นี่คือภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดจาก Netflix การผลิตของสตูดิโอภาพยนตร์อิสระ Annapurna Animation ซึ่งมาสร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องแรกใน "Nimona จากหนังสือขายดี New York Times ของ N.D. Stevenson และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล National Book Award Nimona" นำมาซึ่งมหากาพย์การผจญภัยและการต่อสู้
เมื่อ Ballister Boldhart อัศวินยุคกลางแห่งโลกอนาคต ถูกใส่ร้ายในอาชญากรรมที่เขาไม่ได้ก่อ คนเดียวที่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาคือ Nimona วัยรุ่นตัวแสบที่ซุกซนและกลายร่างเป็นร่างจำแลงที่ Ballister ได้รับการฝึกฝนให้ฆ่า
แต่ในขณะที่ทั้งอาณาจักรกำลังไล่ตามเขา Nimona กลายเป็นคู่หูที่ดีที่สุด (หรือคนเดียว) ที่ Ballister มี และเมื่อเส้นแบ่งระหว่างฮีโร่ ผู้ร้าย และสัตว์ประหลาดเริ่มแยกออกจากกัน ทั้งคู่จึงลงมือสร้างปัญหาเพื่อให้บัลลิสเตอร์พ้นจากมลทิน Nimona ทำเหมือนเธอต้องการ
และนี่คือการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของอนิเมเตอร์จากสตูดิโอ Blue Sky Animation ในอดีต ทรอย ควาน ผู้กำกับ Spies in Disguise และนิค บรูโน่ แอนิเมเตอร์จากซีรีส์ Ice Age คิดว่าผลงานออกมาสมบูรณ์แบบ ทั้งจังหวะและองค์ประกอบของอาคาร แต่เดิมโครงการเป็นของ Blue Sky ซึ่งได้เริ่มสร้างไปแล้วประมาณหนึ่ง แต่เมื่อสตูดิโอปิดตัวลง ทำให้หนังต้องหาบ้านหลังใหม่ในที่สุด
นิโมน่าไม่ใช่หนังอนิเมชั่นชัดๆ นะ เรียกได้ว่ามาไกล เพราะหนังเต็มไปด้วยโทนที่เข้มข้น รุนแรง และฉากแอคชั่นที่เกินจริง เป็นการรวบรวมนิยายภาพเพื่อเผยแพร่ในรูปแบบที่น่าติดตาม โทนของหนังเป็นมหากาพย์ ผสมกับความล้ำยุคของ Sci-Fi เปิดตัวด้วยความรู้สึกเหมือนหนัง The Gladiator ผสมกับ The Hunger Games เป็นพล็อตเรื่องที่น่าสนใจ และใส่จังหวะการเล่าเรื่องที่ปลดปล่อยความสุขไปตลอดทาง ความตลก ความฮาที่พอเหมาะพอดี
จุดแข็งที่สุดของ Nimona น่าจะเป็นจุดแข็งของตัวละครต่างๆ ที่มีภูมิหลังและมิติที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Nimona เป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย เธอบ้าและสุดโต่ง แต่ในขณะเดียวกันก็มีด้านที่อ่อนไหวและลึกล้ำซ่อนอยู่เช่นกัน ฝากไว้ให้ผู้ชมติดตามค้นหาเธอ ถือว่าเป็นตัวละครอนิเมชั่นล่าสุดที่น่าจะถูกใจแฟน ๆ ใหม่ ๆ ได้ไม่ยาก
เช่นเดียวกับ Ballister Boldheart เป็นเพียงตัวละครที่เต็มไปด้วยสูตรที่คาดเดาได้ แต่เขามีแนวคิดที่น่าสนใจในใจ แต่เมื่อทั้งสองตัวละครมารวมกัน มาเป็นคู่หูที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ลงตัวมากๆ และหลายๆ ตัวละครในหนังเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ต้นแบบในหนังเด็ก เป็นหนังการ์ตูนที่เด็กๆดูได้เพลินๆ แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเพลิดเพลินได้เช่นกัน
โครงเรื่องและโครงเรื่องของ Nimona ค่อนข้างมั่นคง แม้จะยังต้องยึดสูตรสำเร็จเป็นแนวทาง แต่จังหวะต่าง ๆ ก็ยังเล่าได้สนุก และเชื่อว่า คนดูน่าจะเสพและติดตามหนังได้ไม่ยาก เพราะหนังยังหยิบประเด็นในโลกสมมุติที่สามารถสะท้อนโลกปัจจุบันได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งแนวคิด ความเชื่อ และเจตนารมณ์ ทำให้ความจริงบางส่วนถูกบดบังด้วยกำแพงขนาดใหญ่ที่ชวนคิด
“โคลอี้ เกรซ มอเรตซ์” และ “ริซ อาเหม็ด” ช่วยเติมเต็มในฐานะนักพากย์มากความสามารถที่มาให้เสียงพากย์ให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี พวกเขาปรับปรุงอารมณ์ของภาพยนตร์และตัวละครอย่างมืออาชีพ เสียงของพวกเขาเข้ากับบทได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าได้ดูหนังเรื่องนี้เวอร์ชั่นพากย์ไทยด้วยแล้ว ยังได้เสียงพากย์ไทยที่สนุกและเข้าถึงอารมณ์อีกด้วย
ในแง่ขององค์ประกอบอาคาร Nimona ถือว่าน่าพอใจ แม้ว่าหนังจะไม่ใช่แอนิเมชั่นเน้นรายละเอียดและภาพที่สวยงามแบบนั้น แต่สร้างสรรค์ออกมาอย่างมีสไตล์และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง มีการผสมผสานที่ดีระหว่างสามมิติและสองมิติ สอดรับกับฉากแอคชั่นต่างๆที่ออกแบบมาได้ค่อนข้างเท่ อีกทั้งเพลงประกอบต่างๆ ในเรื่องนี้ก็ชวนสร้างอารมณ์ในแต่ละเรื่องที่เล่าได้
โดยรวมแล้ว Nimona เป็นหนังอนิเมชั่นที่ดีเกินคาด มีทั้งองค์ประกอบการสร้างและเรื่องราวที่แข็งแกร่ง จังหวะการเล่าสนุกชวนติดตามทุกฉากเป็นการ์ตูนที่ค่อนข้างเหนือความคาดหมาย ให้คุณเติมจินตนาการได้อย่างเต็มที่ เป็นหนังการ์ตูนที่ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับเด็กเท่านั้น แต่ผู้ใหญ่ก็สนุกเช่นกัน นี่คือภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่สะท้อนสังคมปัจจุบันได้อย่างน่าคิด
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Nimona นิโมนา
- ประเภท: แอนิเมชั่น / แอคชั่น / ผจญภัย
- ผู้กำกับ: นิค บรูโน, ทรอย เควน
- ให้เสียงพากย์โดย: โคลอี เกรซ มอเรตซ์, ริซ อาเหม็ด, ยูจีน ลี หยาง, จอร์แดน กูเบียน
- ความยาว: 101 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 30 มิถุนายน 2023 (ที่ Netflix)
Movie.TrueID METRIC: Nimona นิโมนา
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - การให้เสียงพากย์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10)