Category: รีวิวหนัง

ทุกวันนี้เทคโนโลยีไปไกลมากครับ และมันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่เรารู้ซะอีก ซึ่งก็แน่นอนว่ามันมีทั้งมุมที่ดี และมุมที่อันตราย ว่าง่ายๆ คือจะใช้ช่วยคนก็ได้ หรือจะใช้มันกระทำอาชญากรรมก็ยังได้ Ratter จับประเด็นง่ายๆ เมื่อสาวน้อย เอ็มม่า (Ashley Benson) ย้ายมาอยู่นิวยอร์กเพียงลำพัง ซึ่งตอนแรกชีวิตก็อิสระดีล่ะครับ เธอมีเพื่อน มีแฟน มีชีวิตง่ายๆ แบบที่วัยรุ่นชอบ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามีแฮคเกอร์ลึกลับกำลังแฮคเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างโทรศัพท์, แลปท็อป ฯลฯ เพื่อให้ในการแอบดูเธออยู่ และเมื่อเวลาผ่านไปเธอก็เริ่มสงสัยครับ เพราะมันชักจะมีเรื่องแปลกๆ ชวนให้เธอรู้สึกผวามากขึ้นๆ ก่อนที่การคุกคามจะหนักข้อขึ้น จนถึงขั้นที่อาจจะอันตรายต่อชีวิตเธอเลยก็ได้ ถ้าพูดในแง่หนัง หนังก็ออกแนวเรียบเรียงคลิปผ่านกล้องจากแลปท็อป,…

หนังมาเหมาะกับจังหวะลูกเทพครองเมืองเลยครับ พอข่าวมาหนังก็เข้า (ส่วนตอนนี้กระแสลูกเทพก็ซาไปตามกาลเวลาเรียบร้อย) เรื่องของ เกรต้า (Lauren Cohan) พี่เลี้ยงที่รับงานเลี้ยงเด็กให้กับครอบครัวฮีลไชร์ แต่เมื่อเธอไปพบกับเด็กที่ต้องเลี้ยงก็มีอันให้ตกตะลึง เพราะเด็กที่ว่าคือตุ๊กตาที่ชื่อว่า บราห์มส์ ครับ และการเลี้ยงบราห์มส์ก็ไม่ใช่แค่จับตุ๊กตานั่งๆ นอนๆ แต่ยังมีกฎที่เธอต้องทำตามแบบไม่ให้พลาดแม้แต่ข้อเดียว แล้วจากนั้นพ่อแม่ของลูกเทพตนนี้ก็ไปเที่ยวพักร้อนกัน ปล่อยให้เกรต้าต้องเลี้ยงบราห์มส์เพียงคนเดียว แต่เมื่อเกรต้าลืมทำตามกฎบางข้อ ความน่ากลัวก็เริ่มต้นขึ้น หลายคนอาจคิดว่าเป็นหนังผีน่ากลัว แต่เอาเข้าจริงเป็นหนังสยองระทึกขวัญเชิงจิตวิทยามากกว่า หนังยังคงใช้ประโยชน์จากหลืบมืดๆ ของบ้าน และความหลอนของตุ๊กตาลูกเทพที่ชื่อบราห์มส์ตนนี้ คือแค่เอาบราห์มส์มานั้งจ้องหน้าอยู่เฉยๆ เราก็ยังเกิดความหลอนได้แล้วล่ะครับ ตัวหนังจัดว่ามีปมซ่อนเงื่อนให้เราตามพอสมควร แต่ถ้าถามว่าหนังสนุกมากไหม น่าติดตามมากไหม ผมก็ว่าหนังโอเคครับ…

ต้องยอมรับนะครับว่าของอะไรก็ตามที่ฮิตขึ้นมาน่ะ มันจะต้องโดนคนทำหนังจับมาใส่เรื่องผีสางเหนือธรรมชาติลงไปเสมอ 555 หลังจาก Unfriended หนังผีนำร่องที่เอาโลกโซเชี่ยลมาเป็นพื้นที่ให้ผีอาละวาดแล้ว ก็มีหนังแนวผีหรือไม่ก็แนวระทึกที่ว่าด้วยโลกโซเชี่ยลตามออกมาเรื่อยๆ ครับ แอบคิดเหมือนกันนะว่าไม่มีใครคิดจะทำหนังที่ว่าด้วยโลกโซเชี่ยลมาบอกเล่าในเชิงเกี่ยวกับความสร้างสรรค์ของมันบ้างหรืออย่างไร (หรือถ้าคิดในอีกแง่หนึ่ง พล็อตว่าด้วยเรื่องดีๆ อาจไม่ดึงดูดผู้ชมเท่าพล็อตที่ว่าด้วยเรื่องสยองๆ ก็ได้) เรื่องนี้ไม่ได้มาในแนว Found Footage ครับ อันนี้บอกให้สบายใจไว้ก่อน เผื่อใครกลัวมึนหัวจะได้ไม่ต้องระแวง เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวแบบหนังสยองน่ะครับ เกี่ยวกับนักศึกษาสาวคนหนึ่งที่เพิ่งฆ่าตัวตายไปเมื่อไม่นาน แล้วหนังก็เผยให้เรารู้ว่า ตัวเอกของเราที่ชื่อ ลอร่า (Alycia Debnam-Carey) ตกใจหน้าซีดทันทีที่รู้ว่าเธอคนนั้นตายแล้ว แต่เพราะอะไรเธอถึงหน้าซีด และมันจะนำไปสู่เรื่องราวแบบใด ก็ลองชมหนังเพื่อหาคำตอบได้ครับผม…

Return to Sender เป็นหนังที่หนุ่มๆ หลายคนอาจจะรอชม เพราะนำแสดงโดย Rosamund Pike สาวสวยเสน่ห์ร้ายจาก Gone Girl หนังว่าด้วย มิแรนด้า เวลส์ (Pike) พยาบาลสาวที่นัดบอดกับหนุ่มคนหนึ่งนามว่า วิลเลี่ยม (Shiloh Fernandez) ก่อนจะโดนเจ้าหนุ่มนั่นทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ แม้สุดท้ายเจ้าหนุ่มนั่นจะโดนจำคุก แต่มิแรนด้าก็ยังไม่ลืมสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในวันนั้น แต่แทนที่เธอจะแสดงท่าโกรธแค้น เธอกลับแวะไปเยี่ยมเขาที่คุกบ่อยๆ และยังทำท่าราวกับสนใจเจ้าหนุ่มวิลเลี่ยมซะอีก… หรือเธอมีแผนอะไรในใจกันแน่? ผมว่าหนังเจตนาขายความสวยของ Pike ครับ หลายฉากเลยที่เธอดูสวยบาดตา…

หนังทริลเลอร์ว่าด้วยเจ้าพ่อยาเสพติดวิลเลี่ยม สพิงค์ส (John Savage) สั่งให้ บ็อบบี้ กับ แฟรงค์ (John Corbett และ Jerry O Connell) ไปพาตัวสาวสวยชื่อเซดี้ (Gillian Jacobs) มาให้กับตน พร้อมเสนอข้อตอบแทนให้ แต่ทีนี้ระหว่างปฏิบัติการเซดี้เกิดเสียชีวิตไปครับ พวกเขาเลยต้องหาทางแก้ปัญหา ไม่งั้นข้อตกลงก็จะสูญทันที และทางออกที่พวกเขาหามาได้ก็คือตามหาคนที่ดูคล้ายเซดี้ที่สุด จนไปเจอเลซี่ (Jacobs เล่นเหมือนกัน) ที่เหมือนมากๆ ครับ แต่พวกเขาจะสามารถหลอกเจ้าพ่อว่าเลซี่คือเซดี้ได้หรือไม่ นั่นแหละครับคือปัญหาที่ใหญ่กว่า…

สำหรับผมแล้ว The Hoarder เป็นหนังลึกลับสยองขวัญที่น่าสนใจไม่น้อยครับ พล็อตว่าด้วยตัวเอกชื่อ เอลล่า (Mischa Barton) ที่สงสัยว่าตู้นิรภัยที่แฟนของเธอเช่าไว้จะซ่อนความลับบางอย่าง (เธอคิดว่าเขาคบชู้น่ะครับ แล้วก็อาจจะซ่อนหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนั้นไว้) เธอเลยหาทางเข้าไปที่ชั้นใต้ดินที่เก็บตู้นิรภัยที่ว่านั้น แต่เมื่อเธอลงไป เธอก็พบว่าตัวเองติดกับครับ เธอต้องติดอยู่ชั้นใต้ดินที่แสนลึกลับและมืดทึบ สักพักเธอก็พบว่ามีคนติดอยู่ข้างใต้นั้นเหมือนกัน ซึ่งพวกเขาก็ต้องมาหาคำตอบครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา และเรื่องมันก็ขมวดปมเข้มข้นขึ้นเมื่อพวกเขาเริ่มหายไปทีละคนๆ จริงๆ หนังดูเพลินไม่เลวครับ มันลึกลับดีน่ะ ตอนแรกตัวเอกลงไปในชั้นใต้ดินซึ่งมืดก็มืด แล้วยังดูเหมือนเขาวงกตกลายๆ ด้วย สักพักก็เริ่มมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้น ความสยองเริ่มผุดขึ้น ซึ่งก็น่าติดตามอยู่ไม่น้อยครับ แต่กระนั้นก็ยอมรับว่าบางช่วงหนังก็มีอืดช้าไปบ้าง และบางบทบางตอนก็ดูอ่อนเหตุผล…

ใน The Trials of Cate McCall นั้น Kate Beckinsale มารับบทดราม่าแบบเต็มตัวครับ เธอแสดงเป็น เคท แม็คคอล ทนายสาวที่ติดเหล้าขนานหนักจนร่างกายทรุดโทรมและอาจจะต้องเสียสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกสาวไป เธอเลยต้องพยายามฟื้นฟูตัวเองให้ทันเวลา อีกทั้งยังต้องว่าความให้ชนะคดีที่เธอรับมาด้วย เป็นหนังดราม่าที่ผสมเรื่องราวการว่าความในศาลเข้าไปด้วยครับ ซึ่งสำหรับผมแล้ว ถ้าเป็นหนังแนวขึ้นศาลล่ะขอให้บอกครับ อยากดูอยู่แล้วพวกการแก้ต่างซักค้านน่ะ ^_^ ถ้าถามว่าเรื่องนี้โอเคไหมในส่วนของการสู้ความกันในศาล ก็บอกได้ว่าดูได้เรื่อยๆ ครับ แต่ไม่ถึงกับน่าติดตามอะไรนัก พวกปมหรือการซักแก้ต่างถือว่าธรรมดา ไม่ได้ตื่นเต้นหรือลุ้นจัดๆ เท่าหนังอย่าง A Few…

หนังสืบสวนที่มีพล็อตสไตล์เดียวกับ Ten Little Indians หรือ And Then There were None ของ Agatha Christie แต่ไฮเทคขึ้นมาหน่อย หนังเล่าถึงคนแปลกหน้า 10 คนที่มาตามประกาศจ้างงาน ที่ว่ากันว่าได้เงินเป็นแสนเลยล่ะครับ ตอนแรกก็เหมือนไม่มีอะไร แค่คน 10 คนมาอยู่ร่วมกันให้ครบ 7 วันในบ้านปิดตายชื่อ Paranoid House ที่มีสภาพเหมือนฐานลับใต้ดินมากกว่าบ้าน แล้วถ้าใครได้อยู่จนครบก็จะได้เงินค่าจ้างไป แต่แล้วจู่ๆ ก็มีคนตายครับ…

ภาคที่ 3 ของหนังชุด Shaft ครับ โดยหนนี้ยอดนักสืบจอห์น แชฟท์ (Richard Roundtree) ถูกว่าจ้างให้ตามรอยขบวนการค้าทาสผิวดำที่กำลังก่อการฮึกเหิม นอกจากพวกมันจะค้าทาสแบบไม่เกรงกลัวกฎหมายแล้ว มันยังฆ่าปิดปากทุกคนที่เข้าไปสืบหาหลักฐานในการเอาผิดพวกมัน ภาคนี้หนังออกแนวเจมส์ บอนด์เลยครับ เปิดเรื่องมาก็แนะนำตัวร้าย ให้เราเห็นความโหด ก่อนจะเล่าให้เราเห็นแชฟท์กำลังปฏิบัติงานอยู่ จากนั้นก็มีคนมาตามเขาไปให้รับงานนี้ ซึ่งตอนแรกแชฟท์ก็ไม่ยอมครับ ต้องเกลี้ยกล่อม (ผสมใช้กำลัง) อยู่นานกว่าที่แชฟท์จะยอมรับงาน แล้วเขาก็ต้องปลอมตัวเพื่อแทรกซึมไปเป็นทาสครับ ค่อยๆ ตามรอย ค่อยๆ สืบ ได้เจอสาวสวยระหว่างทาง ก่อนจะประมือกับพวกผู้ร้ายระดับลูกน้อง แล้วอะไรต่อมิอะไรก็จะนำพาเขาไปเผชิญกับหัวหน้าใหญ่ในตอนท้ายของเรื่อง…

Air หนังไซไฟโลกอนาคต ว่าด้วยโลกที่อากาศไม่พอให้คนหายใจครับอีกแล้วครับ มนุษย์ส่วนใหญ่เลยถูกแช่แข็งเอาไว้ ในขณะที่ 2 ตัวเอกของเรา (Norman Reedus และ Djimon Hounsou) ต้องทดลองเพื่อหาทางรอดให้กับมนุษย์ที่เหลืออยู่ หนังมันน่าสนใจก็เพราะ Robert Kirkman ผู้อำนวยการสร้างซีรี่ส์ The Walking Dead โดดมาสร้างหนังเป็นครั้งแรก แล้วก็ให้ Christian Cantamessa ผู้กำกับหนังสั้นหน้าใหม่มารับงานกำกับ จริงๆ ผมว่าพล็อตน่าสนนะ คือหนังไม่ต้องเน้น Effect อะไรน่ะครับ…