Napoleon จักรพรรดินโปเลียน ถ่ายทอดมุมมองส่วนตัวถึงต้นกำเนิดและการขึ้นสู่บัลลังก์ของนโปเลียน โบนาปาร์ต ผู้นำกองทัพฝรั่งเศสผู้พิชิตสมรภูมิรบทุกทิศทุกทาง ดื่มด่ำไปกับความสัมพันธ์ที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ของอดีตแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ ด้วยความมั่นคงแห่งความรักแท้ที่เขามีต่อโจเซฟีน ภรรยาอันเป็นที่รักของเขาต้องเผชิญกับชะตากรรมที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้
ถือเป็นการกลับมาสร้างภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ยุคใหม่อีกครั้ง "ริดลีย์ สก็อตต์" เป็นผู้กำกับเครื่องเคลือบดินเผาที่แทบไม่มีอะไรทำไม่ได้ในอุตสาหกรรมนี้ เขาเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ระดับปรมาจารย์ที่ยังคงขยันหมั่นเพียรในการสร้างโปรเจ็กต์ใหม่ๆ และพิสูจน์ให้ผู้ชมเห็นว่าเขาสามารถสร้างภาพยนตร์ประเภทใดก็ได้ ด้วยทักษะและประสบการณ์ของเขา
ใน Napoleon จักรพรรดินโปเลียน เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน ริดลีย์ สก็อต งัดเอาประสบการณ์หลายทศวรรษในวงการเบื้องหลังการสร้างหนังมาใช้ได้อย่างคุ้มค่า ต้องยอมรับเลยว่าองค์ประกอบงานสร้างนั้น ไว้วางใจได้ในระดับที่พึงพอใจเลยทีเดียว แม้ว่ามันจะเป็นหนังที่ยังอบอวลไปด้วยอรรถรสที่ค่อนข้างเซฟโซนไปสักหน่อย แอบผิวเผินไปสักนิด แต่ก็สาธยายตำนานของนโปเลียนออกมาในระดับความบันเทิงที่รู้ดีว่าคนดูต้องการเห็นอะไร
เพียงเพราะมันถูกเรียกว่าเป็นภาพยนตร์ของริดลีย์ สก็อตต์ คุณไม่สงสัยเลยว่านี่จะเป็นละครสงครามอิงประวัติศาสตร์ที่ดูง่ายและเข้าใจง่าย ด้วยการนำเสนอที่ตรงไปตรงมาและไม่ซับซ้อน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ตรงไปตรงมาที่สุดสำหรับผู้ชม เดวิด สการ์ปา ซึ่งร่วมงานกับริดลีย์ในเรื่อง All the Money in the World เป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์ พูดตามตรง บทภาพยนตร์ยังคงมีการพัฒนาอยู่ ขึ้นลงไม่กลมกล่อมมาก แต่การเก็บแต้มสำคัญก็ถือว่าใช้ได้ดีกับเวลาที่เรามี
แน่นอนว่าตำนานของบุคคลในประวัติศาสตร์ย่อมต้องใช้เวลาในการเล่าเรื่อง และถึงแม้ว่า Napoleon จักรพรรดินโปเลียน เรื่องจะพยายามทำให้กระชับถึงที่สุดแล้ว แต่หนังก็ยังกินเวลาไปยาวถึง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ เลย ตรงนี้จึงเป็นจุดที่มองว่าหนังค่อนข้างยาวไปหน่อย แต่พอลองกลับมาพิจารณาดูมุมกว้าง ๆ อีกที ก็เชื่อแล้วว่าหนังค่อนข้างทำให้กระชับที่สุดแล้ว และผลลัพธ์ที่ออกมามันได้เท่านี้จริง ๆ เป็นการย่อให้สั้นแต่ก็ยังรู้สึกว่ายาวอยู่ดี
สำหรับใครที่อยากดูหนังสงคราม เรื่องนี้ก็อาจจะสนใจเช่นกัน เพราะลุงริดลีย์สามารถรวบรวมกระบวนการสงครามและวิธีการต่อสู้ต่างๆ อย่างมืออาชีพ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่มีฉากสงครามและการต่อสู้ในอดีตที่ค่อนข้างสมจริง ฉากแอ็คชั่นสงครามที่รวมมานั้นดูจริงใจและน่าพึงพอใจ ช่วยปรับอารมณ์คนดูได้เป็นอย่างดี ด้วยกลยุทธ์การวางแผนสงครามอันชาญฉลาด
ทางด้านการแสดงแทบจะไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรมาเลย “วาคีน ฟินิกซ์” ก็ยังเจิดจรัสด้วยการแสดงที่จัดจ้านสไตลืเขา เขาถ่ายทอดนโปเลียนในแบบฉบับของเขาที่ทำให้คนดูเชื่อได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร เข้าถึงบทบาท เข้าถึงอารมณ์ตัวละครได้อย่างเหมาะเจาะ จะหาอะไรดีที่สุดในหนังเรื่องนี้ได้เท่ากับลีลาการแสดงของเขาอีกเล่า
อีกคนที่ละสายตาไปไม่ได้เลยก็คือ “วาเนสซา เคอร์บี” โอ้โห้..คนนี้จริงประสบการณ์เยอะก็ยิ่งล้นไปด้วยเสน่ห์ทางการแสดง และเธอก็เปล่งประกายความเป็นนักแสดงมืออาชีพในหนังเรื่องนี้ ระดับบารืการแสดงของเธอเกือบจะเทียบชั้นกับวาคีนเลยก็ว่าได้ ด้วยจังหวะและโทนการแสดงในรูปแบบของตัวเอง ที่ไม่ได้ยึดติดกับภาพของบทนั้น ๆ นี่แหละเป็นอินเนอร์ที่ดีในการแสดงของนักแสดงที่ดี
แม้ว่าอาจจะรู้สึกว่า Napoleon จักรพรรดินโปเลียน เป็นหนังประวัติศาสตร์ที่ย่อมจะใส่ตัวละครเข้ามามากมาย แต่น่าเสียดายที่ความเยอะจัดของตัวละครต่าง ๆ ทำให้เราแทบลืมจะใส่ใจในรายละเอียดไปบ้าง หรืออาจเป็นเพราะว่าเจิดจรัสของ 2 นักแสดงนำของเรื่องนี้ได้เปล่งรัศมีบดบังนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ไปแทบจะทั้งหมดเลยก็ว่าได้
ถึงแกนของหนังจะเน้นที่ความดรามาเชิงสงคราม แต่อีกหนึ่้งนัยสำคัญที่ Napoleon จักรพรรดินโปเลียน ได้ใส่เข้ามาก็คือความเป็นหนังรัก อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ถูกใส่เข้ามาเสริมอย่างพิถีพิถันก็คือจังหวะของจดหมายรักและความรักระหว่าง นโปเลียน กับ โจเซฟีน ภรรยาที่รักของเขา มันเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบเรามองข้ามไปไม่ได้เลย เพราะเป็นจุดที่ช่วยเบรกและเติมเชื้อไฟแห่งอารมณ์ของคนดูให้ได้กลมกล่อมเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ
ดังนั้นโดยสรุปแล้ว Napoleon จักรพรรดินโปเลียน อาจจะไม่ได้เห็นหนังดรามาประวัติศาสตร์ที่มาเพื่อหวังจะมีบทบาทบนเวทีรางวัลแบบจ๋า ๆ หนังค่อนข้างนำเสนอในรูปแบบหนังเชิงพาณิชย์ทั่วไป ที่ดูง่ายและย่อยง่าย เป็นการดำเนินเรื่องตามไทม์ไลน์ของประวัติศาสตร์แบบตรงไปตรงมา และน่าจะเป็นเนื้อเรื่องที่คนชอบประวัติศาสตร์ยุโรปก็น่าจะคุ้นเคยดี เพียงแต่ได้การแสดงที่คมคายของทีมนักแสดงดี ๆ และยังมีทีมงานผู้สร้างที่มอบงานโปรดักชันที่ทำได้ถึงกึ๋น ถึงจะยังไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบที่ดี แต่ก็ยังมีหลาย ๆ มุมให้ได้ตราตรึง
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง: Napoleon จักรพรรดินโปเลียน
- ประเภท: ดรามา / สงคราม / โรแมนติก
- ผู้กำกับ: ริดลีย์ สก็อต
- นำแสดงโดย: วาคีน ฟินิกซ์, วาเนสซา เคอร์บี, เบน ไมล์ส
- ความยาว: 158 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 22 พฤศจิกายน 2023