รักนะ ซุปซุป

กนะ ซุปซุป

ว่ากันเรื่องภูมิปัญญาอาหารท้องถิ่นของแต่ละภูมิภาคเป็นสิ่งที่จับต้องได้แต่กลับยังไม่ค่อยถูกนำมาชูรสในวงการบันเทิงไทยกันสักเท่าไหร่นัก แน่นอนว่า…หากเป็นอาหารไทยต้นตำรับ ถ้าเลือกจะนำเสนอแล้วก็ต้องเป๊ะทุกอย่าง ประหนึ่งเป็นการแข่งรอบความละเอียดและแม่นยำในรายการแข่งขันทำอาหารชื่อดังทำนองนั้น แต่แล้วก็มีหนังไทยเรื่องหนึ่งที่กล้าเสี่ยงที่จะหยิบจับนำอาหารถิ่นมาเป็นประเด็นหลัก แม้ชื่อเรื่องจะไม่ได้น่าดึงดูด แต่ก็อะไรบางอย่างซ่อนอยู่ หนังเรื่องนั้นก็คือ “รักนะ ซุปซุป”

หนังเล่าเรื่องราวของ มินนี สาวมุสลิมที่มีดีกรีเป็นทายาทของพ่อครัวใหญ่แห่งวังหลวงในสมัยอาณาจักฟาตอนี เธอเป็นทายาทรุ่นปัจจุบันที่แทบจะไม่มีสูตรจากคุณปู่ทวดติดตัวมาเลย แต่เธอก็ฝันอยากจะเจริญรอยตามท่าน ด้วยการเข้าไปเป็นลูกมือในร้านอาหารสไตล์มลายู ที่การันตีด้วยมุสลิมสตาร์ และทำให้เธอได้พบกับ อันซัส หนุ่มที่ได้รับมรดกตกทอดมาจากผู้เป็นพ่อ มาทำหน้าที่ดูแลร้านอาหารมลายูแห่งนี้แทน

แต่เส้นทางการประคับประคองร้านอาหารชั้นเยี่ยมเอาไว้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เมื่อมินนีทำพลาดในจานอาหารและเป็นเหตุทำให้ร้านถูกยึดดาวดังไป งานนี้บรรดาเชฟและผู้ช่วย รวมทั้ง อันซัน กับ มินนี จะต้องคิดหาวิธีและคิดค้นเมนูอาหารที่ทำให้ได้มุสลิมสตาร์กลับมาให้ได้ โดยพวกเขาหวังจะรื้อฟื้นสูตรอาหารที่หายไปอย่าง ซุปเนื้อวัวหลังวัง สูตรพ่อครัวใหญ่แห่งวังหลวง ที่มีเพียงมินนีเท่านั้นที่จะสัมผัสและระลึกถึงรสชาติที่แท้จริงได้

ต้องยอมรับว่าเลยว่า รักนะ ซุปซุป ปูทางและมีประเด็นที่น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะนี่เป็นหนังไทยที่เล่าถึงวิถีชีวิตของชาวมุสลิมตลอดทั้งเรื่อง อีกทั้งยังหยิบจับเมนูอาหารมลายูและอาหารถิ่นต่างๆ ของพื้นเมืองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นกันสักเท่าไหร่บนสื่อหน้าจอโทรทัศน์และภาพยนตร์ ประเด็นนี้จึงกลายเป็นเหมือนแรร์ไอเท็มที่หาดูได้ยาก และกล้าเสี่ยงที่จะนำเสนอในทิศทางนี้

หนังปูเรื่องมาด้วยเมนูอาหารดั้งเดิมและสูตรที่หายไปตามกาลเวลา เปิดเรื่องมาได้ค่อนข้างน่าสนใจและมีเหตุผลข้อมูลสนับสนุนได้อย่างชวนดู แต่ก็เพียงเท่านั้นแหละ…กลับกลายเป็นว่านั่นเป็นเพียงจุดเด่นจุดเดียวของหนังเรื่องนี้ที่ได้ค่อนข้างน่าพอใจ กับการชูวัตถุดิบหลักเป็นเรื่องอาหารถิ่นของคาบสมุทรมลายู แต่เรื่องรสชาติที่ออกมานั้น…กลับไม่สามารถระบุได้แน่ชัด

คงจะต้องพูดตรงๆ เลยว่า พระเอกและนางเอกของเรื่องนี้มีพลังไม่พอที่จะแบกรับหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้ “เข้ม หัสวีร์” ที่น่าจะกระโดดมาเล่นหนังเป็นเรื่องแรก แต่คาแรกเตอร์อะไรต่างๆ ในเรื่องเขายังคงติดความเป็นพระเอกละครช่อง 7 อยู่แทบจะทุกส่วน ทำให้กลายเป็นตัวละครแบนๆ ราบๆ ที่ไม่ได้มีมิติอะไร แม้กระทั่งบุคลิกทางรูปธรรมและนามธรรมยังต้องให้ตัวละครสมทบอื่นออกมาอธิบายให้แทน

ในขณะที่ “ซัซนี วิระฉัตร” ดาราสาวมุสลิมที่เข้าใจว่าน่าจะมีประสบการณ์แสดงที่ยังไม่เยอะเท่าไหร่นัก ทำให้ในการแสดงของเธอยังดูไม่ชัดเจน ขาดๆ เกินๆ ไปตลอดทั้งเรื่อง ทั้งที่เป็นตัวละครหลักของเรื่องที่รับหน้าที่ดำเนินเรื่องไป แต่น่าเสียดายที่ไม่มีพลังทางการแสดงออกมาช่วยพยุงตัวหนังเอาไว้ได้เลย แม้กระทั่งฉากเซอร์วิสสูตรสำเร็จของคู่พระนาง ที่ควรจะซาบซึ้งโรแมนติก แต่เมื่อทั้งคู่เข้าฉากด้วยกัน ส่วนใหญ่ผลลัพธ์จะออกมาค่อนข้างกระอักกระอวกและดูเป็นการแสดงไปหมด

แทนที่คู่พระนางจะพาเราฟินไปกับอุปสรรคนำพามาสู่เส้นทางรักตามแบบฉบับ แต่ปรากฏว่านักแสดงรุ่นพี่อย่าง “เต้ ปิติศักดิ์” กับ “นุ๊ก สุทธิดา” ได้ทำหน้าที่ความโรแมนซ์แทนที่ได้ดีกว่า…และดีกว่าเยอะมาก คงไม่ต้องนำไปเปรียบเทียบกับนักแสดงรุ่นน้อง เพราะพวกเขาคือมืออาชีพที่มีชั่วโมงบินทางแอคติ้งสูงมากๆ แล้ว เพียงแค่ขยับเล็กน้อยกับสื่อทางสายตา ไม่ต้องพยายามอะไรมาก ทุกอย่างก็มีทั้งอินเนอร์และความรู้สึกออกมาอย่างอัตโนมัติ

ถึงแม้ รักนะ ซุปซุป จะมีประเด็นที่ค่อนข้างดี แต่บทภาพยนตร์และการเล่าเรื่องกลับทำพังไปหมด บทยังค่อนข้างอ่อนและเดินหมากตามสูตรสำเร็จไปเสียหน่อย ไม่มีอะไรที่เกินไปจากสิ่งที่คนดูคาดเดาได้ เพิ่มเติมด้วยความสัมพันธ์แปลกๆ ของคู่พระนาง ที่แทบไม่มีฉากให้รู้สึกว่าไปรักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่หนังพยายามสื่อให้เห็นว่าทั้งคู่รักและคิดถึงอยู่มากๆ จึงเป็นสิ่งที่คนดูไม่ได้รู้สึกอินใดๆ

ส่วนการสอดแทรกมุกตลกในหนังนั้น ได้ทำการใส่เข้ามาอย่างผิดจังหวะเกือบทั้งเรื่อง บางฉากกำลังเน้นอารมณ์ไปได้สวย แต่ดันเลือกตัดบทขึ้นมาอย่างกะทันหันด้วยความพยายามทำให้ตลก ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงกลายเป็นความไม่ตลกเลยสักนิดเดียว และยังส่งผลต่อภาพรวมของหนังไปอย่างน่าเสียดายด้วย ขณะที่บทพูดของตัวละครต่างๆ ก็ดูไม่เป็นธรรมชาติ ดูประดิษฐ์ และบางจุดก็เป็นภาษาอ่านมากกว่าภาษาพูดด้วยซ้ำ

แต่อย่างไรก็ตาม รักนะ ซุปซุป ก็ยังมีสิ่งที่ชมเชยอีกจุดหนึ่งก็คือการถ่ายภาพ แม้ว่ามุมกล้องจะแปลกๆ การตัดต่อยังน่าขัดใจ แต่ภาพถ่ายที่ออกมาในหนังค่อนข้างคลุมโทนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะวิวในกรุงเทพฯ หรือบรรยายพื้นเมืองในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เป็นสิ่งที่ถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างกลมกล่อมอยู่ในระดับหนึ่ง

โดยสรุปแล้ว รักนะ ซุปซุป เป็นหนังไทยที่ยังคงอยู่ในระดับมาตรฐานที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง การแสดงของคู่พระนางยังแบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ไม่ได้ แต่มีดีที่นักแสดงรุ่นพี่ในบทสมทบ บทหนังค่อนข้างอ่อนและเชยตามสูตรสำเร็จ แม้หนังจะโดดเด่นในการหยิบยกประเด็นได้น่าสนใจ แต่ยังล้มเหลวในการนำเสนอออกมาให้น่าติดตาม แม้จะเห็นถึงความพยายามที่หนังจะสื่อออกมา แต่ภาพรวมก็ยังถือว่าเป็นหนังไทยที่ยังมีจุดบกพร่องอยู่เยอะไปตลอดทั้งเรื่อง

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง รักนะ ซุปซุป
ประเภท : โรแมนติก / ตลก
ผู้กำกับ : เกรียงไกร มณวิจิตร
นำแสดงโดย : หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล, ซัซนี วิระฉัตร, ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์, สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา, นพดล ทรงเเสง
ความยาว : 95 นาที
เข้าฉาย : 30 กรกฎาคม 2020

—————————————————-