Scary Stories to Tell in the Dark (2019) คืนนี้มีสยอง

Untitled07417

Scary Stories to Tell in the Dark เรื่องนี้ใช้ได้เลยครับ เป็นหนังสยองแนวไขปริศนาล้างคำสาปบวกด้วยหนังสยองเรื่องสั้น (เพราะแต่ละตัวละครก็จะเจอเรื่องสยองเฉพาะตัวกันไป)

เรื่องของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่แอบเข้าไปในบ้านผีสิงประจำเมืองในวันฮาโลวีน แล้วหนึ่งในนั้นก็ไปเจอสมุดบันทึกรวมเรื่องเล่าเขย่าขวัญ จากนั้นเธอก็ติดมือนำมันกลับมาบ้าน

แล้วเรื่องน่ากลัวก็เกิดครับ เมื่อมีเรื่องสยองผุดขึ้นมาตามหน้ากระดาษที่ว่างอยู่ และเรื่องเหล่านั้นก็มีชื่อพวกเขาเป็นตัวละครด้วย

พวกเขาเลยต้องแข่งกับเวลาหาทางหยุดยั้งเรื่องนี้ให้ทันก่อนพวกเขาจะโดนเล่นงานทั้งหมด

ถ้าให้นิยามก็เหมือนเอา The Ring มาเจอกับ It แล้วบวกด้วย Tales From the Crypt น่ะครับ ประมาณนั้นเลย แล้วหนังก็ทำออกมาได้เข้าท่าพอตัวครับ ครบเครื่องสำหรับหนังสยอง มีความน่ากลัว ตื่นเต้น และบรรยากาศชวนผวาครบถ้วน

แต่บอกก่อนว่าดีกรีความสยองในเรื่องจะไม่ถึงกับหนักมากครับ ไม่ถึงขั้นแหวะแต่อย่างใด เรียกว่าอยู่ในระดับที่คอหนังสยองดูได้แบบเพลินๆ ส่วนคนที่กลัวสักหน่อยก็ถือว่ายังพอดูได้ เพียงแต่อาจมีปิดตาหรือหันหน้าไปทางอื่นบ้างเวลาถึงฉากหวาดๆ หลอนๆ เท่านั้นเอง

Untitled07418

หนังจัดว่าเพลินเพราะมีปมให้ติดตามครับ ระหว่างที่เจอเรื่องสยองก็จะมีปมให้พวกเขาตามแก้ ตามหาคำตอบว่าจะหยุดยั้งเรื่องราวในสมุดได้อย่างไร ซึ่งก็ถือว่าใช้ได้ครับ มีการทิ้งปมและวางปมได้น่าติดตามพอตัว และปมหนังก็ไม่ใช่มาแบบทื่อๆ แต่มีจุดหักเหตามสมควร ให้เรื่องราวมันมีรสชาติดูสนุก

ดาราในเรื่องถือว่าโอเคครับ ตัวเอกของเรื่องคือ Zoe Margaret Colletti ในบท สเตลล่า นิโคลส์ ซึ่งจะว่าไปก็ถือเป็นตัวต้นเหตุล่ะครับ เพราะเจ๊เป็นคนชวนชาวบ้านไปเที่ยวบ้านผีสิง แล้วยังเอาสมุดบันทึกกลับบ้านอีก สารภาพเลยว่าฉากที่เจ๊เขาพูดพร่ำว่าเรื่องทั้งหมดเกิดเพราะเธอ แล้วรามอน (Michael Garza) ก็รีบปลอบใจเลยบอกว่า “ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอก” ฉากนี่นี่ผมเถียงสวนนอกจอเลยครับว่า “เพราะเจ๊นั่นแหละครับ” (5555)

Gabriel Rush ในบท อ็อกกี้, Austin Zajur ในบท ชัค 2 คนนี้เป็นเพื่อนของสเตลล่าที่ต้องมาฝ่าเรื่องสยองในครั้งนี้ อีกรายที่ผมว่าเล่นได้เข้าท่าคือ Austin Abrams ในบท ทอมมี่ ตัวแสบประจำโรงเรียน รายนี้ก็แสดงเป็นตัวกวนตัวแสบได้สมบททีเดียว ดูแล้วรู้สึกเกลียดขี้หน้าภายในเวลาอันสั้น

ดารารุ่นใหญ่ที่มาร่วมแจมก็คือ Dean Norris เป็นรอย พ่อของสเตลล่า รายนี้โผล่ไม่มาก แต่เล่นดีตามฟอร์มครับ ฉากที่เขาคุยโทรศัพท์กับลูกนี่ได้ใจมาก อีกคนก็ Gil Bellows ในบทเทอร์เนอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องมาเจอเรื่องสยองแบบไม่ทันตั้งตัว

ดนตรีของ Marco Beltrami และ Anna Drubich บรรเลงได้น่าพอใจครับ โดยเฉพาะเพลงตอนเปิดเรื่องนี้ได้อารมณ์ชวนผวา ดึงอารมณ์คนดูเข้าสู่เรื่องราวได้แบบกำลังดีเลย โหมโรงได้พอเหมาะมากๆ

หนังกำกับโดย André Øvredal เจ้าของผลงานสยองบรรยากาศหลอนอย่าง The Autopsy of Jane Doe ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงแล้ว ผมชอบเรื่องก่อนมากกว่าครับ แต่กับเรื่องนี้ก็ถือว่าน่าพอใจนั่นแหละ เพียงแต่ยังไม่ถึงขั้นสุดๆ เท่านั้นเอง และหนังเรื่องนี้ยังได้พี่ Guillermo del Toro มาเกลาเรื่องและอำนวยการสร้างด้วย ก็ได้กลิ่นอายสไตล์หนังของพี่เขาอยู่เหมือนกันครับ

หนังทำเงินไป $104 ล้านจากทั่วโลกครับ ส่วนทุนอยู่ที่ประมาณ $25 ล้าน เข้าข่ายทำกำไรสวยงามครับ จนไม่แปลกใจที่มีแผนทำภาคต่อกันเรียบร้อยแล้ว

สรุปว่าดูเพลินไม่เลวครับ น่ากลัวพอประมาณ หลอนพอประมาณ (แต่หากใครขวัญแข็งมากๆ ก็อาจรู้สึกเฉยๆ ได้) น่าติดตามในระดับหนึ่ง และที่ผมชอบอีกอย่างก็เพราะหนังมันรวมมิตรดีครับ สยองด้วย ไขปริศนาด้วย ล้างคำสาปด้วย มีสไตล์เรื่องสั้นด้วย – ของชอบของผมทั้งนั้นแหละ

สองดาวกว่าๆ ครับ

Star21

(6.5/10)