ยอมรับว่าผมไม่คุ้นกับซีรี่ส์ชุดนี้เลยครับ แม้จะเห็นมีฉายทาง Mono29 ก็เถอะ แต่มันไม่แนวจริงๆ สงสัยเลยวัยเลยมั้ง (555) เคยพยายามดูเอาขำ มันก็พอขำครับ แต่ก็ไม่ได้ติดหรืออยากติดตามอะไร
นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงเฉยๆ กับฉบับหนังใหญ่ ที่ก็ดูท่าว่าจะกลายเป็นหนังในซีรี่ส์ LEGO ที่ทำเงินไม่เข้าเป้าเท่าไร ได้ในอเมริกาไป $50 กว่าล้าน โดยหากรวมทั่วโลกก็ประมาณ $100 ล้าน แต่หากดูจากทุน $70 ล้าน ก็ถือว่ายังไม่กำไร
เรื่องนี้ก็ออกแนวขบวนการห้าสีครับ เป็นเหล่านินจาสีต่างๆ ที่ต้องคอยรับมือกับวายร้ายการ์มาดอนที่จ้องจะทำลายเมืองไม่เว้นวัน แต่เหล่านินจาโกก็สามารถรับมือพวกของการ์มาดอนได้เสมอๆ
การผจญภัยบนจอใหญ่ของพวกเขาก็คล้ายกันครับ เปิดมาพวกนินจาโกก็ตีกับการ์มาดอน แล้วก็มีพล็อตรองว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างการ์มาดอนกับ ลอยด์ ลูกชายที่ปวดหัวเสมอยามพ่อตัวเองทำลายเมือง (แน่นอนว่าประชาชีก็มองลอยด์ในแง่ร้ายเหมือนกัน)
ถ้าใครชอบก็คงสนุกน่ะครับ มันก็ยังติงต๊องหนุกหนานไปตามเรื่อง อย่างน้อยก็ต้องยอมรับว่าการเนรมิตภาพต่างๆ จากการประกอบเลโก้นั้นมันคืองานศิลป์อย่างหนึ่งทีต้องใช้ความตั้งใจ ไม่ว่าจะเลโก้ของจริงหรือ CG ก็ต้องใส่ใจรายละเอียดทั้งสิ้น (ไม่งั้นออกมาเละ)
โดยส่วนตัวผมชื่นชอบงานสร้างของเลโก้ครับ ดูคลาสสิกดี คือจะบอกว่าสดก็ไม่ได้เพราะเลโก้มันคือของเล่นชนิดหนึ่งที่เราๆ เล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ เคยประกอบเคยแตะมาไม่มากก็น้อย ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ของใหม่ครับ แต่ผมมองว่ามันคืออะไรที่คลาสสิกมากกว่า
และปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้เขาชอบเอา “ของเก่า” มาขาย ซึ่งผมว่าเลโก้นี่ก็เข้าอีหรอบนั้นครับ มันคือการเอาของเก่าๆ ที่คนรุ่นเราๆ คุ้นเคย (คนวัย 30 อัพที่มีกำลังซื้อ) มานำเสนอให้เราเกิดความสนใจ อย่างเรื่องนินจานี่ก็เป็นอะไรที่พวกเราคุ้นเคยมานานเหมือนกัน
ตัวหนังก็ดูได้เพลินๆ ครับ มีมุกมีแอ็กชันอะไรต่างๆ มาเรื่อยๆ เพียงแต่หากเทียบกับหนังเรื่องก่อนๆ ในซีรี่ส์ LEGO แล้ว ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้ลูกเล่นไม่เยอะเท่า ความลื่นไม่เยอะเท่า อีกทั้งมุกก็ไม่เยอะเท่า อย่างเรื่องก่อน The LEGO Batman นี่ทำเอาเราแทบจะร้องขอชีวิตแน่ะ มันฮามากๆ จริงๆ
ส่วนเรื่องนี้ช่วงสู้กันและทำลายเมืองมันก็ดูเดิมๆ ครับ เคยเห็นมาแล้วจาก LEGO เรื่องก่อนๆ และตัวละครในเรื่องก็ไม่ถึงกับน่าสนใจมากขนาดนั้น และการที่มุกไม่ได้เยอะก็เลยทำให้ความสนุกแม้จะมี แต่ก็ไม่มาก บางจังหวะก็แอบนิ่งอยู่เหมือนกัน
อะไรๆ มันจะดูน่าสนใจขึ้นก็ตอนเข้าป่าน่ะครับ ส่วนหนึ่งที่น่าสนใจก็เพราะมันเป็นฉากที่ต่างออกไปจาก LEGO หนังใหญ่เรื่องอื่นๆ ที่มักจะอยู่แต่ในเมือง ทว่าเรื่องนี้มีป่าเขา มีลำน้ำ มีบ้านโบราณ มันเลยทำให้เกิดความแปลกตา ซึ่งก็ดึงดูดความสนใจเราได้ในระดับหนึ่ง
ส่วนตอนจบนี่ก็กะอยู่แล้วครับว่าต้องมีอะไรซึ้งๆ แน่ ก็ถือว่าจบได้ดีครับ และเป็นการทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ไม่ใช่การ์ตูนเอามันส์อย่างเดียว แต่ยังมีสาระสอนใจด้วย ไม่ว่าจะเรื่องครอบครัว และเรื่องการให้อภัย (แต่มุกประเภทว่า “พลังอยู่ในตัวเรา” ลึกๆ ก็ชักจะรู้สึกว่ามันใช้บ่อยจนเกร่อแล้วแฮะ)
เอาเป็นว่าใครชอบหนังตระกูล LEGO ก็คงโอเคกับมันไม่มากก็น้อยครับ ส่วนผมก็กลางๆ คือดูได้เรื่อยๆ เพลินๆ แต่ไม่ได้ชอบมากมาย คงไม่ถึงกับต้องซื้อเก็บ (ไม่เหมือน 2 เรื่องก่อนที่ทำออกมาได้สนุก จนอยากเอามาดูซ้ำอีกเรื่อยๆ หากมีโอกาส)
สองดาวครับ
(6/10)