MIDNIGHT: ฆาตกรหนุ่มโรคจิต VS. หญิงสาวผู้ไร้เสียง

สืบเนื่องจากความสำเร็จของ Squid Game เชื่อว่าสาว ๆ และแฟนซีรีส์หลายคนต้องตั้งหน้าตั้งตารอชม Midnight คืนฆ่าไร้เสียง (ชื่อเกาหลี: 미드나이트) ที่ Wi Ha-Joon พลิกบทบาทจากคุณตำรวจสุดหล่อใน Squid Game และนักเบสบอลผู้แสนดีจาก 18 Again มาเป็นฆาตกรต่อเนื่องโรคจิต

เรื่องราวเกิดขึ้นในค่ำคืนหนึ่ง เมื่อ Kyung Mi (Ki-joo Jin จาก The Secret Life of My Secretary และ Moon Lovers) หญิงสาวหูหนวกและเป็นใบ้ บังเอิญมาพบเห็น Do Shik (Wi Ha-Joon จาก Squid Game และ 18 Again) ฆาตกรโรคจิต กำลังออกล่าเหยื่ออยู่ แต่ความทุพพลภาพของเธอเป็นอุปสรรคที่จะทำให้คนอื่นเชื่อหรือเข้าใจในสิ่งที่เธอเห็น ในขณะที่ Do Shik เป็นชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีและแต่งตัวดี

โดยส่วนตัวคิดว่า Midnight พยายามมีคอนเซ็ปต์ที่ดี แต่เนื่องจากเราเคยได้ดูหนังหลายเรื่องที่ตัวเอกเป็นผู้บกพร่องทางการพูดและได้ยินไปบ้างแล้ว ตั้งแต่หนังตลาดอย่าง A Quiet Place และหนังอินดี้อย่าง The Tribe (ซึ่งทั้งสองเรื่องใช้นักแสดงที่หูหนวกและเป็นใบ้ในชีวิตจริงมาแสดงด้วย) มันทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยสดใหม่หรือตื่นเต้นกับลูกเล่นในหนัง Midnight มากเท่าที่ควร แต่ถามว่าลุ้นมั้ย… ก็ยังลุ้นอยู่ดี… เพราะโลกที่ไร้เสียงมันน่ากลัวในตัวมันเองอยู่แล้ว

ในพาร์ทของ serial killer ซึ่งมีนักแสดงประสบความสำเร็จกับบทแนวนี้มานักต่อนัก เราก็รู้สึกว่า Wi Ha-Joon ทำได้ดีตามมาตรฐาน แต่ไม่ได้เล่นได้เข้าถึงบทบาทฆาตรกรโรคจิตขนาดที่ถึงกับว้าว โรคจิต น่ากลัว ขนลุก หรือน่าจดจำอะไร สิ่งที่จดจำได้คือความ charming และฉากวิ่งไล่ล่ารอบเมืองที่เห็นแล้วรู้สึกเหนื่อยแทนพ่อประคุนและแม่หนูนางเอกเสียเหลือเกิน

อย่างไรก็ตาม เราคิดว่า Midnight ไม่ได้มาเพื่อขายความทริลเลอร์ขนาดนั้น หากแต่… ตามสไตล์เกาหลี… มาเพื่อตีแผ่ปัญหาสังคม ซึ่ง ณ เรื่องนี้ คือ “เสียง”​ ของเหยื่อผู้หญิง และ “เสียง” ของคนพิการ ซึ่งเป็นคนชายขอบ ในสังคมที่ชายเป็นใหญ่ และให้ค่ากับรูปลักษณ์ภายนอก เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก

แต่ถึงแม้หนังจะพยายามชี้ให้เห็นความยากลำบากของคนพิการในสังคมเกาหลีอย่างไร เราก็ยังเห็นความโชคดีมากมายสำหรับคนพิการที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพลเมืองเกาหลีใต้ เพราะยังมีงานที่ดีรองรับ มีเทคโนโลยีที่ทำให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงขับรถบนท้องถนน ได้แทบจะเหมือนคนปกติทั่วไป ซึ่งเรารู้สึกว่า สวัสดิการรัฐของประเทศเรายังห่างไกลจากเขาไปอีกหลายร้อยปี เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมบันเทิงนั่นแล