รีวิว ซีรีส์ STRANGER THINGS 4
รีวิว ซีรีส์ Stranger Things 4 ซีรีส์แนวสยองขวัญที่หายไป 3 ปีแต่กลับมาดีเหมือนเดิม
ถ้าพูดถึงซีรีส์แนวสยองขวัญที่เล่าถึงเรื่องราวผ่านตัวละครเด็กเชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึงซีรีส์เรื่อง Stranger Things อย่างแน่นอน มันประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วยเนื้อเรื่องที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน น่าติดตาม แถมยังสามารถสอดแทรกความสยองขวัญเข้ามาได้เป็นอย่างดี การเล่าเรื่องราวนั้นมีอะไรให้เรารู้สึกได้ลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลา มันจึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่ 3 Season ที่ผ่านมามันจะประสบความสำเร็จทุกซีซั่นแบบที่แทบจะไม่มีข้อติอะไรเลย
หลังจากที่ Season 3 ออกมาให้เราได้รับชมเป็นเวลายาวนานกว่า 3 ปี ในที่สุดทาง NETFLIX ก็ได้ทุ่มทุนเงินจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างภาคต่อออกมาให้เราได้รับชมกันอีกครั้งในชื่อ Stranger Things 4 โดยครั้งนี้ใช้งบประมาณในการสร้างไปกว่า 270 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และมันก็สามารถตอบสนองความต้องการของแฟนคลับได้อย่างยอดเยี่ยม เนื้อเรื่องเต็มไปด้วยความจุใจ มีการแบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 ส่วนด้วยกันโดยจะมีทั้งหมด 9 ตอนแบ่งออกเป็น 7 ตอนแรกและ 2 ตอนสุดท้าย
ในปัจจุบัน 7 ตอนแรกออกฉายให้เราได้รับชมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 02 ตอนสุดท้ายนั้นจะมีการฉายตามมาในภายหลังในวันที่ 1 กรกฎาคม เป็นแผนการตลาดเพื่อให้ผู้รับชมอยากจะติดตามเรื่องราวมากขึ้นกว่าเดิม เป็นกลยุทธ์สำหรับคนที่จ่ายเงินสมัครเพื่อดูเรื่องนี้โดยเฉพาะทำให้ต้องจ่ายเงินต่อไปอีกเดือนเพื่อดู 2 ตอนสุดท้าย ฟังดูเป็นไอเดียที่ไม่เลวแต่ความเป็นจริงแล้วสำหรับคนที่สมัครระยะยาวการยืดเรื่องแบบนี้ถือว่าค่อนข้างน่าเกลียดไม่น้อยเช่นเดียวกัน เพราะการที่ไม่ยอมทำอะไรให้มันลงตัวในรอบเดียวต้องมารอ 2 ตอนสุดท้ายเป็นเวลาอีกเดือนกว่าเพราะแผนการตลาดคงทำให้หลายคนรู้สึกไม่พอใจไม่น้อยเช่นเดียวกัน ดังนั้นสำหรับใครที่คิดว่าจะดูซีรีส์ Season นี้เลยดีหรือไม่วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปตัดสินใจพร้อมกัน
ซีรีส์ netflix พากย์ไทย
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง Stranger Things 4
Stranger Things 4 เป็นซีรีส์ที่จะเล่าถึงช่วงเวลาต่อเนื่องจากภาพที่แล้วโดยเป็นเรื่องราวแบบปีต่อปีเหมือนเดิม โดยจะย้อนกลับไปยังจุดกำเนิดห้องทดลองของผู้สร้างแอล ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของโลกกลับด้าน ในซีซั่นนี้บอสมาจากไหนและพวกมันเป็นใครกันแน่จะได้รับการเฉลยเรื่องราวทั้งหมด โดยเส้นเลือดนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มเหมือนกับซีซั่นที่ผ่านมา เพียงแต่ว่าจะมีหลายโลเคชั่นมากกว่าเดิม
ประกอบไปด้วยกลุ่มที่อยู่ในเมืองฮอว์กินส์ประกอบไปด้วยดัสติน สตีฟ ลูคัส โรบิน แนนซี และเอริก้า ส่วนอีกกลุ่มจะเป็นกลุ่มของแอลที่ประกอบไปด้วยโจนาธาน ไมค์ และวิล เป็นกลุ่มเด็กนักเรียนที่ย้ายไปเรียนต่อที่แคลลิฟอร์เนีย กลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มของจอย เมอร์เรย์ที่ออกเดินทางไปยังรัสเซียเพื่อช่วยเหลื่อฮอปเปอร์
สำหรับกลุ่มหลักเหตุการณ์จะเริ่มต้นขึ้นจากความตายของนักเรียนภายในเมืองที่เต็มไปด้วยความสยดสยองและปริศนามากมาย มันกลายเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ทำให้เพื่อนของดัสตินต้องกลายเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยและในตอนนี้เขาก็กำลังต้องหลบหนีจากการตามล่าของตำรวจ กลุ่มของจัสตินจึงต้องเข้ามาสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลัง
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง Stranger Things 4
Stranger Things 4 หากไม่นับรวมเรื่องแผนการตลาดที่นำเอา 2 ตอนสุดท้ายไปฉายในช่วงเดือนกรกฎาคมโดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นซีรีส์ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีการทุ่มทุนสร้างด้วยจำนวนเงินมหาศาลจนทำให้งานออกมายอดเยี่ยมทั้ง Production และงานคอมพิวเตอร์กราฟฟิก สามารถตอบสนองกลุ่มแฟนคลับได้อย่างเต็มอิ่มจุใจ แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือการที่เรื่องราวทิ้งช่วงการถ่ายทำไปถึง 3 ปีหลังจาก Season 3 ฉายเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2019 ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ทำให้การกลับมาถ่ายทำอีกครั้งนักแสดงที่ได้รับบทนำมีอายุที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมจนอายุดูขัดกับบทในเรื่องที่วางเอาไว้ไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่ด้วยประเด็นดังกล่าวที่นักแสดงเริ่มโตกันแล้วแต่มันเป็นที่รู้จักกันในฐานะของซีรีส์เด็กดังนั้นทาง netflix จึงต้องแก้เกมด้วยการพยายามทำให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว ซึ่งทางผู้สร้างรวมถึง netflix ได้ออกมายืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่าซีรีส์เรื่องนี้จะจบลงในซีซั่นที่ 5 อย่างแน่นอนและมีการถ่ายทำต่อเนื่องจากซีซั่นที่ 4 ที่ฉายในตอนนี้
เรื่องราวจะยังคงอ้างอิงมาจากเกม dungeon and Dragon ดังเดิม โดยในซีซั่นนี้สิ่งที่เป็นจุดเด่นมากที่สุดก็คือฉากสยองขวัญที่มาแบบจัดเต็มแถมยังน่ากลัวและชวนอ้วกอีกต่างหาก โดยเฉพาะบอสใหญ่ที่ออกแบบมาได้น่าเกรงขาม ความสามารถในการทารุณกรรมเหยื่อนั้นเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมและโหดร้ายทารุณอย่างถึงที่สุด
ในส่วนของเส้นเรื่องจะเหล้าหนักไปที่ตัวละครแม็กซิ่งกลายมาเป็นเหยื่อของบอสตัวดังกล่าว โดยในซีซั่นนี้จะมีการผสมผสานเรื่องรักสามเส้ารวมไปถึงถ่านไฟเก่าเข้ามาด้วย และยังคงผสมผสานมุกตลกเข้ามาได้เป็นอย่างดี ไม่ดูยัดเยียดจนเกินไป สามารถผูกเรื่องราวระหว่างการผจญภัยค วามสยองขวัญ และความสัมพันธ์ได้อย่างลงตัว
ตัวอย่างซีรีส์ Stranger Things 4
รีวิวซีรีส์ Stranger Things 4 บางส่วนจาก beartai
นับไปนับมา ‘Stranger Things’ อยู่กับแฟน ๆ ซีรีส์ไซไฟสยองขวัญมาถึง 6 ปีแล้ว ซึ่งจากทั้งเทรลเลอร์ของซีรีส์ที่ปล่อยออกมาไปจนถึงโฉมหน้านักแสดง โดยเฉพาะเด็ก ๆ ในซีซันแรกต่างก็โตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมด และไม่ใช่แค่อายุนักแสดงหรือตัวละครเท่านั้น การกลับมาในซีซัน 4 นี้ยังท้าทายเหล่าผู้สร้างเป็นอย่างยิ่งว่าจะยังเล่าเรื่องของชาวฮอว์กินส์และโลกกลับด้านต่อไปอย่างไร
หลังเหตุการณ์เลือดสาดที่ห้างสตาร์คอร์ตในตอนท้ายของซีซัน 3 เหล่าแก๊งเด็กแสบแห่งฮอว์กินส์ต่างก็แยกย้ายไปมีเส้นทางของตัวเอง โดยแอล (มิลลี บอบบี บราวน์ Millie Bobby Brown) ไปอยู่กับบ้านบายเออร์สของจอยซ์ (วิโนนา ไรเดอร์ Winona Ryder) ที่มี วิล (โนอาห์ ชแนป Noah Schanapp) และ โจนาธาน (ชาร์ลี ฮีตัน Charlie Heaton) แต่ที่แคลิฟอร์เนียก็ไม่เหมือนฮอว์กินส์และแอลต้องปรับตัวกับสังคมไฮสคูลที่โหดร้ายในภาวะที่เธอไร้พลังใด ๆ จนกระทั่งแอลถูกจับหลังก่อเรื่อง ไมค์ (ฟินน์ วูลฟ์ฮาร์ด Finn Wolfhard) และพวก จำต้องตามหาแอลก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป
ในขณะเดียวกัน ดัสติน (กาเทน มาทาร์ราซโซ Gaten Matarazzo) สตีฟ (โจ คีรี Joe Keery) แนนซี (นาตาลี ไดเออร์ Natalie Dyer) ลูคัส (เคเล็บ แมคลาฟลิน Caleb McLaughlin) และ แม็กซ์ (เซดี ซิงค์ Sadie Sink) จำต้องไขคดีปริศนาของฮอว์กินส์ที่มีคนตายอย่างต่อเนื่อง หลังการมาถึงของ เวคน่า อสูรร้ายตนใหม่ที่อาจเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ฆาตกรรมในอดีตของฮอว์กินส์ และท้ายสุด จิม ฮอปเปอร์ (เดวิด ฮาร์เบอร์ David Harbour) จำต้องฝากความหวังที่จะแหกคุกโหดจัดรัสเซียไว้กับ จอยซ์และเมอร์เรย์ โบว์แมน (เบรท เจลแมน Brett Gelman) เนิร์ดสุดเพี้ยนที่ดันพูดรัสเซียได้
สำหรับ ‘Stranger Things’ กับการกลับมาในซีซันที่ 4 นี้ แม้ว่าจะแต่งแบ่งออกมาเป็น 2 พาร์ตแต่ก็ยังหาใช่จุดจบของเรื่องราว กระนั้นเจตนาที่ของพี่น้องดัฟเฟอร์ (The Duffer Brothers) ผู้สร้างซีรีส์ชุดนี้จริง ๆ อาจกล่าวได้ว่าเป็นการล้างไพ่และเริ่มต้นเรื่องราวบทใหม่อย่างแท้จริง จนเหมือนว่า 3 ซีซันที่ผ่านมาเป็นเหมือนปฐมบทที่ต้องการปูพื้นเรื่องราวของตัวละครและวิกฤติการณ์หลักอย่างการรั่วไหลของอีกมิติที่มีแต่เมืองฮอว์กินส์ ก่อนจะมาเร่ิมต้นสืบสาวราวเรื่องและถักทอมันไปสู่บทสรุปอันน่าตื่นตาในซีซันที่ 5
สาเหตุหลัก ๆ ที่ผมมองว่าซีซัน 4 คือการเริ่มต้นเรื่องราวที่แท้จริงเพราะอะไรน่ะเหรอครับ ประการแรกเลยหากสังเกตในด้านการเล่าเรื่อง ซีซัน 1-3 เหมือนเรื่องจะวนอยู่ที่มิตรภาพของตัวละครเป็นหลัก ในขณะที่ิวิกฤตการณ์ปีศาจจากโลกกลับหัวหลุดมาที่ฮอว์กินส์เป็นเหมือนตัวพิสูจน์มิตรภาพของพวกเขา ในขณะที่เรื่องในพาร์ตแรกของซีซัน 4 ที่แต่ละตอนกินความยาวตอนละไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงเหมือนมันค่อย ๆ พาเราย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นจริง ๆ ของมันเสียที ซึ่งทำให้ปริมาณความเข้มข้นของเหตุการณ์ในแต่ละตอนแทบไม่มีตอนไหนจืดจางไปกว่ากันเลย
เริ่มตั้งแต่ตัวละครอีเลฟเว่นหรือแอลเองที่คราวนี้เริ่มจากการเป็นมนุษย์ไร้พลังอย่างที่เธอใฝ่ฝันและหวังจะได้ครองรักกับวิล แต่ยิ่งเธออยู่ท่ามกลางผู้คนปกติเธอยิ่งรู้สึกแปลกแยกซึ่งมันนำมาสู่คำถามว่าหรือที่ผ่านมาเธอจะเป็นเพียงแค่ปีศาจ เพราะหลังจากเกิดเรื่องและเธอถูกจับ ซีรีส์ก็เริ่มพาเราไปสำรวจที่มาที่ไป ภาพย้อนอดีตอันแสนโหดร้ายทารุณที่ทิ้งปริศนาให้คนดูต้องตามต่อว่า หรือแอลจะเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดจริง ๆ