SHAZAM! FURY OF THE GODS – ชาแซม! จุดเดือดเทพเจ้า

 SHAZAM! FURY OF THE GODS – ชาแซม! จุดเดือดเทพเจ้า
— 5.6/10 —
หนังฮีโร่ที่ยังคงเรียกเสียงฮาได้เช่นเดิม (อาจมากกว่า)
ถ้ามองหาความบันเทิง เรื่องนี้ถือว่าตอบโจทย์
แต่บทเบาบาง ขาดแกนหลักความเป็น coming-of-age ที่เคยมี
มีหลายประเด็นอยากเล่า แต่ทำไม่ดีสักประเด็นเลย

Shazam! Fury of the Gods – ชาแซม! จุดเดือดเทพเจ้า เป็นภาคต่อจาก Shazam! (2019) ที่บอกเล่าเรื่องราวของบุตรของเทพ Atlas ทั้งสามเดินทางมายังโลกมนุษย์ เพื่อทวงคืนพลังและตามหาเมล็ดพันธุ์ที่จะมาสร้างอาณาจักรใหม่ที่ล่มสลายไปของพวกเธอโดยใช้โลกเป็นบ้านใหม่ ทำให้ครอบครัว Shazam ต้องหาทางต่อกรกับเทพทั้ง 3 เพื่อปกป้องโลกนี้ไว้

ในภาคนี้ค่อนข้างเปลี่ยนแนวไปพอสมควร จากภาคแรกที่มีความเป็นหนังฮีโร่แบบ coming-of-age ที่ได้เห็นการพัฒนาการของตัวละครอย่าง Billy Batson (Asher Angel) ผ่านการได้รับพลังวิเศษ รวมถึงยังมีประเด็นครอบครัวให้พอดราม่า แต่ในภาคนี้เหมือนหนังจะละเลยประเด็นเหล่านั้นไปแล้ว และเหมือนหนังอยากจะเล่าอะไรเยอะแยะมากมายไปหมด ทั้งการรวมทีมของเหล่าฮีโร่ที่เริ่มมีปัญหาไม่เป็นทีม, ความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละคน, ประเด็นครอบครัว, การเป็นผู้ถูกเลือก, ความรัก และอื่น ๆ อีกมากมายหลายประเด็น มันไม่ได้ทำให้เรื่องราวกลมกล่อม มันทำให้เนื้อเรื่องเล่านิด ๆ หน่อย ๆ ในแต่ละประเด็นแล้วก็ไปอย่างรวดเร็ว ไม่อินอะไรกับจุดไหนเลย หลายอย่างในเรื่องไม่มีที่มาที่ไปจู่ ๆ จะเกิดก็เกิด เกิดขึ้นง่ายและคลี่คลายอย่างง่าย(เกินไป)สุด ๆ มีหลายจุดที่ไม่สมเหตุสมผล และบทช่วงท้ายโคตรจะไม่อิมแพคเอาซะเลย

สิ่งที่ยังคงเดิมและเหมือนจะเพิ่มเติมด้วยคือมุก ที่ยังคงหล่อเลี้ยงความสนุกและเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี และถี่กว่าภาคแรกมาก ๆ ยังคงมีการแซะค่ายตัวเอง แซะค่ายอื่น หรือแม้กระทั่งพูดถึงหนังเรื่องอื่นก็มี จังหวะมุกก็ดี ยังคงเรียกเสียงฮาได้ดีเลยทีเดียว

อย่างที่บอกว่าภาคนี้ขาดความเป็น coming-of-age มาก ๆ ทั้ง ๆ ที่ควรเอามาใช้เป็นตัวขับเคลื่อนหลักแท้ ๆ ขาดอย่างเดียวไม่พอ เราแทบไม่ได้เห็นหน้าของ Asher Angel เลยแม้แต่น้อย มีไม่เกิน 5 ฉาก ที่เหลือเราจะเห็นเขาอยู่ในร่าง Shazam ที่แสดงโดย Zachary Levi แต่จุดโฟกัสเปลี่ยนไปที่ตัวละครอย่าง Freddy Freeman ที่แสดงโดย Jack Dylan Grazer ที่บทเด่นมาก ๆ อย่างชัดเจน และขับเคลื่อนเรื่องราวไปข้างหน้าได้เป็นอย่างดี แต่ตัวละครอื่น ๆ แทบจะไม่มีบท เป็นตัวประกอบอย่างแท้จริง ส่วนทางด้านตัวละคร 3 เทพก็รับผิดชอบบทตัวเองได้ดี ทั้ง Helen Mirren หรือ Lucy Liu แต่ก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นจนน่าทึ่งขนาดนั้น ส่วน Rachel Zegler บอกได้คำเดียวว่า สวย! น่ารักกกกกก! ซึ่งเอาจริง ๆ ซีนของเธอกับ Jack Dylan Grazer ดูดีเลยนะเมื่อเทียบกับทั้งเรื่อง ดูกุ๊กกิ๊กน่ารักเลยทีเดียว

ทางด้านฉากแอ็คชัน ถ้าเทียบกับภาคเก่าถือว่าเยอะกว่าอย่างเห็นได้ชัด อลังกาลกว่า จัดเต็มกว่า กราฟิกก็ทำได้ดี แต่ก็ไม่ได้สนุกเพลิดเพลินเหมือนดู Black Adam ของค่ายเดียวกันก่อนหน้านี้ 

สรุปแล้ว Shazam! Fury of the Gods – ชาแซม! จุดเดือดเทพเจ้า เป็นหนังฮีโร่ที่บันเทิงเรื่องนี้ ตั้งใจขายมุกตลกเหมือนภาคแรกเลย แอ็คชันเยอะขึ้นแต่ก็ไม่มีอะไรให้น่าจดจำ ส่วนทางด้านเนื้อเรื่องนี่เบาบางเลื่อนลอยสุด ๆ ประเด็นหลักที่เคยทำได้ดีก็โดนละเลยไปอย่างน่าเสียดาย