Malignant

Malignant ผู้กำกับ “เจมส์ วาน” ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อหนังสยองขวัญยุคใหม่ ก็เป็นธรรมดาที่ผลงานใหม่ของเขามักจะถูกจับตามองและคาดหวังเอาไว้ก่อน และนี่คือ “Malignant” (ชั่วโคตรร้าย) งานชิ้นใหม่ของเขาที่กลับมาหยิบจับแนวถนัดอีกหน หลังจากที่ปลีกตัวไปทำหนังซูเปอร์ฮีโร่มา หนังยังคงมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ความหลอนระทึกและสร้างมิติชั้นเชิงในบทได้อย่างตรงจังหวะ แม้ว่าอาจจะยังไม่ใช่งานระดับมาสเตอร์พีชเรื่องใหม่ของเขาก็ตาม Malignant เล่าเรื่องราวของ แมดิสัน หญิงสาวที่ตกใจแน่นิ่งราวกับเป็นอัมพาตจากภาพเหตุการณ์ฆาตกรรมสุดสะพรึงอยู่ตรงหน้า และความทุกข์ทรมานที่ค้นพบว่าภาพฝันเหล่านั้นคือความเป็นจริงอันน่าตกใจ ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้มีหน้าหนังที่ค่อนข้างทำให้คนดูเข้าใจยาก ด้วยการที่ไม่สามารถสื่อสารแกนหลักของหนังออกมาได้ตรงๆ (เพราะจะเป็นการสปอยล์ทันที) จึงเป็นอุปสรรคหลักที่สร้างความสับสนให้กับผู้ชมว่าจะได้เห็นอะไรกันแน่…ในหนังเรื่องนี้ แน่นอนว่างานของ เจมส์ วาน ก็ยังคงเอกลักษณ์ความหฤหรรษ์ส่วนตัวของเขาเอาไว้ได้ดี หลายๆ องค์ประกอบของหนังได้นำมาใช้ได้ถูกจังหวะและเหมาะกับโครงเรื่องดี การเล่าเรื่องของ Malignant ค่อนข้างน่าสนใจตั้งแต่ฉากเปิดตัว ทำให้ผู้ชมค่อยๆ ซึบซับลำดับไล่เรียงตามได้อย่างเป็นจะโคน โดยใช้เวลาเพียงไม่นานนัก…

Scandalous แฉแท็บลอยด์ฉาว

Scandalous แฉแท็บลอยด์ฉาว มีหนังสารคดีดีๆ ที่เหมือนจะไม่ได้อยู่ในสายตาผู้ชมสักเท่าไหร่มาให้เลือกชมกันอีกแล้ว นี่คือการตีแผ่เรื่องราวของต้นกำเนิด “ข่าวสายเผือก” ที่กลายเป็นประเด็นข่าวที่เป็นเหมือนดาบสองคม ที่มักจะถูกสังคมมองว่าเป็น “ข่าวขยะ” อยู่บ่อยครั้ง แต่เบื้องลึกเบื้องหลังของกลุ่มผู้ให้กำเนิดเทรนด์ข่าวสายนี้บนโลกนั้น…มีอะไรลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น และนี่คือ “Scandalous” (แฉแท็บลอยด์ฉาว) หนังสารคดีที่มาพร้อมกับบรรยากาศการทำข่าวสนุกๆ ในยุคเก่ากับการจิกกัดที่แสบผิว Scandalous: The True Story of the National Enquirer เป็นชื่อเต็มๆ ของหนังเรื่องนี้ เรื่องราวก็เป็นตามไปชื่อเรื่องเลย นี่คือการเข้าถึงประวัติศาสตร์อันน่าตื่นตาของหนังสือพิมพ์แท็บลอยต์ฉาวโฉ่ที่สุดในอเมริกา และอาจจะทรงอิทธิพลไปทั่วโลกด้วย อย่าง National Enquirer…

ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานจ้วด…

ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานจ้วด… ฟีดแบกหนัง ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานจ้วด… – มาสานต่อกับหนังใหม่ที่อยู่ในจักรวาลไทบ้าน จากทีมผู้สร้างหนังไทบ้านชุดเดิมที่ได้ส่่งหนังเรื่องใหม่ “ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานจ้วด…” ออกมาเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ชม กับเรื่องราวตัวละครใหม่ระหว่างหนุ่มสาวที่ต้องทำสัญญาแกล้งว่าเป็นคู่รักกัน เพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าในชีวิตที่เต็มไปด้วยปัญหาหัวใจ การโคจรมาเจอกันของ 2 ซุปตาร์จากคนละขั้ว “โอบ โอนนิธิ” กับ “แอน อรดี” กลายเป็นส่วนผสมบนจอที่ลงตัว เมื่อคืนวานนี้ (16 พ.ย.) สหมงคลฟิล์ม ได้จัดรอบกาล่าปฐมทัศน์ของหนัง ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานจ้วด… อย่างเป็นทางการ เพื่อให้สื่อมวลชนและผู้มีเกียรติกลุ่มแรกๆ ได้ดูชมหนังเรื่องนี้ ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟเวิลด์ ซินีม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก…

ไสหัวไปนายส่วนเกิน

ไสหัวไปนายส่วนเกิน ได้เวลามาพิสูจน์หนังดราม่าเคล้ารอยยิ้มกับคอนเซ็ปต์ที่เชิญชวนผู้ชมมา “ฮีลลิ่ง” ด้วยการชมหนังเรื่องนี้ ที่น่าจะเป็นผลงานหนังเรื่องแรกของค่ายหนังน้องใหม่ เบนเล่ย์ ฟิล์ม อย่าง “ไสหัวไปนายส่วนเกิน” (Go Away Mr. Tumor) หนังที่เป็นการจับคู่เคมีนักแสดงนำ “มิน พีชญา” กับ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ออกมาได้น่าสนใจ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้น…ยังเป็นองค์ประกอบที่ลงตัวอย่างที่นึกไว้หรือไม่ และจะช่วยเยียวยาหัวใจผู้ชมได้จริงๆ หรือเปล่า? ไสหัวไปนายส่วนเกิน เป็นเรื่องราวของ ผักกาด กราฟฟิคดีไซเนอร์สาวกับเรื่องราวพังๆ ที่ดันแห่มาพร้อมกันในวันเกิดเบญจเพสของเธอ ทั้งต้องออกจากงานเพราะงัดกับหัวหน้า ตามมาติดๆ กับอาการอกหักเมื่อรู้ว่าแฟนหนุ่มนอกใจ และที่พีคสุดคือรู้ว่าตัวเองกำลังเผชิญกับโรคร้ายที่คาดไม่ถึง แต่ท่ามกลางเรื่องพังๆ ที่กำลังถาโถม ผักกาดกลับได้ค้นพบความรักดีๆ ที่อยู่รายรอบตัวเธอ…

tick, tick…BOOM!

tick, tick…BOOM! และบัดนี้…ดูเหมือนว่าฤดูกาลหนังรางวัลประจำปีนี้จะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว เพราะการมาของหนังดราม่ามิวสิคัลที่เป็นการหยิบเอามุมมองชีวิตของเจ้าพ่อละครบอร์ดเวย์ในตำนานมาร้อยเรียงเป็นภาพและเสียงเคล้าคลอด้วยจังหวะที่ลงตัว กลายออกมาเป็น “tick, tick…BOOM!” มิวสิคัลที่ไม่ถึงกับดูได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไปที่จะลอง และกล้าบอกได้เลยว่า…เรื่องนี้ต้องมีบทบาทไม่มากก็น้อยบนเวทีออสการ์ 2022 ที่กำลังจะมาถึง tick, tick…BOOM! เป็นเรื่องราวฉากหลังที่เกิดขึ้นในปี 1990 ของ จอน นักแต่งเพลงหนุ่มที่ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในนิวยอร์กไปด้วยในระหว่างที่เขียนผลงานที่เขาหวังว่าจะเป็นละครเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเรื่องต่อไปของอเมริกา ช่วงเวลาหลายวันก่อนที่เขาจะต้องเปิดแสดงผลงานของตัวเองที่อาจนำไปสู่การแจ้งเกิดหรือดับ จอนรู้สึกถึงแรงกดดันจากทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ซูซาน แฟนสาวที่วาดฝันอยากจะไปใช้ชีวิตนอกมหานครนิวยอร์ก หรือ ไมเคิล เพื่อนของเขาที่ละทิ้งความฝัน เพื่อหันไปเลือกทางเดินชีวิตที่มีความมั่นคงทางการเงิน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในหมู่ชุมชนศิลปิน ขณะที่เวลายังเดินต่อไปเรื่อยๆ จอนมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจเลือกและเผชิญกับคำถามที่ทุกคนต้องขบคิด นั่นคือ…

The Green Knight

The Green Knight และนี่คือ…ลำนำตำนานที่เล่าขานกันมาของเขา อันเชิญมาเสพงานอาร์ตชั้นดีที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีท่วงทำนองที่จัดจ้านและสมดุลอย่างน่าทึ่ง นี่คือ “The Green Knight” (ศึกโค่นอัศวินอมตะ) ที่คงจะต้องออกตัวก่อนเลยว่า…มันไม่ใช่หนังที่เหมาะกับคนดูทุกคน ด้วยเสน่ห์และคมคายที่ใช้เล่าเรื่องนั้น เตือนไว้ก่อนเลยว่า…อย่าให้ชื่อเรื่องภาษาไทยหลอกเราได้ เพราะแท้จริงแล้วนี่คือหนังดราม่าผจญภัยสายดาร์กปรัชญาจ๋าๆ เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว The Green Knight เป็นเรื่องราวของ เซอร์กาเวน หลานชายผู้บ้าบิ่นและเอาแต่ใจของคิงอาเธอร์ ที่ออกไปทำภารกิจเผชิญหน้ากับ อัศวินมรกต ซึ่งเป็นบททดสอบสำคัญของเหล่าอัศวิน เซอร์กาเวนได้เดินทางฟันฝ่าอุปสรรคนานา ต้องรับมือกับวิญญาณอาฆาต, ยักษ์, โจร เพื่อค้นหาตัวเอง และพิสูจน์คุณค่าของเขาต่อครอบครัวและอาณาจักร เขาพร้อมเดิมพันทุกอย่างเพื่อก้าวข้ามศึกสำคัญครั้งนี้ ไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของเขาเอง…

Eternals

Eternals มาถึงคิวของหนังเรื่องที่ 3 ในปีนี้ของ มาร์เวล สตูดิโอ ที่เป็นประเดิมเปิดตัวซูเปอร์ฮีโร่กลุ่มใหม่ขึ้นมาประดับจักรวาลอีกชุดใน “Eternals” (ฮีโร่พลังเทพเจ้า) ที่มาพร้อมกับทีมนักแสดงที่หน้าตื่นตาตื่นใจ ถึงจะต้องยอมรับว่าโครงเรื่องของหนังยังไม่ค่อยอธิบายได้ชัดแจ้งเห็นจริงมาในการโปรโมตของหนัง ทำให้ยังมองภาพไม่ค่อยออกเท่าไหร่นัก จนกระทั่งต้องมาดูกับตาตัวเองก็ได้พบกับความว้าวที่แสนลึกซึ้ง แต่ตัวหนังกลับไม่ค่อยออกรสชาติ… Eternals เป็นเรื่องราวของกลุ่ม The Eternals ที่ถูกสร้างขึ้นโดย เซเลสเทียล เผ่าพันธุ์เทพแห่งจักรวาลอายุนับล้านปี พวกเขาได้ถูกส่งให้เดินทางมายังโลกมนุษย์ และได้แฝงตัวอาศัยอยู่อย่างลับๆ มานานกว่า 7,000 ปี แต่แล้วพวกเขาก็ต้องออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งเพื่อปกป้องโลกจาก ดีเวียนต์ คู่ปรับตลอดกาลที่ถูกสร้างขึ้นจากเซเลสเทียลเช่นเดียวกัน อาจจะต้องบอกผู้อ่านทุกๆ คนอย่างสัตย์จริงเลยว่า Eternals…

Spiral เกม/ลอกอำมหิต

Spiral เกม/ลอกอำมหิต การกลับมาอีกครั้งของสไตล์ความเหี้ยมโหดของฆาตกรเจ้าเล่ห์ที่มักจะชวนให้เล่นเกมอยู่บ่อยๆ กับหนังภาคใหม่ที่สานต่อและอยู่ในจักรวาลเดียวกันใน “Spiral: From the Book of Saw” (เกม/ลอกอำมหิต) ที่มาในคราวนี้ปรับโหมดมาในรูปแบบหนังแนวสืบสวนสอบสวนที่ดูขึงขัง แต่ยังคงความสยดสยองในภาพและเนื้อหาอันเป็นเอกลักษณ์ของจักรวาลหนังเรื่องนี้เอาไว้ แม้ว่าจะเข้มข้นและจริงจังมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีช่องโหว่รายทางอยู่เต็มไปหมด Spiral เกม/ลอกอำมหิต เล่าเรื่องราวของ นักสืบเอเซเกล ซีค แบงก์ส ที่มักจะถูกเปรียบเทียบฝีมือกับ อดีตตำรวจฝีมือระดับฉมัง มาร์คัส แบงก์ส ผู้เป็นพ่อ ด้วยความที่ต้องการพิสูจน์ตัวเอง เขาจึงต้องไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดโหด ร่วมกับคู่หูหน้าใหม่อย่าง นักสืบวิลเลียม เชงก์ แต่เรื่องราวกลับเลวร้ายขึ้น…

Office (2015) พนักงานดีเดือด

โดยหน้าหนังถือว่าน่าสนใจนะครับ เอาเรื่องของพนักงานเงินเดือนมาผสมกับหนังฆาตกรรม ลึกลับ ระทึกขวัญ ถ้าทำออกมาเหมาะๆ นี่ก็น่าจะเป็นหนังระทึกผสมแง่คิดได้ไม่น้อยเลย เรื่องเริ่มเมื่อหัวหน้าเซลส์คนหนึ่งเกิดความกดดันและความเครียดสะสมจากการทำงานครับ อยู่มาคืนหนึ่งเขาก็ลงมือฆ่าคนในครอบครัว ก่อนจะหายตัวไปอย่างลึกลับ เบาแสะสุดท้ายคือดูเหมือนว่าเขาจะกลับมาที่ออฟฟิศก่อนจะหายไป หลังเกิดคดีฆาตกรรมคนในครอบครัวของหัวหน้าเซลส์ขึ้น ตำรวจก็ตามสืบครับ แล้วปรากฏว่าในออฟฟิศแห่งนั้นเริ่มมีพนักงานหายไป บางคนก็เสียชีวิตอย่างน่ากลัว… หรือจะเป็นฝีมือของหัวหน้าคนนั้น? จุดเข้าท่าของหนังคือบรรยากาศเงียบๆ มืดๆ ลึกลับๆ ในออฟฟิศน่ะครับ หนังทำได้ไม่เลวสำหรับำฉากออฟฟิศยามค่ำที่ดูน่ากลัวไม่น้อย ทั้งๆ ที่องค์ประกอบของฉากมันก็ดูเป็นออฟฟิศธรรมดาแบบที่เราเจอกันได้ทุกที่นั่นแหละ แต่มันดูน่ากลัวขึ้นมาพอตัว ทีนี้ในแง่เนื้อเรื่อง ก็ไม่มีอะไรมากครับ หนังมีความลึกลับอยู่บ้าง เช่นว่าตกลงหัวหน้าหายไปไหน ตกลงเกิดอะไรกับพนักงานที่ทยอยตายกันไป แต่พอถึงจุดหนึ่งก็เริ่มเดาได้แล้วล่ะว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้น ฉากการฆาตกรรมอาจจะดูน่ากลัวสำหรับหลายๆ…

Pixels (2015) พิกเซล

ดูแล้วสมหวังจริงๆ ครับสำหรับ Pixels คือที่ว่าสมหวังนี่ไม่ได้หมายความว่าหนังเยี่ยมยุทธ์สุดติ่งอะไรหรอกนะครับ คือประมาณความหวังไว้แต่แรกแล้วว่ามันคงดูได้เพลินๆ แต่ไม่ได้เจ๋งหนับอะไรมากมายหรอก คือแค่พอขำๆ แล้วก็มีตัวละครจากเกมที่เราชอบเมื่อสมัยเด็กมาให้ได้เห็น แค่นี้ก็พอครับ (ไม่หวังว่ามันจะสนุกเป็นล้นพ้นอะไร 5555) พล็อตก็อย่างที่รู้ครับ พวกต่างดาวบุกโลกโดยใช้ตัวละครจากเกมในยุค 80 อย่าง Galaga, Pacman, Centipede ฯลฯ มาท้าประลองกับเรา ทีนี้ท่านประธานาธิบดีคูเปอร์ (Kevin James) เลยต้องตามซี้เก่าเซียนเกมอย่างเบรนเนอร์ (Adam Sandler) ให้มาช่วยรับมือ หนังทำออกมาเอามันส์และเอาเพลินครับ ซึ่งก็เป็นแบบฉบับของหนังพี่ Adam…