Toy Story 4
— 7.9/10 —
สนุกมาก ตลก ตลอดทั้งเรื่อง ยกระดับงานด้านภาพมากๆ สวยโคตร
แต่…ภาคนี้เหมือนทำมาเซอร์วิสแฟนๆ เสียมากกว่า
สำหรับเรามันจบไปตั้งแต่ภาค 3 แล้ว
รีวิวนี้อาจจะสวนกระแสคนอื่นพอสมควร แต่ทำไงได้ เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ ต้องบอกว่ามันเป็นความคิดเห็นของเราคนเดียวเท่านั้นนะ จริงๆ รู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่รู้ข่าวออกมาว่าจะมี Toy Story 4 เพราะเนื้อเรื่องในภาค 3 มันจบได้อย่างสมบูรณ์แบบ สวยงาม และซึ้งสุดๆ แล้ว พอมีภาค 4 ออกมาเราเลยรู้สึกว่าเรื่องราวแค่เป็นการขยายความให้ขายได้เท่านั้น เหมือนเป็นการเซอร์วิสแฟนๆ ซะมากกว่า
หลังจากในภาค 3 เหล่าของเล่นของ Andy ได้ไปอยู่บ้านของ Bonnie ภาคนี้จึงเล่าเรื่องราวต่อจากเหตุการณ์นั้น เมื่อ Bonnie ได้เข้าโรงเรียนประถม แต่ขาดความมั่นใจแบบสุดๆ เลยทำให้ Woody ต้องคอยตามไปช่วยเหลือและดูแลเธอ ด้วยเหตุนั้นเธอจึงประดิษฐ์ Forky ขึ้นมา แต่เจ้า Forky กลับไม่คิดว่าตัวเองเป็นของเล่น และได้หนีไป ทำให้เรื่องราวการผจญภัยเกิดขึ้น Woody และเหล่าผองเพื่อนต้องไปตามหา Forky กลับมา พร้อมๆ กับตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิตตนเอง
มันไม่ได้แย่นะ แต่เราคาดหวังอะไรที่มันกระแทกใจเรามากกว่าภาคที่ผ่านๆ มา ภาคนี้จะเน้นขายความสนุก ตลก และความบันเทิงมากกว่าจะมาขายอะไรซึ้งๆ คือตลอดทั้งเรื่องคุณจะได้ฮาแน่นอน ฮากว่าภาคอื่นๆ ที่ผ่านมาซะอีก โดยเฉพาะเหล่าตัวละครใหม่ ทั้ง Forky ที่บอกเลยเราฮามาก ทุกฉากที่มันปรากฏตัว หรือ Duke Caboom ที่ให้เสียงพากย์โดย Keanu Reeves ถึงจะไม่ได้ออกมาเยอะ แต่ก็สร้างความฮาได้ดี เพราะมันเผลอนึกภาพเจ้าตัวอยู่ตลอดเวลาเลย และที่น่าชื่นชมที่สุดของเรื่องนี้คืองานด้านภาพ ที่สวยมาก เป็นอนิเมชั่นที่งดงามและใส่ใจรายละเอียดแบบหาที่ติไม่ได้เลยจริงๆ เช่น สติ๊กเกอร์ติดหน้าอกของ Buzz ที่ดูเหมือนจะหลุดยับๆ เยินๆ หรือร่องรอยตามตัวของเล่นที่เหมือนผ่านการเล่นมาหลายรอบแล้ว หรือขน ปุยนุ่นของตุ๊กตาที่ดูสมจริงอย่างเหลือเชื่อ รวมถึงเพลงประกอบที่เข้ากับสถานการณ์และช่วงส่งอารมณ์ต่างๆ ได้ดี
แต่ปัญหามันอยู่ที่เนื้อเรื่องนี่แหละ นอกจากความสนุก ตลก ฮา และแฝงข้อคิดเล็กๆ น้อยแล้ว ก็ไม่มีอะไรเลยจริงๆ หนังเน้นขายความบันเทิงล้วน เหมือนแค่มาให้แฟนหายคิดถึงเท่านั้น และก็ลงเอยเรื่องราวเหล่านั้นด้วยรอยยิ้ม
สรุปเลยว่า ถ้าในภาค 3 คือการจบด้วยความซึ้ง เศร้า กินใจ ในภาคนี้คือการเซอร์วิสแฟนๆ ด้วยรอยยิ้ม ความสุข สนุก ตลก จบแบบแฮปปี้นั่นแหละ