Interstellar ทะยานจากฟากฟ้าสู่จิตใจ…. [No Spoil] เมื่อโนแลนด์ทำหนังอวกาศจะเป็นอย่างไร? การถ่ายทอดแนวความคิดอันลุ่มลึกจนตกผลึกอย่างเข้มข้น วิธีการถ่ายทอดเรื่องราวอันซับซ้อน ลึกซึ้ง ลักษณะแอคชั่นที่มีสไตล์ไม่ซ้ำใคร รวมไปถึงการกำกับการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์อย่างมาก ทำให้หลายล้านคนทั่วโลกตั้งตารอคอยที่จะได้ดูอภิมหาภาพยนตร์ “Interstellar” กันตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่หนังเข้าฉายกันเลยทีเดียว กระแสตอบรับจากผู้ชมทั่วไปและแฟนๆของโนแลนด์ก็แบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน ส่วนเสียงจากนักวิจารณ์เป็นไปในทางบวกเสียมาก การจัดอันดับและให้คะแนนในเวปไซต์ต่างๆค่อนข้างให้คะแนนเฟ้อสูงมาก แต่ก็ไม่ได้ผิดคาดแต่อย่างใด และเห็นด้วยกับเสียงสนับสนุนและเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ต่างๆ หากจะกล่าวว่า “คริสโตเฟอร์ โนแลนด์ได้สร้างสรรค์ Interstellar ให้เป็นภาพยนตร์ที่จะเป็นตำนานของโลกขึ้นมาอีกเรื่อง” ก็คงไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด ด้วยการทำการค้นคว้าและวิจัยข้อมูลเชิงลึกมาหลายปีมาก รวมถึงแนวความคิดของบทภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมาจากนักฟิสิกส์ผู้เชี่ยวชาญหลักกลศาสตร์อวกาศ และแรงโน้มถ่วง รวมไปถึงการศึกษาเชิงลึกเรื่องทฤษฏีรูหนอนอวกาศ หลุมดำและมิติอื่นๆในอวกาศ ร่วมพัฒนาบทโดยสองพี่น้องคริสโตเฟอร์และโจนาธาน…
Category: รีวิวหนัง
1448 รักเราของใคร – 1448 Ruk-Rao-Kong-Kai
1148 รักเราของใคร (อรุณศักดิ์ อ่องลออ / Thailand / 2014 / C-) E+15 for Enjoy ที่ชอบที่สุดในเรื่องนี้คือ…สกอร์เพลงธรณีกรรแสงแบบดนตรีคลาสสิกๆ ในงานศพแบบคริสต์ เราทำอะไรไม่ได้หรอกนะคะ..กฎหมายไม่ได้เขียนขึ้นเอง’ จำมาประมาณนี้ แล้วใครเขียนว้าาาาาาา…กฎหมายเนี่ย นานทีจะได้ดูหนังที่ผู้กำกับเป็นคนถ่ายเอง…แต่เรื่องนี้จ้าง DP ดีกว่ามั้ย เพื่อไปทำส่วนอื่นให้ดีขึ้นกว่านี้ รวมๆ แล้วทุกอย่างยังไม่เข้าร่องเข้ารอยอยู่เยอะ Establishing Shot แต่ละฉากนี่จะรีบตัดไปไหน หลังจากจุดเปลี่ยนกับจูบแรกแล้วตัวละครสายป่านมัน Discuss กับตัวเองได้แค่ทำหน้าเครียดขับมอ’ไซค์เล่น MV แค่นี้เหรอวะ…ทั้งบท การกำกับ…
Frozen Sing-A-Long – ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ ซิงอะลอง
Frozen Sing-A-Long เมือเอลซ่ากลับมายึดโรงหนังอีกครั้งถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับบ้านเรานะครับที่จะมีการจัดฉายแอนิเมชั่นมิสิคัลในเวอร์ชั่นคาราโอเกะ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเจ๊ง แต่ทำไมเรื่องนี้ถึงได้มีการนำมาฉายอีกครั้งทั้งๆที่แผ่นก็ออกวางขายแล้ว ซึ่งพอได้เข้าไปชมรอบเพรสมา ถือว่าเป็นอะไรที่เกิดคาดมากมันเป็นรอบฉายที่สนุก มีอารมณ์ร่วม เรียกง่ายๆว่าฟินกว่าตอนที่ชมรอบปกติเมื่อปลายปี 2013 ซะอีก คนหลายคนร่วมร้องเพลงตามภาพยนตร์ โดยเฉพาะเพลง Let it Go ที่เรียกได้ว่ามีออกอาการท่าทางลุกขึ้นมาแอคติ่งแข่งกับเอลซ่าบนจอภาพยนตร์เลยทีเดียวที่เซอร์ไพร์กว่านั้นคือ เสียงเพลงที่คนดูร้องออกมา 80% คือเสียงผู้ชาย ทำเอาแปลกใจไปไม่น้อย ส่วนสำหรับใครที่สงสัยว่าสำหรับใครที่สงสัยว่า Frozen Sing-A-Long เป็นแบบไหน ผมมีรูปมาให้ดูนะครับ (เป็นภาพยนตร์เรื่องเดียวกันกับที่ฉายไปเมื่อปลายปี 2013 แต่งตางกันตรงที่ครั้งนี้ตอนที่ร้องเพลงจะมีตัวหนังสือคาราโอเกะขึ้นมาให้ร้องตามด้วย ส่วนช่วงที่พูดกันก็จะเป็นบรรยายไทยครับ) สรุปคือ…
โอที ผีโอเวอร์ไทม์ – OT-Phee-Overtime
O.T. ผี Over Time (อิสรา นาดี / Thailand / 2014) มึงชอบหักมุมกันนักใช่มั้ย..งั้นกูจัดให้!!!! แล้วเรื่องมันก็หักมุมไปมาตั้งแต่ฉากแรกๆ หักเอียงซ้ายบ้างขวาบ้างดำลงพื้นโผล่ใต้น้ำบ้างก่อนหมดทางก็ล้มลงแถกับพื้นแทบไม่สนใจตรรกะอะไรจนซี่โครงหายไปข้างนึงก็ยังไม่หยุด ก็ใช่สิ..คนดูเดาไม่ถูกก็เพราะเรื่องราวในหนังมันแฟนตาซีไร้แก่นสารชนิดที่เป็นไปไม่ได้ขนาดนั้น…การหักมุมมันมาพร้อมกับตรรกะที่พังพินาศ วิธีการแก้ต่างก็ง่ายๆด้วยการใช้แฟลชแบ็กเฉลยเล่าย้อนไปทุกขั้นตอนจนไม่เหลือชั้นเชิง ซึ่งส่วนนี้แหละที่ทำให้รู้สึกว่าหนังพยายามฉลาดยิ่งกว่า The Game เสียอีกเพราะการอธิบายส่วนนี้ยิ่งทำให้ส่วนที่ละเลยการอธิบายและไม่แคร์ตรรกะมันเด่นชัดขึ้นจนเป็นแผลเหวอะหวะยั้วเยี้ยเต็มไปหมด พอสนแต่ลูกบ้าไม่สนตรรกะมันก็เลยดูเป็นหนังราคาถูกทั้งที่มันไม่ได้ราคาต่ำเลยนะ แต่ส่วนตัวแล้วทุกอย่างที่ว่ามาไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตมากมายนักในการดูให้สนุกแบบเพลินๆ ก็ในเมื่อคนทำตั้งใจทำมาเพื่อความบันเทิงล้วนๆ เช็คจากปฏิกิริยาของคนดูในโรงมันก็บันเทิงได้จริงๆ ส่วนของนักแสดง เรย์ อนันดา ชาคริต ก็เป็นการรวมตัวที่น่าดูนะเพราะไม่ได้เห็นสามคนนี้เจอกันในหนังตลกลูกบ้าล้นๆ แบบนี้บ่อยๆ นัก อีกทั้งงานสร้างก็ไม่ได้สุกเอาเผากินแถมยังดูแพงด้วยนักแสดงสมทบโขยงใหญ่ CGIเหี้ย โลเคชั่น ช็อตเครน…
เร็วทะลุเร็ว – Raew-Talu-Raew
เร็วทะลุเร็ว (2014) พันนา ฤทธิไกร พันนา ฤทธิไกร อาจไม่ใช่คนทำหนังที่เล่าเรื่องเก่ง ตลอดทั้งเรื่องมันพรุนไปด้วยข้อบกพร่อง ทั้งที่เราไม่ได้คาดหวังอะไรกับมิติของบท การกำกับการแสดง แต่แม้กระทั่งสิ่งที่ดีอันเป็นจุดแข็งที่สุดของหนังอย่างคิวแอคชั่นก็ยังผสมผสานกันทั้งสิ่งที่ยอดเยี่ยมและหลายอย่างที่ไม่เข้าท่า มันเหมือนเป็นหนังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยpassion ของความเป็นแอคชันคลาสสิค เต็มไปด้วยโมเมนต์ที่ดี ขณะเดียวกันก็ประดักประเดิดขาดเป็นวิ่นๆ ไม่สามารถกลมกลืนลงตัวได้ในแบบคนทำหนังที่เล่าเรื่องเก่ง แต่ก็เป็นหนังที่เต็มไปด้วยรสชาติแอคชันไทยคลาสสิคอย่างที่ใครก็ทำไม่ได้เหมือนกัน คิวบู๊ในหนังทะเยอทะยานเกินงบประมาณไปไกลมาก แต่สิ่งที่พันนาเลือกคือการชักดาบสองคมดันไปให้สุดจนสุดทาง การจะพารถไฟไทยเหิรฟ้าไปชนคอปเตอร์แลกมาด้วยซีจีห่วยบรม เป็นการตัดสินใจที่บ้าและกล้าดีในยุคที่คนไทยมีมารตฐานซีจีระดับฮอลลีวู้ดโอนลี่เป็นพื้นยืนไปแล้ว นอกจากซีจีที่ดูจะเป็นปัญหาไม่น้อยสำหรับคนส่วนใหญ่ที่คงส่ายหัวไม่รับ ซาวด์เอฟเฟกในคิวบู๊ก็ดูจะเป็นอะไรที่น่ารำคาญไม่น้อย การใส่ซาวด์เอฟเฟกหลายๆ ครั้งที่ไม่เมกเซนส์และดูจะพร่ำเพรื่อไปหน่อย เป็นมุขที่โพสต์โปรดักชั่นของสหมงคลฟิล์มไม่ได้พัฒนาขึ้นมาจากยุคองค์บากเท่าไหร่เลย แต่ในฐานะที่หนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องสุดท้ายของตำนานผู้กำกับ/ผู้ออกแบบคิวบู๊ไทยอย่าง พันนา ฤทธิไกร สิ่งที่สัมผัสได้เต็มๆ…
Automata – ล่าจักรกล ยึดอนาคต
วิวัฒนาการที่มนุษย์หวั่นเกรง [No Spoil] หากหนังหุ่นไซบอกที่มีวิทยาการเลิศล้ำจากฟากฮอลลีวู้ดไม่ทำให้รู้สึกแปลกใหม่ประทับใจมากขึ้นแต่อย่างใด ขอแนะนำให้ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาเสพภาพยนตร์ไซไฟสัญชาติสเปนดูกันบ้าง แน่นอนว่ารสชาติหนังสเปนไม่เคยทำให้ผิดหวัง และยังได้ความรู้สึกใหม่ๆจากหนังไซไฟที่หาการตีความแบบนี้ไม่ได้จากฟากอเมริกัน ออโตมาต้าเป็นภาพยนตร์ที่มีคอนเซปต์และแก่นเรื่องชัดเจน สารในภาพยนตร์กล่าวถึงแนวคิดของวิวัฒนาการโดยธรรมชาติ หลักใหญ่กล่าวถึงการวิวัฒนาการยุคต่อไปหลังจากนี้ ซึ่งแน่นอนในหนังเรื่องนี้สิ่งที่มีวิวัฒนาการต่อไปไม่ใช่มนุษย์แต่กลับเป็นหุ่นไซบอกที่มีสมอง การเรียนรู้ และความคิดที่ซับซ้อนกว่ามนุษย์หลายสิบเท่า ซึ่งแน่นอนว่ามีสิทธิ์ที่จะเกิดขึ้นได้และมนุษย์ที่มีพัฒนาการด้อยกว่าจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ครองโลกอีกต่อไป แนวคิดอันล้ำลึกมาพร้อมการแทนค่าสัญลักษณ์ต่างๆในภาพยนตร์มากมาย ที่ผู้กำกับเลือกใส่ไว้ทำให้ตัวหนังมีน้ำหนักมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเต่าทะเล ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการวิวัฒนาการตามทฤษฎีของ ชาร์ล ดาวิน หรือเขตกัมตรังสีสูงที่ทำให้มนุษย์ไม่สามารถอยู่ได้และจำกัดพื้นที่การอยู่อาศัยของมนุษย์ให้น้อยลง ต่างจากหุ่นยนต์ที่สามารถอยู่ได้ทุกสภาวะในโลก(หลังจากธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไป) ซึ่งผู้กำกับได้ใส่ความหมายนี้ลงไปด้วยแมลงสาบที่อยู่ทนได้ทุกสภาวะและเอาชีวิตรอดมาได้ทุกยุคสมัย นอกเหนือจากนี้ฉากการโหนสลิงข้ามไปยังอีกฝั่งของหน้าผาก็ยังสื่อไปถึงการก้าวข้ามผ่านวิวัฒนาการที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าถึงได้ ด้วยการแทนค่าสัญลักษณ์ต่างๆเหล่านี้ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มีความประณีตในเชิงตกตะกอนความคิด และแจกแจงคอนเซปต์และแก่นสารได้อย่างชัดเจนและมีน้ำหนักมากทีเดียว “ห้ามทำร้ายมนุษย์และห้ามปรับปรุงตัวเอง” มันคือกฏเหล็กสองข้อที่วิศวกรคอมพิวเตอร์มนุษย์ผู้ออกแบบหุ่นออโตมาต้าได้ลงข้อมูลเอาไว้ด้วยความหวาดกลัว และเพื่อปกป้องสายพันธุ์มนุษย์ผู้เป็นใหญ่ที่ครอบครองผืนโลกเอาไว้สายพันธุ์เดียว ด้วยเกรงว่าเหล่าออโตมาต้าหรือไซบอกที่ถูกออกแบบเอาไว้ใช้งานต่างๆตั้งแต่แม่บ้านจนถึงงานกรรมกรในอุตสาหกรรมก่อสร้างจะมีพัฒนาการและเรียนรู้ที่จะปรับปรุงระบบของตัวเองจนมนุษย์ไม่สามารถควบคุมอยู่ได้ …
Love Rosie – เพื่อนรักกั๊กเป็นแฟน
Love, Rosie (Christian Ditter / UK, Germany / 2014) หนังน่ารักดีนะ ดูเพลินๆ สนุกดีเลย ถึงตัวละครต่างๆ มันจะเดี๋ยวเข้าเดี๋ยวออกชีวิตนางเอกง่ายแบบจับวางตั้งใจให้เซอร์ไพรส์ไปหน่อย แล้วมันขาดช่วงบรรยากาศโมเมนต์ความสัมพันธ์เรียลๆ เมจิกๆ ที่ไม่ปั้นให้มันโรแมนติกหรือตลกเกินไปน่ะ แต่ทำไงได้ก็มันปูทางมาเป็นพล็อตฟีลกู๊ดแฟนตาซีขนาดนั้น ความฝันของตัวละครก็ดูเพ้อๆ แต่ก็รู้สึกว่านางเอกมันก็เป็นตัวแทนผู้หญิงกลุ่มเพ้อนี้ได้ตลกดีเหมือนกัน เหมือนเวลาเราได้ยินเพื่อนผู้หญิงคุยกันใฝ่ฝันผู้ชายดีๆ แต่บางทีหน้าหล่อหุ่นเฟิร์มกลับทำให้ตัดสินใจเหมารวมหรือเป็นข้อยกเว้นไปได้ในพริบตา ***สปอยล์***ชอบช่วงที่เหมือนพระเอกนางเอกเป็นชู้กันนะ ผู้หญิงที่อยากได้ผู้ชายที่ตัวเองชอบมาครอบครองโดยที่ไม่แคร์ผู้หญิงอีกคน ผู้ชายที่ก็ยังรักผู้หญิงคนเดิมถึงจะมีเมียที่กำลังท้องอยู่แล้วก็ตาม คือพอนึกตามส่วนที่หนังไม่ได้เล่ามันน่าสนใจดีและเป็นฉากที่เราอยากเห็น อย่างเช่น พระเอกนั่งเขียนเมล์หรือจดหมายหานางเอกให้นางเอกมาหาหลังจากที่เมียพระเอกบอกว่าตั้งท้อง มันน่าจะเป็นฉากที่พิเศษดี แต่แน่นอนว่าจะไม่ได้เห็นในหนังเรื่องนี้ ก็เลยได้เห็นแค่ฉากที่นางเอกคิดอะไรโง่ๆอย่างที่จะไปแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของพระเอกในพิธีแต่งงาน(ซึ่งยังดีที่มันไม่เกิดขึ้น) แล้วเวลาในหนังผ่านไปเป็นสิบปีกลับไม่ค่อยเห็นพัฒนาการตัวละครสักเท่าไหร่ สัมผัสการเติบโตของตัวละครได้แค่ผิวเผินโดยมีลูกที่กระเตง…
Young Ones – เมืองเดือด วัยระอุ
Young Ones (Jake Paltrow / USA / 2014) เสียดายมากๆ ที่การกำกับตัดต่อรวมถึงบทเล็กน้อยบ้างแผลใหญ่บ้างที่พอมารวมกันแล้วมันส่งหนังไปไม่สุด มันสะดุดแล้วก็ลุกอยู่อย่างนั้นอยู่นานเหมือนกัน เดี๋ยวดีบ้างเดี๋ยวเห่ยบ้าง ทั้งที่พล็อตมันเป็นทริลเลอร์สนุกๆได้และมีเรื่องมีราวสะเทือนเลือนลั่นได้เหมือนกัน เซ็ตอัพคนกลุ่มหนึ่งขาดแคลนน้ำพื้นที่แห้งแล้งราวกับทะเลทรายขณะที่อีกฟากหนึ่งของโลกไซไฟมันน่าสนใจดีแล้วเราก็ชอบที่หนังมันเล่าไซไฟแบบเบาๆ บางๆ มากๆ แต่รู้สึกว่ามันเป็นโลกเดียวกันและสำคัญต่อกัน ที่สำคัญคือความไม่หวือหวาของโลกไซไฟทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นโลกอนาคตที่เป็นไปได้ในอนาคตอันใกล้ ก็เลยอินกับโลกไซไฟของมันเป็นพิเศษ แล้วถึงมันจะไม่ได้ออกหมัดแม่นถึงขั้นกระแทกสะเทือนทั้งๆ ที่มันทำได้ดีมากกว่านี้ แต่ก็ยังชอบมากอยู่ดี ปล.1นั่งข้างๆ ผู้หญิงคนหนึ่งสงสัยจะแฟนคลับ Nicholas Hoult ที่โผล่ออกมาช็อตแรกปุ๊บนี่สัมผัสได้ถึงรังสีติ่งเลย นั่งนิ่งตาจ้องจอเยิ้มย้อย แล้วมันตลกมากตรงที่พอถึงจุดเปลี่ยนตัวละครดูท่าทางเค้าจะเหวอๆ แล้วช็อตสุดท้ายนี่แกสะดุ้งอึ้งแดกเลยทีเดียว เราสะดุ้งตามแต่ก็แอบขำอยู่ในใจ…ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ปล.2บ่น…วันพุธทั้งวันไม่ว่างแล้วเลือกดูได้แค่เรื่องเดียว..คิดผิดที่เลือกดู Young Ones ที่ตอนนี้ยังตามไปดูได้ที่…
รักหมดแก้ว – Ruk-Mot-Kaew
รักหมดแก้ว (ษรัณยู จิราลักษม์ / Thailand / 2014) จริงๆ มันก็ดูเพลินๆ ดีนะ แล้วก็ชอบอะไรหลายๆ อย่าง การเล่าการตัดต่อบางอย่างบางตอนที่หนังไทยไม่ค่อยเล่นกัน การเข้าออกและการกลับมาของตัวละครที่ไม่ได้มีแค่พระเอกนางเอกที่มันมีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตทั้งความคิดและความสัมพันธ์ การกำกับการถ่ายภาพที่ทำให้หนังมันดูแพงขึ้น ทั้งที่ก็เห็นๆ ว่ามีโลเคชั่นเดิมๆ เหมือนที่เคยเห็นในหนังรอมคอมไทยที่ผ่านๆ มา ผับ ร้านเหล้า บ้าน-สระว่ายน้ำ ห้องขัง มหาวิทยาลัย ฯลฯ แต่เสียดายที่บทมันชัดไปหน่อยโดยเฉพาะไดอะล็อก ก็รู้สึกว่าตัวละครมันกลมแหละแต่ตัวที่กลมก็กลมด้วยรูปแบบที่เป็นแบบฉบับไปหน่อย อ่าน คาลิล ยิบราล ปมพ่อแม่ในวัยเด็ก แบบถ้าเล่าที่มาที่ไปแบ็กกราวน์ชัดๆ…
Ouija – กระดานผีกระชากวิญญาณ
Ouija วีจี กระดานผีแอคชั่น ครั้งแรกที่เป็นโปสเตอร์เรื่องนี้ หลายๆคนคงตกใจกับชื่อเรื่องที่เขียนว่า Ouija หลายคนอาจจะแอบอ่านเป็น อุ๋ยจ๋า แน่ๆแต่ถ้าใครเคยรู้เรื่องเกียวกับตำนานกระดานผี Ouija จะต้องอ่านออกเสียงว่า วีจีแน่นอน ซึ่งเอาจริงๆมันแทบไม่ต่างจากกระดานผีถ้วยแก้วของบ้านเราเลยนะเนี่ย เพียงแต่ กระดานวีจี นั้นจะมีฟังค์ชั่นเสริมเข้ามานั่นก็คือ ตัวแผ่นที่ให้คนเอานิ้วแตะสามารถนำมามองส่องหาวิญญาณได้ด้วย ถือว่าเป็นฟังค์ชั่นสนอง need คนที่ต้องการเห็นสิ่งลี้ลับจริงๆ นอกเรื่องไปซะไกลวนกลับมาตัวหนังดีกว่า เรื่อง Ouija เอาจริงๆเป็นหนังที่ดำเนินเรื่องตามสูตรหนังแนวนี้เอามาๆ ซึ่งส่วนตัวคิดว่ามันก็ใช้ได้ตามมาตรฐานหนังแนวๆนี้นะ คือดูแล้วก็โอเค ตกใจบ้าง มีหลอกคนดูบ้าง หักมุมบ้าง แต่ที่เด่นที่สุดของเรื่องนี้คือช่วงท้ายของภาพยนตร์ที่เรียกได้ว่า แอคชั่นเอฟเฟคกระจาย แต่ก็ไม่วายแอคชั่นน้อยไปหน่อยเลยเรียกได้ว่า เกริ่นต้นเรื่องมาซะยาว…