Flee

Flee นี่คือหนังแอนิเมชั่นที่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาได้สักพัก เพราะหนังค่อนข้างโดดเด่นตามเทศกาลหนังต่างๆ อีกทั้งนักวิจารณ์ยังยกนิ้วให้เป็นแถบๆ ล่าสุดก็กำลังมีบทบาทบนเวทีรางวัลต่างๆ อยู่ด้วย นี่คือ “Flee” หนังที่ทำให้เราใคร่สงสัยจังเลยว่า…ทำไมหนังการ์ตูนเรื่องเล็กๆ จากเดนมาร์กเรื่องนี้ถึงได้เป็นที่พูดถึงกัน และเมื่อได้แทรกซึมเข้าไปสัมผัสกับเนื้อหาของเรื่องนี้ก็ทำให้รู้ว่า มันเซอร์ไพรส์และอิมแพคได้มากกว่าที่คิดเยอะเลย Flee เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวของ อามิน นาวาบี ชาวอัฟกานิสถาน ที่ต้องลี้ภัยจากสถานการณ์ในบ้านเมืองของเขาออกจากประเทศบ้านเกิดตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ ประเทศบ้านเกิดของเขา อามินไม่เคยเล่าสิ่งที่เคยเผชิญให้คนรักหรือใครคนอื่นฟังเลย และนี่เป็นครั้งแรกที่ความลับอันเจ็บปวดที่เขาเก็บงำไว้มากว่า 20 ปีจะถูกเปิดเผย กับนิยามคำว่า ‘บ้าน’ หมายถึงอะไร แต่สำหรับอามินนั้น บ้านคือที่ที่ปลอดภัย ที่ที่เรารู้ว่าเราจะอยู่ได้ และไม่ต้องหนีไปไหนอีกแล้ว… เรียกได้ว่าไม่ประหลาดใจเลยที่นักวิจารณ์จะชอบหนังเรื่องนี้ เพราะเราก็ชอบมากๆ…

Moonfall วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก

Moonfall วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก การกลับมาอีกครั้งของผู้กำกับที่ได้รับฉายาว่า ‘เจ้าพ่อหนังหายนะ’ เขาคือ “โรแลนด์ เอ็มเมอริช” ที่สร้างสรรค์ผลงานโลกแตกมาต่อเนื่องตั้งแต่ยุค 90 แม้ว่าเวลาจะผ่านล่วงเวลาไปกว่า 2 ทศวรรษแล้ว ดูเหมือนว่าแกก็ยังคงมีไอเดียที่หาวิธีทำให้โลกแตกได้อยู่ต่อไป อย่างในเรื่องล่าสุด “Moonfall วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก” ที่ต้องบอกว่า…มาพร้อมกับทฤษฎีที่แสนทะเยอทะยานอีกครั้ง แต่สัมผัสได้ว่ามุกของแกกำลังจะใกล้หมด แต่กระนั้นลุงโรแลนด์ก็มีวิธีแก้ไขเฉพาะหน้าในจุดนี้แบบเฉพาะของเขา Moonfall เป็นเรื่องราวดวงจันทร์ที่วงโครของมันกำลังจะพุ่งเข้าหาโลก โดยมีนักบินอวกาศและนักทฤษฎีวิทยาศาสตร์ช่วยกันหาวิธีหยุดยั้งการพุ่งชนในครั้งนี้ ซึ่งพวกเขามีเวลาไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นเพื่อไม่ให้มันทำลายล้างโลก เมื่อโลกใกล้ถึงวันสิ้นสูญ เมื่อดวงจันทร์หลุดวงโคจร และพุ่งตรงสู่โลก นักบินอวกาศ และนักวิทยาศาสตร์ต้อง ร่วมมือกันปฏิบัติภารกิจเพื่อกอบกู้โลก และค้นหาคำตอบความลับอีกด้านของดวงจันทร์ที่ซ่อนอยู่ เรียกได้ว่าตลอดเวลา 2 ชั่วโมงของ Moonfall…

Little Nicky (2000) ลิตเติ้ล นิคกี้ ซาตานลูกครึ่งเทวดา

เรื่องนี้จัดว่าเป็นหนังฮาแบบไม่ต้องคำนึงถึงเนื้อหาสาระอะไรให้มากความครับ Adam Sandler รับบท นิคกี้ ลูกคนสุดท้องของซาตาน (Harvey Keitel) ที่ออกจะดูผ่าเหล่าผ่ากอจากเหล่าพี่น้องอย่างเอเดรียน (Rhys Ifans) และแคสเซียส (Tommy ‘Tiny’ Lister) เพราะ 2 คนนั้นทั้งโหดเหี้ยม ร้ายกาจ แสนจะเจ้าเล่ห์ และหมายจะครองบัลลังก์ของพ่ออยู่ทุกวี่วัน ในขณะที่นิคกี้นั้นออกแนวติงต๊องและจิตใจอ่อนโยน จนทำให้นิคกี้โดนพี่ๆ แกล้งเป็นประจำ แล้วอยู่มาวันหนึ่งเมื่อซาตานประกาศว่าจะยังไม่ยกบัลลังก์ให้กับใครทั้งสิ้นไปอีกพันปี เอเดียนกับแคสเซียสเลยโกรธจัดและหนีไปยังโลกมนุษย์เพื่อวางแผนที่จะกลับมาครองนรก นิคกี้เลยต้องรีบตามไปจับพี่ๆ ทั้งสองกลับมาให้ได้ ก่อนที่สมดุลของนรกจะเสียหายไปตลอดกาล หนังเรื่องนี้ออกแนวต๊องจริงๆ ครับ…

Bloodfist VII: Manhunt (1995), หมัดสังหาร 7

Don ‘The Dragon’ Wilson รับบท จิม ทรูเดลล์ ชายหนุ่มที่โดนใส่ความในข้อหาฆาตกรรม เขาเลยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหนีเอาชีวิตรอด และหาทางสืบความจริงว่าใครกันแน่ที่ใส่ร้ายเขา และพวกมันต้องการอะไร ก็ชวนให้นึกถึง The Fugitive น่ะนะครับ (แต่แน่นอนว่าสเกลของหนังมันเล็กกว่าเยอะ) ถ้าถามว่าหนังสนุกไหม ก็ตอบได้ว่าไม่มีอะไรนักครับ เพราะการเดินเรื่อง การสืบสวนตามปมก็ไม่ได้เข้มข้นอะไร จริงๆ หนังชุด Bloodfist นี่ สิ่งที่ควรนำมาเป็นจุดขายหลักเลยก็คือฉากแอ็กชันบู๊มือเปล่าของ Wilson ครับ ซึ่งภาคนี้ฉากที่ว่าก็ดันมีน้อยซะ ส่วนมากหนังพยายามจะไปเน้นที่เนื้อเรื่องการสืบความจริงกับฉากไล่ล่าประเภทวิ่งหนีไปเรื่อยๆ ดังนั้นปริมาณฉากต่อยตีเลยน้อยไปโดยปริยาย ครั้นแล้วการสืบสวนก็ไม่ได้สนุกอยุ่แล้วด้วย หนังเลยพลอยไม่มีอะไรไปในที่สุด ภาคนี้นอกจาก Wilson แล้วก็ได้ Jillian McWhirter ดาราสาวสวยที่เล่นหนังเกรดบีบ่อยๆ (ในยุคนั้น) มาแสดงเป็นนางเอก และได้ Steven…

The Defenders (2017) เดอะ ดีเฟนเดอร์ส

และแล้ว 4 ฮีโร่แห่ง Marvel ก็มาเจอกันจนได้ครับ ได้แก่ แดร์เดวิล (Charlie Cox), นับสืบสาว เจสสิก้า โจนส์ (Krysten Ritter), จอมพลังคงกระพัน ลุค เคจ (Mike Colter) และหมัดเหล็กเรืองแสง ไอรอน ฟิสต์ (Finn Jones) อืมม์… จะว่ายังไงดี… โอเค โดยรวมผมชอบนะ ดูรวดเดียวจบครบ 8…

A Boy Called Christmas (2021) เด็กชายที่ชื่อคริสต์มาส

A Boy Called Christmas เล่าเรื่องราวของหนุ่มน้อยนิโคลัส (Henry Lawfull) กับการออกเดินทางฝ่าป่าเขาลุยหิมะไปตามหาพ่อ (Michiel Huisman) ที่เงียบหายไปหลังรับภารกิจหาหมู่บ้านภูตเอลฟ์ที่ชื่อว่า เอลฟ์เฮล์ม แล้วนั่นล่ะครับคือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยแห่งคริสต์มาส ผมโอเคกับเนื้อเรื่องครับ มีกลิ่นอายความเป็นแฟนตาซีผสมอยู่ ถือเป็นหนังผจญภัยวันคริสต์มาสที่น่าสนใจเรื่องหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องขอว่าตามใจคิด ว่าการเล่าเรื่องออกจะเรื่อยๆ ไปสักหน่อยครับ ยังไม่เพลินเท่าที่ควร โดยส่วนตัวผมว่าความน่าติดตามของหนังสักเรื่องหนึ่งนั้น มันจะประกอบไปด้วย 3 สิ่งใหญ่ๆ อันได้แก่ ดาราดี บทดี และการเล่าเรื่องดี ซึ่งกับเรื่องนี้ตัวละครหลักอย่าง Lawfull ที่เป็นดาราหน้าใหม่เพิ่งเล่นหนังใหญ่แบบนี้เป็นครั้งแรก (ก่อนหน้านี้เขาเคยแสดงบทเล็กๆ ในมินิซีรี่ส์ Les…

Thunderheart (1992) ปมเลือดแดนดิบ

เป็นที่ทราบกันดีว่าผืนแผ่นดินอเมริกานั้น ผู้ที่อาศัยอยู่แต่ดั้งแต่เดิมคือชนพื้นเมืองชาวอินเดียนแดง แต่ครั้นพอคนผิวขาวย้ายมาอยู่กันมากๆ เข้า ชาวอินเดียนแดงก็ถูกบีบคั้นให้มีที่อยู่อาศัยน้อยลงเรื่อยๆ และยังถูกกวาดล้างจนเหลือประชากรน้อยลงตามลำดับ มิหนำซ้ำยังโดนคนผิวขาวกำหนดกฎเกณฑ์จำกัดสิทธิ์สารพัด จนแปรสภาพจากเจ้าของดินแดนดั้งเดิมกลายเป็นเพียงพลเมืองชั้นรอง Thunderheart เป็นหนังที่สะท้อนความจริงที่ผมได้กล่าวไปนั่นแหละครับ เหตุเกิดที่เซาธ์ ดาโกต้า เมื่อลีโอ ฟาสต์ เอลค์ (Allan R.J. Joseph) ชาวอินเดียนแดงคนหนึ่งถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม และบรรยากาศของเมืองนั้นก็กำลังระอุเพราะชาวอินเดียนแดงบางส่วนก็ประท้วงต่อต้านการเข้าควบคุมของเหล่าคนผิวขาว ทาง FBI จึงตัดสินใจส่ง เรย์ ลีวอย (Val Kilmer) เจ้าหน้าที่ที่มีเชื้อสายอินเดียนแดงเข้ามาทำการสืบคดี ด้วยความหวังว่าชนเผ่าอินเดียนแดงพื้นเมืองจะเห็นแก่ที่เรย์มีเชื้อสายเดียวกัน และยอมให้สืบสวนได้โดยสะดวก แต่เรื่องกลับไม่ง่ายอย่างนั้นครับ…

คลั่งล้างแค้น (2017) Manhunt.

เรื่องนี้สำหรับผมแล้ว ถือว่าเป็นหนังของ John Woo ที่ผมชอบน้อยที่สุดครับ ในแง่ฉากแอ็กชัน จริงๆ แล้วก็ยังไว้ใจได้ ไม่ว่าจะลีลาการยิง การสโลว์ การกระตุ้นความตื่นเต้นยังถือว่าไว้ลายความเป็น John Woo ในระดับที่น่าพอใจ ดูแล้วยังตอบสนองความเร้าใจได้อยู่ แต่หนังมาเสียคะแนนไปเยอะหน่อยในส่วนของการเดินเรื่อง พล็อตหลักจริงๆ แล้วก็คือ The Fugitive นั่นแหละครับ ตัวเอกโดนใส่ความเลยต้องหนีและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ส่วนตำรวจก็มีหน้าที่ตามจับ แต่ก็จะมีจุดให้เริ่มเอะใจว่าตกลงพระเอกเป็นคนทำจริงๆ หรือเปล่า ก่อนที่ตอนท้ายอะไรๆ มันจะเฉลยออกมา เนี่ยครับ มันคือ The Fugitive ชัดเจนเลย จริงๆ พล็อตซ้ำไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะถ้าปรุงดีๆ มันก็สนุกได้ แล้วถ้าบวกลีลาแอ็กชันแบบ John Woo เข้าไปด้วย…

Crawl (2019) คลานขย้ำ

ถือเป็นหนังรวมมิตรครับ เพราะรวมเอาแนวภัยพิบัติกับแนวสัตว์โลกน่ารักเข้าด้วยกัน ได้ออกมาเป็นหนังระทึกขวัญที่ดูแล้วจัดว่าตื่นเต้นไม่เลวทีเดียว ตัวเอกของเราคือ เฮลี่ย์ (Kaya Scodelario) สาวนักกีฬาว่ายน้ำที่ตัดสินใจขับรถฝ่าพายุไปรับพ่อ (Barry Pepper) ที่เธอโทรไปกี่ครั้งพ่อก็ไม่ยอมรับสายครับ และพอไปถึงเธอก็พบว่าใต้บ้านของเธอนั้นมีจระเข้ใหญ่เบิ้มกำลังรอขย้ำเธออยู่ ตัวหนังจัดว่าดูง่ายแบบไม่ต้องคิดมากเลยครับ ดูเพื่อเสพความตื่นเต้นระทึกขวัญกันเป็นหลัก ส่วนเรื่องเหตุเรื่องผลก็ต้องพักไว้ก่อนครับ เพราะถ้าดูแบบคิดมากๆ สักหน่อยก็อาจเห็นช่องโหว่ของบทหรือไม่ก็หงุดหงิดกับพฤติกรรมบางอย่างของตัวละครในเรื่อง (เช่น ทำไมไม่รีบหนี หรือทำไมไม่ทำอย่างนั้น-อย่างนี้ล่ะ เป็นต้น) ช่วงต้นหนังปูพื้นได้ดีครับ แนะนำให้รู้จักตัวเอกในเบื้องต้น ครั้นพอถึงตอนลงไปใต้ถุนบ้านบรรยากาศก็ดูมืดๆ ชื้นๆ อึมครึมน่ากลัวใช้ได้ และพอไอ้เข้เปิดตัวเท่านั้นล่ะครับ ความตื่นเต้นก็ไหลมาเรื่อยๆ อาจจะมีช่วงพักสลับบ้าง แต่ก็ไม่น่าเบื่อครับ…

The Tower (2012) เดอะ ทาวเวอร์ ระฟ้าฝ่านรก

ก่อนดูผมก็คิดน่ะนะครับว่าหนังจะออกมาเวิร์กไหม เพราะโดยแนวทางแล้วมันคือการเอา The Towering Inferno มาทำใหม่ และครั้นพอได้ดูก็พบว่าหนังทำได้สนุก ตื่นเต้น และน่าติดตามไม่ใช่น้อย พล็อตหลักก็โฟกัสไปที่ตึกระฟ้าในประเทศเกาหลีที่กำลังมีการจัดงานฉลองวันคริสต์มาสกันอย่างเอิกเกริก แต่แล้วในคืนนั้นเองก็ได้เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน (หรืออีกนัยหนึ่งคือ เกิดเพราะความประมาทของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน) จนส่งผลให้ไฟไหม้ตึกครับ มีคนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ส่วนคนที่เหลือก็พยายามหนีลงมาให้ถึงพื้นที่ให้เร็วที่สุดด้วยทุกวิถีทาง แต่ก็แน่นอนว่ามันไม่ง่ายเลย ผมชอบหนังมากกว่าที่คิดครับ ตอนแรกก็คิดว่าหนังมันจะเรื่อยๆ มาเรียงๆ ตอนต้นก็แนะนำตัวละครไป ส่วนตอนกลางก็ใส่ฉากภัยพิบัติลงไปตามสไตล์สูตรสำเร็จของหนังแนวนี้ ซึ่งจริงๆ มันก็เป็นแบบนั้นแหละครับ แต่จุดที่ต้องขอยกนิ้วให้เลยคือหนังสามารถผสมเอาเรื่องดราม่าใส่ลงมาในหนังได้อย่างพอเหมาะ การแนะนำตัวละครในตอนต้นเรื่องก็ไม่ได้แนะไปแบบอย่างงั้นๆ แต่เป็นการแนะนำที่ทำให้เรารู้จักเหล่าตัวละครหลักในระดับที่มากพอที่จะทำให้เรารู้สึกสะเทือนใจยามพวกเขาต้องเจอกับเหตุร้าย บางคนถึงขั้นทำให้คนดูรู้สึกผูกพันไปเลยก็มี ครั้นพอถึงฉากเกิดภัยหนังก็ถ่ายทอดฉากเหล่านั้นออกมาได้อย่างโกลาหลและดูสมจริงพอตัว หลายฉากนี่ทำให้รู้สึกสยดสยองเลยล่ะครับ อย่างฉากคนแย่งกันลงลิฟต์ หรือลิฟต์ที่ต้องประสบกับเหตุสลด…