Whiplash – ตีให้ลั่น เพราะฝันยังไม่จบ

Whiplash

Damien Chazelle 

หนังดราม่าน้ำดีที่ทั้งหนักแน่นและเรียบง่ายในการเล่าเรื่อง การแสดงขั้นท็อปฟอร์มระดับอาจเข้าชิงออสการ์ของตัวละครนำทั้งสอง และการจับประเด็นห้วงชีวิตของการอยากก้าวพ้นจากสามัญชนธรรมดาไปสู่จุดสุดยอดบนเวทีอันเป็นที่จดจำ เป็นตำนาน ซึ่งต้องแลกด้วยชีวิตจิตใจ หยาดเหงื่อแรงกาย เลือดเนื้อที่หนังเฉือนแล่ชีวิตของไอ้หนุ่มนักฝันกับอาจารย์โหดซาดิสท์ออกมานำเสนอได้อย่างเข้มข้นทรงพลังและตรึงตราใจเอามากๆ

Whiplash ผลงานของผู้กำกับ เดเมียน แซซเซลล์ ทีเจ้าตัวเผยว่าต้องการให้หนังที่ว่าด้วยนักดนตรีแจ๊ซเรื่องนี้เต็มไปด้วยอารมณ์แอคชั่นจนเลือดสูบฉีด แอนดรูว์ เด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ด้านการตีกลองและมีความทะเยอทะยานอยากไปไกลถึงระดับตำนาน ต้องมาพบกับการฝึกซ้อมสุดหฤโหดที่พร้อมจะบดขยี้ทั้งกำลังใจและกำลังกายจากครูระดับเซียนจอมซาดิสท์อย่าง เฟล็ตเชอร์ การฝึกซ้อมของเฟล็ตเชอร์ที่เต็มไปด้วยความกดดัน ความรุนแรงที่กระแทกทางอารมณ์ถึงขนาดปาเก้าอี้ใส่หัวจากตีกลองผิดจังหวะ หรือการให้ตีจนมือเหวอะเลือดอาบกลอง ปะทะกับลูกบ้าและความทะเยอทะยานจนเข้าขั้นเสียสติเกินคนทั่วไปจะทนไหวของแอนดรูว์ ทำให้หนังเรื่องนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่น่าขนลุกและเฮี้ยนเกินกว่าหน้าหนังหรือคำโปรยว่าเป็นหนังสู้เพื่อฝันอันสวยงามไปไกลหลายเท่านัก

ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดคือการที่หนังผลักตัวละครทั้งสองไปไกลในทางที่พวกเขาเป็นอย่างสุดโต่งโดยที่ไม่ใช้บทสรุปง่ายๆ ตามขนบดีงามใดๆ มาตีกรอบจนลดค่าพวกเขาลงไป นี่จึงเป็นหนังที่มีเลือดเนื้อพลังชีวิตเต็มเปี่ยมถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีบทสรุปสำหรับคนดูทุกคน หนังเพียงแค่นำเสนอทางเลือกของคนในรูปแบบหนึ่งที่เต็มไปด้วยราคาที่ต้องจ่ายอย่างสาหัสเพื่อความหมายของชีวิตเฉพาะตัวที่แสวงหาโดยไม่ประนีประนอมใดๆ คนดูอาจไม่ได้เห็นด้วยกับทางเลือกของตัวละคร นี่จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าพวกเขามีชีวิตเป็นของตัวเองอย่างแท้จริง ชีวิตในแบบที่น้อยครั้งที่เราจะเห็นถูกนำเสนออย่างไม่เสแสร้งตรงไปตรงมา และเป็นชีวิตที่ควรค่าแก่การถูกนำเสนอเป็นหนังเรื่องเยี่ยมเช่นนี้

น่าสนใจว่าหนังฟอร์มเล็กที่มาแรงน้ำดีเรื่องนี้จะไปต่อได้ไกลแค่ไหน หลังจากคว้ารางวัลในเทศกาลซันแดนซ์ โดยเฉพาะการแสดงของสองนักแสดงทั้ง ไมลส์ เทลเลอร์ และ เจ เค ซิมมอนส์ ที่น่าลุ้นในเวทีออสการ์เป็นอย่างมากโดยเฉพาะรายหลังที่พลิกบทบาทจากภาพจำคาแรกเตอร์ตัวตลกมาเป็นจอมโหดที่เห็นเขาในฉากทีไรก็เสียวสันหลังวาบได้ทุกที ที่สุดแล้ว Whiplash ก็ยังทำให้เห็นว่าหนังที่มีเส้นเรื่องแต่น้อย องค์ประกอบเรียบน้อย ก็หนักแน่นและทรงพลังได้ขนาดนี้