Children of the Corn: Runaway (2018)

Untitiled05380

ยังครับ ยังไม่จบ สำหรับเรื่องของเหล่าเด็กนรกแห่งทุ่งข้าวโพดซึ่งถ้าถามว่าภาคนี้เป็นภาคไหนก็ต้องมาไล่รายละเอียดกันนิดนึงครับ

ภาคนี้ถือเป็นภาคต่อของ Children of the Corn ฉบับรีเมคเมื่อปี 2009 ครับ แต่ขณะเดียวกันคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มานั่งนับแยกแยะว่าภาคไหนต่อภาคไหน แต่นับแบบเหมาๆ ไปเลยว่านี่เป็นหนังเรื่องที่ 10 ของหนังชุดนี้ครับ ในที่นี้คือนับว่าภาครีเมคคือหนังเรื่องที่ 8 ไปเลย ซึ่งก็บ่งบอกล่ะครับว่าคนดูบางส่วนก็ขี้เกียจมานั่งนับเหมือนกัน เลยนับแบบเหมารวมไปเลย ง่ายดี

จริงๆ ก็พอเข้าใจล่ะครับ เพราะหนังแต่ละภาคที่ทำกันออกมาก็ไม่ได้ดีเด่จนชวนจดจำขนาดนั้น หรือถ้าให้ว่ากันจริงๆ แล้วหนังทำออกมาเพื่อสร้างรายได้ให้กับผู้สร้างมากกว่าจะเป็นการสานต่อตำนานหนังชุดนี้แบบเป็นเรื่องเป็นราวน่ะครับ

อันนี้ก็ทำให้นึกถึงหนังอย่าง Friday the 13th, นิ้วเขมือบ หรือ Child’s Play นะครับ คือแม้ว่ามันจะทำออกเมื่อเพื่อโกยเงินเข้ากระเป๋าเหมือนกันก็เถอะ แต่อย่างน้อยธีมเรื่องกับอารมณ์ของหนังมันก็ยังคล้ายๆ กัน ดูแล้วมีความเป็นภาคต่ออยู่ ในขณะที่หนังชุดนี้แต่ละภาคมันดูไม่ค่อยจะเป็นเนื้อเดียวกัน ออกแนวภาคใครภาคมันยังไงก็ไม่รู้

เอาล่ะครับ พล็อตภาคนี้ก็ย้อนความไปเล่าถึงเรื่องที่เกิดในเมืองแกตลิน เมื่อเด็กๆ พากันสังหารผู้ใหญ่ในเมืองและหันมานับถือบูชา “ผู้เดินอยู่หลังแถว” แต่แล้ว รูธ (Marci Miller) หนึ่งในเด็กเหล่านั้นที่กำลังตั้งครรภ์ก็เกิดกลัวลัทธินี้และตัดสินใจหนีออกมา

ซึ่งเธอก็ทำได้ครับ เธอจัดการเผาทุ่งข้าวโพดแล้วก็หนีออกมาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ จากนั้นเวลาก็ผ่านไป 10 ปี ลูกชายเธอโตแล้ว เธอก็พยายามใช้ชีวิตให้เป็นปกติ แต่ฝันร้ายในวันวานก็ยังตามมาหลอกหลอนเธอ เมื่อเริ่มมีชาวเมืองถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม มันคือสัญญาณว่าบัดนี้ความชั่วร้ายแห่งทุ่งข้าวโพดได้ตามเธอจนเจอแล้ว และแน่นอนว่าชีวิตเธอกับลูกย่อมตกอยู่ในอันตราย

เธอจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องลูกให้จงได้

Untitiled05381

โอเค ภาคนี้ก็พยายามสานต่อเรื่องราวน่ะนะครับ ผลลัพธ์ที่ออกมาถ้าให้ว่าตรงๆ ก็ไม่ได้ต่างจากภาคต่อตอนอื่นๆ สักเท่าไร คือมันไม่ได้น่าติดตามขนาดนั้น พล็อตหลักก็อย่างที่บอกน่ะครับ ส่วนเรื่องราวระหว่างทางก็ไม่มีอะไร เป็นการบอกเล่าว่ารูธใช้ชีวิตอย่างไร และเธอยังคงรู้สึกกลัวขนาดไหน ซึ่งก็เป็นสูตรสำเร็จสำหรับหนังที่ว่าด้วยตัวเอกที่มีอดีตอันเลวร้ายนั่นแหละครับ วันๆ ก็จะกลัวนั่นกลัวนี่ ใช้ชีวิตไม่ใคร่จะเป็นสุข

จริงๆ พอคิดถึงตรงนี้ก็นึกถึง Halloween H2O ครับ มาแนวคล้ายๆ กันเลย ตัวเอกก็ต้องหนีฝันร้ายเหมือนกัน แต่ผมว่าเรื่องนั้นการเล่าเรื่องมันชวนติดตามกว่า ตัวละครก็น่าสนใจกว่าเรื่องนี้เยอะ

ส่วนฉากการฆ่านั้นก็ถือว่าโหดเลือดสาดอยู่พอตัวครับ จนภาคนี้นับเป็นหนังเชือดได้เลยล่ะ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมว่าภาคต่อที่จัดว่าโหดและแหวะแบบได้เรื่องได้ราวที่สุดต้องยกให้ภาค 3 ครับ เรื่องนั้นสยองแหวะและน่ากลัวชวนผวากว่ากันมาก

โดยรวมแล้วภาคนี้ก็พอๆ กับภาค 5, 6, 7, Remake และ 9 ครับ นั่นคือไม่ได้น่าจดจำอะไรมาก คือถ้าเป็นคอหนังขาจรผมคงไม่แนะนำเลยสำหรับเรื่องนี้ (ถ้าจะดู ให้ดูภาคแรกครับ) หรือใครก็ตามที่ดูภาคต่ออื่นๆ แล้วคิดว่าไม่สนุกก็คงต้องบอกว่าภาคนี้ก็พอๆ กันครับ ไม่ต้องตามมาดูต่อก็ได้

แต่หากใครที่ติดตามหนังชุดนี้มาตลอด (แบบผม) แล้วอยากดูให้ครบๆ ก็สามารถลองลิ้มได้ครับ ขอเพียงดูแบบไม่คาดหวังก็พอ

ดาวเดียวครับ

Star11

(4/10)