เลสเตอร์ โดนเบรนท์ฟอร์ด ยิงนำไปก่อนครึ่งแรก แต่พอลงมาครึ่งหลังยิงรวดเดียว 2 ประตูขึ้นแซงก่อนเจมส์ แมดดิสัน มาซัดปิดกล่องชนะ 3-1 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเอฟเอ คัพ ไปตามความคาดหมาย โดยจะพบกับไบรจ์ตัน ในรอบต่อไป
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4
เบรนท์ฟอร์ด 1 – 3 เลสเตอร์ ซิตี้
สนาม : เบรนท์ฟอร์ด คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม
เลสเตอร์ ในเกมนี้ไม่มี เจมี่ วาร์ดี้ ที่ผ่าไส้เลื่อน เลยส่ง เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ และ อโยเซ่ เปเรซ ประสานงานร่วมกันในแดนหน้า
ในนาทีที่ 6 เบรนท์ฟอร์ดออกนำก่อน 1-0 จากจังหวะเตะมุมที่ วิตาลี่ ยาเนลท์ เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ มาร์คุส ฟอร์สส์ ได้ยิงติดบล็อก แต่ว่ายังมี มาดส์ โซเรนเซ่น ซ้ำจ่อๆ เข้าไป
ในนาที 16 เป็นทีมเยือนมีโอกาสได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ เจมส์ แมดดิสัน จ่ายบอลเข้าในมาให้ ตีเลมันส์ ที่เติมขึ้นมาได้ยิงไกลด้วยขวาหน้าเขตโทษ แต่บอลดันไม่เข้ากรอบ
ในนาที 34 เจ้าบ้านมีเกือบขึ้นนำเป็น 2-0 จากลูกเตะมุมของ ยาเนลท์ ที่เปิดเข้ามาบอลขรุกขริกอยู่หน้าเขตโทษเลสเตอร์ ก่อนจะมาเข้าทาง ทาริค โฟซู ได้ยิงด้วยขวา แต่ วอร์ด ยังเซฟช่วยทัพจิ้งจอกเอาไว้ได้
ครึ่งหลัง เลสเตอร์ เริ่มต้นได้ดีและตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ เจมส์ แมดดิสัน โชว์สเต็ปล็อกหนี 2 ผู้เล่นเจ้าถิ่นก่อนไหลบอลให้ เซนกิซ อุนเดอร์ ปั่นด้วยซ้ายเน้นๆ ส่งบอลเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
ในนาที 51 เลสเตอร์ มาได้จุดโทษเมื่อ ยูริ ตีเลมันส์ โดนทำฟาวล์ในเขตโทษก่อนเป็นเจ้าตัวลุกขึ้นมาสังหารให้ทีมพลิกนำ 2-1
ในนาที 71 เลสเตอร์ ทำประตูขึ้นนำ 3-1 จากการยิงจ่อๆ ของ เจมส์ แมดดิสัน ที่ตามซ้ำลูกยิงติดเซฟในจังหวะแรกของ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ เข้าไป
หลังจากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นจบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ บุกเอาชนะไป 3-1 ตีตั๋วรอบ 5 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ โดยจะพบกับ ไบรท์ตัน ในระหว่างวันที่ 8-11 กุมภาพันธ์ต่อไป