Way Down หยุดโลกปล้น มาถึงอีกหนึ่งโปรแกรมหนังใหม่ที่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่เบาในสัปดาห์นี้ นี่คือหนังโจรกรรมที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์คลูๆ สัญชาติสเปน ที่พูดภาษาอังกฤษสลับกับภาษาสเปนใน “Way Down” (หยุดโลกปล้น) กิมมิกเจ๋งๆ ของหนังด้วยการผูกโยงภารกิจปล้นสมบัติล้ำค่าด้วยแผนที่แยบยล โดยใช้สถานการณ์ศึกชิงชัยมหกรรมฟุตบอลโลกนัดสำคัญของชาติเข้ามาเป็นเครื่องบินบังหน้า ฟังดูแล้ว…มันช่างดูมีกึ๋นในการผนวกเรื่องกันเสียจริงๆ Way Down พาผู้ชมไปโฟกัสที่ธนาคารแห่งชาติสเปน ขึ้นชื่อว่าเป็นธนาคารที่มีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดจนไม่มีโจรหน้าไหนกล้าปล้น หนึ่งในสาเหตุก็เพราะมันไม่มีพิมพ์เขียว ไม่มีข้อมูล และไม่มีคนที่ยังมีชีวิตอยู่คนไหนรู้จักกลไกการทำงานของตู้เซฟที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว ปริศนาที่เหมือนจะไม่มีคำตอบนี้ดึงดูดความสนใจของทอม หนุ่มอัจฉริยะที่ต้องการเอาชนะเซฟโบราณที่ซ่อนอยู่ที่ชั้นใต้ดินของธนาคารกลางสเปน เมื่อทอมโดนทาบทามจากเซียนงานศิลปะ วอลเทอร์ ให้มาร่วมทีมชิงสมบัติโบราณที่จะถูกเก็บไว้ในธนาคารเพียงแค่สิบวัน ทอมและทีมต้องวางแผนจารกรรมพร้อมเอาตัวรอดออกจากธนาคารที่ได้ชื่อว่าไม่มีวันถูกปล้น ภายใต้ระยะเวลา 105 นาทีของการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศระหว่างสเปนและฮอลแลนด์ที่ทุกคนจดจ่อกับการแข่งขันจนอาจเปิดช่องให้พวกเขาได้ทำการจารกรรมที่เป็นไปไม่ได้นี้ บอกตรงๆ หนังอย่าง…
Category: รีวิวหนัง
โกงพลิกเกม Game Changer
โกงพลิกเกม Game Changer จะว่าไป…วงการหนังไทยที่ผ่านไปหลายปีก็ยังเนื่องแน่นไปด้วยเนื้อหาของหนังตลกเสียส่วนใหญ่ ปะปนด้วยหนังผีเข้ามาเป็นตัวชูโรงหลัก เพราะเป็นปัจจัยตามที่ตลาดคนดูหนังต้องการ จึงส่งผลทำให้หนังไทยแนวๆ อื่นแทบจะหาดูไม่ค่อยได้เลย นายทุนก็ไม่กล้าจะลงทุนเพราะกลัวเจ๊ง แต่วันนี้เราได้กลับมาดูหนังไทยที่เคยมีสไตล์เท่ๆ เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ทั้งบู๊ ทั้งระทึก ไล่ล่าฉบับแก๊งสเตอร์ เรากำลังพูดถึง “โกงพลิกเกม Game Changer” หนังเรื่องล่าสุดจากค่ายไฟว์สตาร์ โกงพลิกเกม Game Changer เป็นหนังสไตล์แอคชั่นระทึกขวัญ ที่โฟกัสเรื่องราวของกลุ่มอันธพาลเพื่องพ้องในเมืองที่เต็มไปด้วยอาชญากรรมและกลุ่มแก๊งครองอิทธิพลไปทั่วเมือง พวกเขาทั้ง 4 คนเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ทำงานให้กับบอส ที่คอยควบคุมแก๊งต่างๆ ในพื้นที่ให้อยู่ในความสงบ และทุกแก๊งจะต้องส่งส่วยให้เป็นประจำ…
Sinkhole ฝ่าวิกฤตหลุมระทึก
Sinkhole ฝ่าวิกฤตหลุมระทึก และนี่คือหนังที่ทำรายได้แบบถล่มทลายมาแล้วในเกาหลีใต้ มาช่วยพลิกฟื้นสถานการณ์วงการหนังหลังจากวิกฤตโควิด-19 ค่อยๆ คลี่คลาย กับสูตรสำเร็จความเป็นหนังบ็อกซ์บัสเตอร์แบบเกาหลีๆ นี่ก็คือ “Sinkhole” (ฝ่าวิกฤตหลุมระทึก) หนังหายนะที่มาพร้อมกับอารมณ์ขันที่ถูกจับนำมาใส่ในเหตุการณ์ไม่น่าจะขำขันออก อีกทั้งยังได้ทีมนักแสดงระดับตัวท็อปๆ ของชาติมาการันตีความเบ๊อะบ๊ะได้ถึงกึ๋น Sinkhole ฝ่าวิกฤตหลุมระทึก เล่าเรื่องราวของ พัคดงวอน หัวหน้าครอบครัวที่ใฝ่ฝันอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองในสักวัน เขาถึงได้ทุ่มเงินเก็บและเก็บกู้ที่สั่งสมเอาไว้ถึง 11 ปี ซื้อคอนโดมิเนียมเพิ่งสร้างเสร็จหมาดๆ ด้วยเงินก้อนนี้ เพื่อได้อยู่กับลูกเมีย แต่ปรากฏว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อคอนโดฯ ทั้งหลังได้ถูกธรณีสูบลงไปต่อหน้าต่อตา ไถลลงไปในหลุมยุบกลางเมือง ลึกลงไปหลายร้อยเมตร และไม่ใช่แค่เขาที่ติดอยู่ในซากอาคารคาหลุมยุบ พวกเขาจึงต้องหาวิธีขึ้นไปให้ได้ หนังเป็นผลงานใหม่ของผู้กำกับ “คิมจีฮุน” ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อหนังหายนะ…
Pet Sematary (2019) กลับจากป่าช้า
ข้อดีประการสำคัญของการดูฉบับรีเมคนี่ก็คือ มันทำให้ผมรู้สึกชอบภาคต้นฉบับมากยิ่งกว่าเก่า จริงๆ แต่เดิมผมก็ชอบภาคต้นฉบับอยู่แล้วน่ะนะครับ จำได้ว่าดูรอบแรกทาง ITV สมัยที่เขายังมีหนังฉายตอนดึกของคืนวันอาทิตย์ ตัวหนังมีกลิ่นอายสไตล์ยุค 90 ที่สยองแบบกินบรรยากาศ ตอนแรกอะไรๆ จะดูปกติธรรมดา แต่สักพักก็จะเริ่มมีเรื่องมาให้ขนลุกแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ค่อยๆ ไต่ระดับความสะพรึงไปทีละขั้นๆ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้สุดยอดน่ะนะครับ แต่ก็ถือว่าทำออกมาน่าติดตามและเป็นหนังที่ดัดแปลงจากงานของ Stephen King ได้ดีอีกเรื่องหนึ่ง มาในฉบับนี้ ผมรู้สึกว่าหนังพยายามทำบรรยากาศให้มันอึมครึมมืดทึมตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะมืดด้วยภาพ มืดด้วยบรรยากาศ มืดด้วยปมของตัวละคร (ที่แต่ละคนจะมีแผลในใจไม่มากก็น้อย) คืออารมณ์มันดูหม่นตลอดไปจนจบ ซึ่งสำหรับบางคนก็อาจจะชอบสไตล์นี้น่ะนะครับ แต่สำหรับผมแล้วมันทำให้รู้สึกว่าหนังมีโทนเดียว คือ…
The LEGO Ninjago Movie (2017) เดอะ เลโก้ นินจาโก มูฟวี่
ยอมรับว่าผมไม่คุ้นกับซีรี่ส์ชุดนี้เลยครับ แม้จะเห็นมีฉายทาง Mono29 ก็เถอะ แต่มันไม่แนวจริงๆ สงสัยเลยวัยเลยมั้ง (555) เคยพยายามดูเอาขำ มันก็พอขำครับ แต่ก็ไม่ได้ติดหรืออยากติดตามอะไร นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงเฉยๆ กับฉบับหนังใหญ่ ที่ก็ดูท่าว่าจะกลายเป็นหนังในซีรี่ส์ LEGO ที่ทำเงินไม่เข้าเป้าเท่าไร ได้ในอเมริกาไป $50 กว่าล้าน โดยหากรวมทั่วโลกก็ประมาณ $100 ล้าน แต่หากดูจากทุน $70 ล้าน ก็ถือว่ายังไม่กำไร เรื่องนี้ก็ออกแนวขบวนการห้าสีครับ เป็นเหล่านินจาสีต่างๆ ที่ต้องคอยรับมือกับวายร้ายการ์มาดอนที่จ้องจะทำลายเมืองไม่เว้นวัน แต่เหล่านินจาโกก็สามารถรับมือพวกของการ์มาดอนได้เสมอๆ การผจญภัยบนจอใหญ่ของพวกเขาก็คล้ายกันครับ…
Fear Street: Part Three – 1666 (2021) ถนนอาถรรพ์ ภาค 3: 1666
แล้วก็มาถึงบทสรุปแห่งไตรภาค Fear Street ครับ หนนี้หนังจะพาเราไปพบกับบทเริ่มต้นแห่งคำสาปที่สร้างความสยองให้กับเมืองเชดดี้ไซด์มานานหลายร้อยปี และเรื่องราวของซาร่าห์ เฟียร์ที่เปิดปมไว้ตั้งแต่ภาคแรก ก็จะมากระจ่างเอาภาคนี้ครับ หนังย้อนไปเล่าเรื่องในปี 1666 ที่จุดกำเนิดของทุกสิ่ง แล้วก็จะมีการขมวดปมจบเรื่องราวทั้งหมดด้วย ซึ่งบทสรุปจะเป็นอย่างไรก็อยากให้ลองชมกันครับ แล้วก็บอกได้เลยว่าภาคนี้ทำได้สนุกและน่าติดตามไม่น้อยทีเดียว ถ้าว่ากันในแง่ความโหดแล้ว หนังอาจไม่โหดเท่าภาค 2 เพราะจะว่าไปแล้วเรื่องหลักๆ ที่หนังเล่าก็คือเรื่องชีวิตของซาร่าห์ เฟียร์และสิ่งที่เธอต้องเจอซึ่งมันจะเทน้ำหนักไปในเชิงดราม่ามากกว่าจะเน้นความน่ากลัว ซึ่งถือเป็นอะไรที่เหมาะครับเพราะหนังก็เน้นความสยองมา 2 ภาคแล้ว พอมาภาคนี้ก็ถือว่าแหวกแนวไปทางอื่น ซึ่งการเล่าแบบเน้นตัวละครและเน้นไปในทางดราม่านี้ก็เข้ากับเรื่องราวของตำนานซาร่าห์ เฟียร์ได้อย่างพอเหมาะครับ ดูแล้วทำให้เข้าใจอะไรๆ มากขึ้น ช่วยให้เห็นภาพรวมของเรื่องราวทั้งหมดได้ ในภาคนี้นอกจากเราจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของตัวละครแล้ว หนังก็ยังสะท้อนเรื่อง “ความกลัว ความงมงาย…
Death Note (2017) เดธ โน้ต
1)มาแล้วครับ Death Note เวอร์ชั่นอเมริกัน ซึ่งผมก็ยอมรับว่าตอนดูตัวอย่างมันยังรู้สึกไม่โดนสักเท่าไร ส่วนจะ “ใช่” แบบต้นฉบับหรือไม่นั้นผมคงไม่สามารถตอบได้เพราะไม่เคยอ่านฉบับการ์ตูนเลย รู้แค่ว่าชอบหนังมากๆ (2 ภาคแรกน่ะนะครับ) จริงๆ ผมเคยบอกตัวเองไว้แล้วนะว่าก่อนดูฉบับนี้ควรทำใจและล้างความคาดหวังกับล้างภาพฉบับหนังญี่ปุ่นออกไปก่อนดู แต่พอดีผมดูมันแบบกระทันหันน่ะครับ คือมันมาเมื่อวาน (ซึ่งผมลืมว่ามันจะมาเมื่อวาน 555) พอเจอแล้วก็ดูทันทีแบบลืมลดความคาดหวัง ก็เลยทำให้การดูช่วงต้นๆ ของผมออกจะอึ้งๆ อยู่บ้าง ดังนั้นคำแนะนำของผมก็คือ ล้างภาพเก่าออกครับ อันนี้คือในกรณีที่ท่านอยากลองดูฉบับนี้น่ะนะครับ ล้างของเก่าออกก่อน ประเภทว่าถ้าใครอยากดูเนื้อเรื่องออกแนวชิงไหวชิงพริบ หักเหลี่ยมเท่ห์ๆ กันเนี่ย บอกเลยครับว่าไม่ใช่กับ Death…
Unfriended (2014) อันเฟรนด์
Unfriended เป็นหนังสยองที่น่าสนใจดีครับ คือออกแนว Real แบบหนัง Found Footage ทั้งหลาย แต่แทนที่จะถือกล้องเหวี่ยงไปมา ก็เลือกที่จะแช่ตรงหน้าจอแล้วก็ดำเนินเรื่องไป หนังนำเสนอให้เราเห็นการสนทนาผ่านคอมของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่พอดีว่าก่อนหน้านี้มีเพื่อนคนหนึ่งเพิ่งฆ่าตัวตายไปครับ แล้วจู่ๆ วันนี้ระหว่างพวกเขาคุยกัน ก็มีคนลึกลับโผล่มาก่อกวน แล้วก็ไม่ได้กวนแบบเกรียนธรรมดาด้วย แต่มันยังเล่นเกมมรณะแบบถึงชีวิตกับพวกเขา จนแต่ละคนก็ต้องเจอกับความตายสยดสยอง ผมมองว่าหนังโอเคในระดับหนึ่งครับ ส่วนหนึ่งอาจเพราะผมเป็นคนนั่งหน้าจอคอม ดังนั้นการดูเพียงภาพคลิ้กไปคลิ้กมา มันเลยไม่ได้น่าเบื่อ (เพราะมันชิน ปกติก็นั่งอยู่เป็น ชม. อยู่แล้ว 555) และการลำดับเรื่องเพื่อสร้างความสยองก็จัดว่าไม่เลว แม้จะไม่จุดที่ดูไม่สมเหตุผลบ้าง แต่ก็นั่นแหละครับ หนังสยองก็อย่างนี้แหละ…
Night Teeth เขี้ยวราตรี
Night Teeth เขี้ยวราตรี หนึ่งในพล็อตเรื่องที่ฮอลลิวูดมักจะใช้หากินได้อยู่เรื่อยๆ เสมอต้นเสมอปลายก็คงจะหนีไม่พ้น เหล่าแวมไพร์ผีดูดเลือด ที่สามารถหยิบเอาอัตลักษณ์ของคาแรกเตอร์นี้มาจับวางใส่ในองค์ประกอบและสถานการณ์ต่างๆ ได้แทบจะทุกยุคทุกสมัยเลย และนี่ก็เป็นรูปแบบล่าสุดที่ถูกหยิบมาผสมคลุกเคล้าขึ้นใหม่ ออกมาเป็น “Night Teeth” (เขี้ยวราตรี) หนังแอคชั่นระทึกขวัญที่เต็มไปด้วยเลือดสาดนอง กับความเขย่าขวัญที่พยายาม…พยายามแล้วที่จะทำให้คนดูสะพรึง Night Teeth ว่าด้วยเรื่องราวของ เบนนี่ นักศึกษาหนุ่มที่มีชีวิตธรรมดาๆ แต่ปรากฏว่าเขาได้มีโอกาสเป็นโชเฟอร์ขับรถรับจ้างชั่วคราวแทนพี่ชายของเขา ปรากฏว่าผู้โดยสารที่เขาต้องให้บริการนั้น เป็นหญิงสาว 2 คน กับบุคลิกที่ลึกลับที่ออร่าของพวกเธอเปล่งประกายในยามดึกสงัด เขาต้องตระเวนขับรถไปทั่วนครลอสแองเจลิสตามคำสั่งตลอดทั้งคืน แต่พฤติกรรมของพวกเธออดทำให้เขาสงสัยไม่ได้ และได้นำพาเข้าไปสู่วังวนในโลกใบที่แสนอันตราย ที่เขาไม่ควรจะนำชีวิตตัวเองเข้าไปข้องเกี่ยวด้วยเลย… นี่คือผลงานผู้กำกับหนังเขย่าทุนต่ำ “อดัม…
Dune มหากาพย์ลิเกไซไฟโรงใหญ่ ที่อยากรีเควสให้ออกสารานุกรมสักเล่ม
Dune และเราก็ได้ฤกษ์เป็นประจักษ์ต่อสายตากับหนึ่งในโปรแกรมหนึ่งฟอร์มใหญ่ประจำปีนี้ที่มีหลายคนเฝ้ารอคอย กับมหากาพย์ไซไฟที่นับมาปัดฝุ่นสร้างใหม่อีกครั้งใน “Dune” ที่ดัดแปลงมาจากนิยายภาพดั้งเดิมของ “แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต” ที่เคยถูกสร้างเป็นหนังมาแล้วในปี 1984 ที่ออกจะเป็นแนวหนังคัลท์ไซไฟไปสักหน่อย แต่กลับมาคราวนี้ด้วยเทคโนโลยีภาพยนตร์ที่ทันสมัยขึ้น จึงทำให้งานสร้างต่างๆ ได้ถูกยกระดับได้ดีขึ้นอีกเป็นกอง และถือว่ายิ่งใหญ่สมราคาคุยอยู่ Dune เล่าเรื่อง พอล อะเทรดิส อัจฉริยะหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ที่เกิดมาพร้อมโชคชะตาอันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะเข้าใจ เขาต้องเดินทางไปยังดาวเคราะห์ที่อันตรายที่สุดในจักรวาลเพื่อความอยู่รอดและอนาคตของครอบครัวรวมถึงผู้คนของเขา หลังถูกรุกรานโดยกองกำลังวายร้ายหน้าเลือดที่หวังแย่งชิงทรัพยากรที่ล้ำค่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งสามารถใช้ดึงศักยภาพที่ซ่อนเร้นของมนุษยชาติออกมาได้ และมีเพียงผู้ที่สามารถเอาชนะความกลัวได้เท่านั้นที่จะอยู่รอดในศึกครั้งนี้ หนังเรื่องนี้เราอยากจะเริ่มต้นด้วยการให้คะแนนเต็ม 10 เอาไว้ก่อน โดยหลังจากนี้จะมาไล่เรียงและตัดคะแนนกันไปทีละส่วนๆ กันดูว่า Dune จะยังสมบูรณ์แบบเพียงพอกับการเป็นมหากาพย์หนังไซไฟเรื่องใหม่ให้กับ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส…