากมาย มันรู้สึกเหมือนว่าหนังยังไม่มีพลังเท่าที่ควร ประมาณว่าจุดเด่นแบบเต็มๆ ในหนังยังไม่ค่อยชัดครับ สิ่งที่ถือว่าเด่นที่สุดคือปมเรื่องของมิติเวลาที่ดึงให้เราอยากติดตามหนังต่อไปเรื่อยๆ ได้ ในขณะที่องค์ประกอบอื่นๆ ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ เริ่มจากนักแสดงที่ไม่ใช่ดาราดัง แต่ก็พอคุ้นหน้าครับ อย่าง Reiley McClendon จาก The Flyboys (ไม่ใช่ Flyboys ที่เป็นหนังสงครามนะครับ), Cassidy Gifford จาก The Gallows แล้วก็ Brianne Howey ที่เคยแสดงในซีรี่ส์อย่าง The Exorcist และ Batwoman (แต่บอกได้อย่างหนึ่งว่าในเรื่องนี้ 2 คนนี้สวยมากครับ 555)

ในแง่การแสดงก็ถือว่ากลางๆ ครับ คือแสดงได้โอเค แต่ก็ไม่ถึงกับเด่นหรือชวนจดจำแบบเต็มๆ เช่นเดียวกับองค์ประกอบอย่างฉาก (ในถ้ำ) หรืองาน CG ที่ไม่ถึงกับสุดยอดอะไร แต่หากพิจารณาจากทุนสร้างราวๆ $1 ล้านเหรียญแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาต้องถือว่าน่าพอใจอย่างยิ่งแล้วล่ะครับ ถือว่าใช้ทุนได้คุ้มมากทีเดียว

Untitled05899

ใครที่กระหายความตื่นเต้นลุ้นระทึกล่ะก็ คงต้องปรับความคาดหวังครับ เพราะหนังไม่ได้เร้าใจขนาดนั้น หนังออกแนวไซไฟตามปมปริศนาเป็นหลัก จังหวะการเดินเรื่องก็ไม่เร็วอะไรนัก การทิ้งปม ตามปม เฉลยปมก็ทยอยมาแบบค่อยเป็นค่อยไป นั่นทำให้หนังอาจไม่ได้สุดขั้ว แต่ถ้ามองในอีกแง่หนึ่งแล้ว การเดินเรื่องแบบนี้ก็ถือว่าปลอดภัยครับ อย่างน้อยการทำตามสูตรตามมาตรฐาน แม้ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่แปลกใหม่หวือหวา แต่อย่างน้อยมันก็จะยังดูได้เรื่อยๆ

ในขณะที่ถ้าคนทำมือยังไม่แม่นแล้วไปเล่นท่ายาก ผลที่ได้อาจกลายเป็นเละครับ ดังนั้นออกมาประมาณนี้ก็ถือว่าโอแล้วล่ะ

ก็อยากแนะนำสำหรับคนชอบหนังแนวนี้ครับ ถือว่าดูได้เพลินๆ ความยาวก็ไม่มาก แค่ 87 นาทีเอง ซึ่งอันนี้ผมว่าเป็นจุดดีอีกอย่างครับที่หนังไม่ยาวเกินไป มันเลยไม่น่าเบื่อ (แต่ถ้าขืนลากยาวไป 2 ชั่วโมงนี่ผมว่ามีโอกาสน่าเบื่อสูงมากเลยครับ) โดยสรุปแล้ว คอนเซปต์โอเคครับ จังหวะการเดินเรื่องก็มีโอเคบ้าง ธรรมดาบ้าง เช่นเดียวกับนักแสดงที่มีทั้งโมเมนต์ที่ดีและโมเมนต์ที่เรื่อยๆ โดยรวมแล้วถือเป็นหนังที่ไซไฟที่อยู่ในระดับกลางๆ ครับ

สองดาวหน่อยๆ ครับ

Star21

(6/10)