ที่ตัดสินใจดู Cold Blood Legacy นี่เพราะบารมีของพี่ Jean Reno ล้วนๆ เลยครับ เขาถือเป็นดาราขาประจำที่ผมติดตามผลงานมานานหลายสิบปี พอเห็นหน้าพี่เขาขึ้นปกก็ต้องลองซะหน่อยล่ะครับ
เรื่องเล่าแบบย่อๆ ก็ว่าด้วยหญิงสาวคนหนึ่ง (Sarah Lind) ไปประสบอุบัติเหตุกลางป่าที่ปกคลุมด้วยหิมะครับ แล้วเธอก็คลานไปเรื่อยๆ จนเจอกับ เฮนรี่ (Reno) ชายที่อาศัยอยู่กลางป่านั้น แล้วเฮนรี่ก็ช่วยเธอไว้ครับแต่ทีนี้ตัวเฮนรี่น่ะมีอาชีพเป็นมือปืน เพิ่งลงมือปลิดชีพคนไปเมื่อไม่นานนี้ ดังนั้นตัวเขาก็อาจเป็นเป้าของการล้างแค้นก็เป็นได้ แล้วหญิงสาวคนนี้จะปลอดภัยหรือไม่ที่จะต้องมาอยู่ร่วมกับเขา อันนี้ก็ต้องลองไปหาคำตอบกันในหนังครับ
ว่าตามจริงคือหนังไม่มีอะไรมากครับ เดินเรื่องแบบเรื่อยๆ บางชั่วขณะก็ทำให้นึกถึงเรื่อง Polar นะ แต่ถ้าให้พูดตรงๆ แล้วเรื่องนั้นดูเข้าท่ากว่ากันเยอะ เรื่องนี้หนังค่อนข้างช้าครับ ไม่ได้เร้าใจอะไร ปมก็ไม่ได้ลึกลับอะไรมาก ดูไปไม่นานก็พอจะเดาอะไรๆ ได้ ที่เหลือก็แค่รอดูว่าบทสรุปลงเอยของตัวละครแต่ละคนนั้นจะเป็นอย่างไรซึ่งก็จัดว่าไม่มีอะไรเกินคาดเดา
เอาเข้าจริงบทเฮนรี่นี่เอาใครมาเล่นก็ได้ครับ แต่เชื่อว่าที่พา Jean Reno มานำแสดงก็เพื่อดึงดูดผู้ชม เพราะแม้บทจะไม่มีอะไรมาก แต่การแสดงของ Reno ก็ถือว่าพอจะทำให้หนังดูมีอะไรขึ้นมาบ้าง พูดกันตรงๆ ก็คือ ถ้าเรื่องนี้ Reno ไม่ได้แสดง ผมก็อาจไม่ได้เลือกขึ้นมาดูครับ เพราะหน้าหนังค่อนข้างไม่มีอะไรดึงดูดจริงๆ
ก็คงไม่ร่ายอะไรยาวครับ เพราะหนังถือว่าธรรมดา ไม่ได้มีความเด่นอะไรนัก หนังเดินเรื่องใน 2 ส่วนคู่ขนานกันไป ส่วนแรกคือเรื่องของเฮนรี่และหญิงสาวที่เขาช่วยไว้ ฉากหลังก็จะเป็นกระท่อมกลางป่าที่หิมะปกคลุม อีกส่วนก็ว่าด้วยนายตำรวจที่ตามรอยคดีนี้ ฉากหลังจะเป็นพื้นที่เขตเมือง ซึ่งก็ออกแนวเรื่อยๆ ทั้ง 2 ส่วนครับ ไม่ได้เด่นอะไร แต่กระนั้นการที่หนังเดินเรื่องเป็น 2 ส่วนนั้นก็ถือเป็นความคิดที่เข้าท่าอยู่ครับ เพราะมันจะมีการสร้างปมและมีจุดหักเหของเรื่องราวผ่านการเล่าเรื่องที่คู่ขนานกันนี้ แต่ก็นั่นล่ะครับ แม้โครงสร้างการเล่าเรื่องจะน่าสนใจ แต่เนื้อหามันไม่ได้มีอะไรใหม่ และไม่ได้มีอะไรที่ชวนติดตามมากนัก ผลที่ได้ก็เลยออกแนวเรื่อยๆ ไป
ก็นี่เป็นงานกำกับหนังใหญ่ครั้งแรกของ Frédéric Petitjean ซึ่งรับหน้าที่เขียนบทด้วย ในแง่บทนั้นจริงๆ ก็มีอะไรน่าสนใจอยู่ครับ แต่การนำเสนอบอกเล่ายังธรรมดาเกินไป ก็ยังบอกไม่ได้ครับว่าอนาคตของเขาจะเป็นอย่างไร เพราะผู้กำกับเก่งๆ บางคนก็เริ่มจากงานที่ดูธรรมดาเหมือนกัน ส่วนที่ว่าในอนาคตเขาจะมีผลงานที่ดีขึ้นมานำเสนออีกหรือไม่ ก็ต้องเป็นเรื่องของอนาคตครับ
สรุปว่าผ่านมา แล้วก็ผ่านไป
ดาวครึ่งครับ
(5/10)