Friends: The Reunion (2021)

Untitled06673

รู้ไหมครับว่าตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมาเวลาที่ผมเหงามากๆ นั้น ผมทำอย่างไร? ผมเอาซีรี่ส์ Friends มาเปิดดูครับ

ซีรี่ส์ Friends มีความหมายต่อผมมากครับ ผมดูครั้งแรกตอนออกเป็นวีดีโอ จำได้ตอนนั้น CVD ทำม้วนแรกออกมาราวๆ ปลายปี 2541 (1998) แล้วผมก็ติดซีรี่ส์นี้นับแต่นั้น เวลาไปเช่าวีดีโอก็ต้องถามตลอดว่า Friends ม้วนใหม่มาหรือยัง – ผมชอบมากจนถึงขั้นไล่ซื้อเก็บน่ะครับ (เหตุผลหนึ่งที่ชอบก็เพราะผมดูพากย์ไทย และได้ทีม CVD พากย์ครับ ยิ่งติดใจไปกันใหญ่)

แล้วก็อย่างที่บอกครับ เมื่อไรก็ตามที่ผมเหงา เมื่อไรก็ตามที่อารมณ์ผมหม่นๆ หรือบางทีพอตกกลางคืนสักตีสองตีสามแล้วเกิดความเหงาขึ้นมา แล้วไม่รู้จะคุยกับใคร (เพราะดึกป่านนั้น ใครๆ ก็นอนกันหมด จะโทรไปหาเพื่อนก็ไม่อยากรบกวน) สิ่งที่ผมทำเสมอก็คือเอา Friends มาเปิดดู จะตอนไหนก็ได้ ปีไหนก็ได้ครับ ยังไงก็ได้ขอให้เป็น Friends ก็พอ…

บางทีอารมณ์ดาวน์มากๆ ก็ต้องดูหลายตอนครับ ผมก็จะนั่งดู เปิด Friends เป็นเพื่อนไปนั่นแหละ เปิดไปๆ จนถึงจุดหนึ่ง ความเหงาหรือความรู้สึกดาวน์ๆ ที่มีมันจะค่อยๆ สลายตัวไป… ไม่รู้กี่ครั้งกี่หนแล้วที่ผมรู้สึกดีขึ้นได้เพราะก๊วนเพื่อน 6 คนนี้

และไม่ต้องบอกก็คงรู้นะครับ ว่าการกลับมารียูเนียนของพวกเขาในครั้งนี้มันทำให้ผมรู้สึกดีใจเพียงไหน

อยากบอกว่าผมมีความสุขมากตลอดการดูครับ การได้เห็นพวกเขาทั้ง 6 กลับมารวมกันอีกครั้งมันฟื้นความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับซีรี่ส์นี้อย่างมากมาย การที่พวกเขามาคุยกัน เล่นมุกกัน แลกเปลี่ยนเรื่องราวกัน มันเต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ ซึ่งก็ต้องบอกก่อนว่าการรียูเนียนนี้คือการกลับมาเจอกันของเหล่านักแสดงทั้ง 6 แต่จะไม่ใช่การกลับมาเจอกันของ “ตัวละครทั้ง 6” ครับ พูดง่ายๆ คือเราจะไม่ได้เห็นราเชล, โมนิก้า, ฟีบี้, รอสส์, โจอี้ และแชนด์เลอร์มาโลดแล่นแต่อย่างใดครับ

รายการรียูเนียนนี้ก็สมเป็นการรียูเนียนน่ะครับ เอาภาพตอนเก่าๆ มาให้ดู, เอาเรื่องราวการเริ่มต้นสร้างซีรี่ส์นี้มาบอกเล่าว่าอะไรคือแรงบันดาลใจในการสร้างซีรี่ส์นี้ ตามด้วยเรื่องเล่าว่ากว่าที่ทีมงานจะแคสติ้งตัวละครจนครบทั้ง 6 คนนั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง ตัดสลับกับการรำลึกความทรงจำของนักแสดงทั้ง 6 ว่าพวกเขาจดจำฉากไหนได้เป็นพิเศษ หรือตอนไหนที่มีความหมายต่อพวกเขา

Friends-Reunion-Trailer-Header

สำหรับผมแล้ว มันเหมือนได้เจอเพื่อนเก่าน่ะครับ ได้รู้ความเป็นไปของพวกเขา และได้รู้อะไรหลายๆ อย่างที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เช่นประเด็นที่ว่า “เคยมีคู่ใดในพวกเขาที่เกิดปิ๊งปั๊งกันนอกจอจริงๆ หรือไม่?” ซึ่งเป็นประเด็นที่น่ารักมากๆ ครับ และพอเราได้ยินได้ฟังจากปากคำของพวกเขาโดยตรงแล้ว มันทำให้เรารู้สึกผูกพันกับซีรี่ส์นี้มากขึ้นไปอีก (และผมเชืื่อว่าจะทำให้การย้อนดูตอนเก่าๆ ของซีรี่ส์นี้มีความหมายมากขึ้นด้วย) อีกทั้งสารพัดเกร็ดที่เหล่าผู้สร้างนำมาเล่าก็ทำให้เรายิ้มได้อย่างมีความสุข ผมรับรองเลยล่ะครับว่าท่านที่รักซีรี่ส์นี้จะต้องยิ้มและในหัวก็จะนึกภาพตอนต่างๆ ออกมาเป็นฉากๆ เลยล่ะ

อยากบอกว่าตอนเล่นเกมตอบคำถามนี่ผมตอบถูกเป็นส่วนใหญ่ครับ โดยเฉพาะเพลงท่อนนั้น ที่รอสส์ส่งกลุ่มนักร้องไปร้องเพลงที่ที่ทำงานของราเชลน่ะครับ ท่อนนั้นผมตอบถูกด้วย คือดูจนจำได้ไปแล้วแบบไม่รู้ตัวน่ะครับ 555 แล้วก็จะมีดารารับเชิญโผล่มาอย่างละเล็กละน้อย ซึ่งก็สร้างความอบอุ่นได้ดีครับ (เพียงแต่ก็ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาของดารารับเชิญแต่ละคนบางคนก็ออกจะน้อยไปนิด-ยังไม่เต็มอิ่มสักเท่าไร-แต่ก็พอเข้าใจน่ะครับว่าเวลาจำกัด)

ออกตัวเลยครับว่าการดูรายการรียูเนียนนี้ทำให้ผมหัวเราะมากที่สุดในรอบหลายปี มันคือช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างแท้จริง ผมหัวเราะกับหลายๆ ฉากย้อนอดีต (ทั้งที่เคยดูแต่ละตอนมาแล้วหลายครั้ง) ผมหัวเราะกับเรื่องที่พวกเขาเล่า ผมหัวเราะกับฉากหลุดสารพัดที่ได้เห็น… อยากบอกว่ามันเป็นอะไรที่มีความสุขจนเกินจะบรรยายจริงๆ ครับ มันได้อารมณ์รียูเนียนไปเจอเพื่อนเก่าจริงๆ นะ

แล้วหลายๆ เรื่องที่เคยได้ยินเกี่ยวกับเบื้องหลัง เราก็จะได้เห็นภาพของจริงครับ เช่น เรื่องไหล่หลุดของ Matt LeBlanc เป็นต้น ตอนเห็นก็อดเสียวไส้ไม่ได้

ถ้าถามว่าร้องไห้ไหม ผมร้องครับ จริงๆ น้ำตามันเริ่มมาตั้งแต่ตอนกลางๆ แล้ว พอถึง 10 นาทีท้ายน้ำตามันไหลแบบกลั้นไม่อยู่จริงๆ

แม้ว่ารายการรียูเนียนครั้งนี้อาจจะไม่ได้ถึงกับลงตัวสุดยอดที่สุด แต่ก็ทำให้เราซาบซึ้งได้มากมายแล้วครับ เป็นการกลับมาพบกันที่มีความหมายจริงๆ และอีกจุดหนึ่งที่ผมชอบมากๆ คือคำถามที่ว่า “จะมีการทำตอนพิเศษของ Friends ออกมาอีกหรือไม่?” แล้ว Lisa Kudrow ก็ตอบคำถามนี้ ซึ่งเป็นการตอบที่กระจ่างครับ ชัดเจนเลย แล้วผมก็เห็นด้วยกับคำตอบนะ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ครับ

แต่ถ้าจะมีอะไรที่ผมแอบเป็นห่วงสักหน่อยหลังดูจบก็คงหนีไม่พ้น Matthew Perry น่ะครับ หากสังเกตดีๆ จะรู้สึกได้เลยว่า Perry ดูจะพูดน้อยที่สุด และในขณะที่แต่ละคนมีอารมณ์ขันยิงมุกมาเรื่อยๆ แต่ Perry เองค่อนข้างนิ่ง ซึ่งระหว่างดูนี่ก็ยอมรับเหมือนกันครับว่ารู้สึกเป็นห่วงเขาจัง… ห่วงเหมือนห่วงเพื่อนยังไงยังงั้น ก็ทำได้เพียงส่งความปรารถนาดีให้ อยากให้พวกเขาทุกคนมีชีวิตที่แฮปปี้น่ะครับ เพราะเขาสร้างความสุขให้พวกเราตั้งเยอะแยะ ก็อยากให้พวกเขาได้รับสิ่งดีๆ ในชีวิตเยอะๆ เหมือนกัน

แต่ผมชอบที่ Perry พูดในตอนท้ายมากๆ เลยครับ ว่าถ้าหากในอนาคตพวกเขาได้มาเจอกันโดยบังเอิญแล้ว เขาจะทำอย่างไรต่อกัน (น้ำตา Perry ไหล ผมก็ไหลตามครับ เพราะคำว่า “เพื่อนที่เจออะไรด้วยกันมา” น่ะ มันมาพร้อมอารมณ์นั้นจริงๆ)

Untitled06676

ผมสุขใจมากครับ บอกได้เลยว่าสุขใจจริงๆ เป็น 1 ชั่วโมงกับ 44 นาทีที่มีความสุขมากที่สุดในรอบหลายปี ก็อยากให้ท่านที่ชอบซีรี่ส์ Friends เหมือนกันได้ดูครับ ผมเชื่อว่าท่านจะมีความสุขแบบผมนี่แหละ แต่ถ้าจะมีอะไรแนะนำหน่อยล่ะก็ ผมอยากให้ท่านดูรายการนี้เวลากลางวัน หรือไม่ก็ไม่เกินหัวค่ำครับ ให้พอหลังดูจบแล้วหากเกิดอารมณ์คิดถึงเพื่อนแล้วอยากไปหาเพื่อน อยากโทรหาใครหรืออยากคุยกับใครขึ้นมาก็จะได้ทำได้ ไม่อยากให้ดูตอนตีสองตีสามแล้วอยากคุยกับใครแต่ไม่มีคนคุยด้วย แบบนั้นอาจค้างคาทางอารมณ์ครับ

หรือถ้าต้องดูรอบดึกจริงๆ ก็ขออย่างเดียวครับ ขอให้มีช่องทางในการดู Friends ต่อหลังจากดูรายการจบครับ แบบนั้นถ้าเกิดอารมณ์เหงาหรืออารมณ์โหยหาอดีตมันจู่โจมจริงๆ ก็จะได้มีทางออกครับ (ที่แนะนำมายืดยาวนี่ก็เพราะผมเองก็เป็นครับ พอดูจบแล้วก็มีห้วงอารมณ์แบบนั้นเหมือนกัน เลยอยากแบ่งปันทางออก เผื่อใครเกิดห้วงอารมณ์ที่ว่าจะได้คลายมันลงได้ครับ)

อีกช่วงหนึ่งที่ชอบก็คงเป็นตอนที่รายการไปสัมภาษณ์คนจากประเทศต่างๆ ที่รักซีรี่ส์ชุดนี้ และมาแบ่งปันประสบการณ์ว่าซีรี่ส์ Friends มีผลอย่างไรต่อชีวิตพวกเขาบ้าง มันเป็นความรู้สึกที่ดีครับที่ได้รับรู้ว่ายังมีคนอีกมากมายจากแต่ละมุมโลกที่มีประสบการณ์แห่งความสุขเกี่ยวกับซีรี่ส์ Friends เหมือนกัน บางคนได้กำลังใจ บางคนเหมือนได้เพื่อน บางคนเหมือนค้นเจอทางออกจากชีวิตอันหนักอึ้ง… แม้ว่าเราจะไม่รู้จักกัน แต่พวกเราก็รัก Friends เหมือนกันครับ

สำหรับการให้ดาวในหนนี้ เป็นการให้ดาวแบบส่วนตัวมากๆ ครับ เพราะผมชอบและมีความสุขมากจริงๆ ในขณะที่หากใครไม่ใช่แฟนซีรี่ส์นี้แล้วดูก็อาจเฉยๆ ซึ่งเรื่องนี้นานาจิตตังครับ แต่สำหรับผมแล้ว ไม่ให้ดาวเท่านี้ก็ไม่ได้เหมือนกัน

สี่ดาวพร้อมความสุขครับ

Star41

(9/10)

Untitled06675