รักหมดแก้ว – Ruk-Mot-Kaew

รักหมดแก้ว (ษรัณยู จิราลักษม์ / Thailand / 2014) จริงๆ มันก็ดูเพลินๆ ดีนะ แล้วก็ชอบอะไรหลายๆ อย่าง การเล่าการตัดต่อบางอย่างบางตอนที่หนังไทยไม่ค่อยเล่นกัน การเข้าออกและการกลับมาของตัวละครที่ไม่ได้มีแค่พระเอกนางเอกที่มันมีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตทั้งความคิดและความสัมพันธ์ การกำกับการถ่ายภาพที่ทำให้หนังมันดูแพงขึ้น ทั้งที่ก็เห็นๆ ว่ามีโลเคชั่นเดิมๆ เหมือนที่เคยเห็นในหนังรอมคอมไทยที่ผ่านๆ มา ผับ ร้านเหล้า บ้าน-สระว่ายน้ำ ห้องขัง มหาวิทยาลัย ฯลฯ  แต่เสียดายที่บทมันชัดไปหน่อยโดยเฉพาะไดอะล็อก ก็รู้สึกว่าตัวละครมันกลมแหละแต่ตัวที่กลมก็กลมด้วยรูปแบบที่เป็นแบบฉบับไปหน่อย อ่าน คาลิล ยิบราล ปมพ่อแม่ในวัยเด็ก แบบถ้าเล่าที่มาที่ไปแบ็กกราวน์ชัดๆ แบบนี้มันจะกลม จริงๆ คือมันจะดีก็ได้นะถ้าไม่เล่า Voice Over แบบนี้ ลำดับเรื่องแบบนี้ การเห็นคนหนึ่งนั่งอ่านยิบราลกับตากับอีกคนที่มาบอกว่าเนี่ยกูอ่านคาลิล ยิบราล นะ มันให้ความรู้สึกต่างกันนะ อันหลังทำให้มันมีความกระแดะจางๆ ออกมาให้รู้สึกถึงความไม่จริงอยู่หน่อยๆ ความเก๋ไก๋มันทำให้ความปกติมนุษย์ธรรมดาของตัวละครลดลงไปในความรู้สึกของเราจนเราเข้าไม่ถึงตัวละคร ทั้งๆ ที่เราก็สนใจทัศนคติที่คล้ายตัวเราของตัวละครพระเอกนางเอกด้วย แต่พอมันยิงธีมกระจายไว้หลายที่หลายฉากมันก็มีอิดเอียนกันบ้าง ชอบตัวละครของมาช่าที่สุดในเรื่องถึงเราจะรู้สึกว่าตัวละครตัวนี้มันสร้างขึ้นมาเป็นทั้งตัวแย้งและสนับสนุนพระเอกนางเอกตรงๆ ไปหน่อย คือตัวละครมันดีแหละแต่ไดอะล็อกที่มันพูดมันตรงไป และยังมีการเล่าด้วย Execution ที่คลิเชอยู่บ้าง แต่มาช่าก็เอาอยู่ดีมากจริงๆ ฉากนอนเตียงในโรงพยาบาลที่นั่งคุยกับ อ๊อฟ ปองศักดิ์ แค่ฉากเดียวทำให้มาช่าตีตื้นขึ้นมามีมิติได้ น้ำตารื้นๆ น้ำเสียงสั่นเครือที่เรารู้สึกว่าถึงจะเข้มแข็งถึงจะกร้านโลกยังไงความรู้สึกมันก็ขัดแย้งกับทัศนคติตัวเองได้เหมือนกัน ส่วนที่ดับที่สุดคือพระเอกกับฉากดราม่าไคลแม็กซ์ที่ตั้งใจเรียกน้ำตาแต่กลับพังเพราะเล่นเก้กังยังไม่ถึง แต่ยังดีที่มีนางเอกช่วยไว้ได้บ้าง ถึงจะบ้างแบบน้อยนิดก็ตามที…แล้วฉากในศาลนี่มองมันตลกขำๆ ก็โอเค แต่เราก็ไม่ซื้อในฐานที่เป็นฉากใช้สรุปธีม…จุดเปลี่ยนก่อนหน้านั้นมันง่ายไปหน่อยที่จะให้โรแมนติกขนาดนั้น แต่ดีหน่อยที่ยังรู้สึกว่าเดี๋ยวหลังจากหนังจบในโลกของตัวละครที่เป็นแบบนี้มันก็ยังจะตบตีกันอีกอยู่นั่นแหละ