The Unholy เล่าถึงเรื่องของอลิซ (Cricket Brown) สาวน้อยที่บกพร่องทางการได้ยินมาตั้งแต่เด็ก แต่แล้ววันหนึ่งปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อเธอสามารถพูดได้และยังมีพลังสามารถเยียวยารักษาผู้คนที่เจ็บไข้ได้อีกด้วย ซึ่งเธอเชื่อว่าเธอได้รับพรจากพระแม่มารีย์ และมีหน้าที่ช่วยเหลือคนให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทน
ผู้คนมากมายต่างเชื่อและศรัทธาเธอ รวมถึงนักข่าวอย่าง เจอร์รี่ เฟนน์ (Jeffrey Dean Morgan) ที่สัมภาษณ์เธอและเผยแพร่ข่าวสารให้คนทั่วไปได้รับรู้เรื่องของเธอมากขึ้น แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็เริ่มเกิดเรื่องแปลกๆ และเรื่องสยองขวัญขึ้น ทำให้เจอร์รี่เริ่มตั้งคำถามว่า ตกลงแล้วสิ่งที่ประทานพลังให้อลิซนั้น คือพระแม่มารีย์หรือเป็นสิ่งอื่นที่มาพร้อมความชั่วร้ายกันแน่
ก็เป็นหนังสยองขวัญไขปมปริศนาแบบที่ฮอลลีวู้ดชอบทำกันออกมาในช่วงยุค 80 – 90 ครับ ในแง่บรรยากาศก็ถือว่าทำได้ไม่เลว สามารถสร้างอารมณ์ลึกลับได้ในระดับหนึ่ง อันนี้ก็ยกความดีให้ผู้กำกับภาพ Craig Wrobleski ที่เคยผ่านงานซีรี่ส์ The X Files, The Twilight Zone และ The Umbrella Academy มาก่อน ลีลาการนำเสนอภาพก็สร้างอารมณ์หลอนลึกลับให้กับหนังได้พอสมควร
บวกด้วยดนตรีกระตุ้นความหลอนฝีมือของ Joseph Bishara ที่ถือว่าถนัดทำดนตรีให้หนังแนวนี้มานาน เพราะไม่ว่าจะ Insidious 4 ภาค หรือ The Conjuring 3 ภาคก็เป็นฝีมือของเขานี่แหละ
งานสร้างถือว่าน่าพอใจครับ แต่ตัวเนื้อหานั้นถือว่าเดาได้ไม่ยากเย็น เชื่อว่าหลายคนเดาอะไรต่อมิอะไรได้ตั้งแต่ดูตัวอย่างแล้ว การเดินเรื่องก็ค่อนข้างราบเรียบไปสักหน่อย ไม่ค่อยมีชั้นเชิงในการเล่าสักเท่าไร เลยทำให้อารมณ์ลึกลับไม่ค่อยมาก พูดง่ายๆ คืองานภาพนั้นให้อารมณ์ลึกลับครับ แต่การเล่าเรื่องไม่ใคร่จะลึกลับนัก หลายมุกในหนังก็เป็นมุกตุ้งแช่ เลยทำให้แม้บรรยากาศหนังจะไม่เลว แต่ความน่าติดตามยังไม่เยอะครับ
หนังกำกับโดย Evan Spiliotopoulos ซึ่งกำกับเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เขาเป็นมือเขียนบทให้กับหนัง The Huntsman: Winter’s War, Charlie’s Angels (2019) และ Snake Eyes: G.I. Joe Origins ซึ่งแต่ละเรื่องก่อนหน้านั้นก็ไม่ใคร่จะอร่อยนักครับ มาเรื่องนี้เขาก็ดัดแปลงบทเองด้วย (ดัดแปลงมาจากนิยายของ James Herbert ผู้ล่วงลับอีกที) ซึ่งผลที่ได้ก็ถือว่าไม่มีอะไรน่าประทับใจนัก
โดยรวมแล้วหนังค่อนข้างธรรมดาครับ งานสร้างน่ะดูดีมีมาตรฐาน ดาราจริงๆ ผมว่าก็เวิร์กนะ Morgan ดูไม่เลวกับบทตัวเอกของเรื่อง หรือบทสมทบ William Sadler, Cary Elwes และ Diogo Morgado แต่ละคนก็ถือว่ามืออาชีพ ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีตามบท โดยเฉพาะ Sadler นี่แววตาท่าทางและการสื่ออารมณ์ทำได้ดีมากๆ
แต่การเล่าเรื่องไม่มีอะไรชวนติดตามนัก เดาทางได้ไม่ยากน่ะครับว่าใครจะอยู่หรือใครจะตาย บางจุดก็รู้สึกว่าบทดูอ่อนด้วย อย่างช่วงไคลแม็กซ์ที่ก็ดูจะดำเนินไปเพราะบทสั่ง มากกว่าจะดำเนินไปด้วยอารมณ์ของเหตุการณ์ และที่ติดในใจมากๆ คือ ทำไมปีศาจในเรื่องมันต้องเคลื่อนไหวแบบ Ju-on แบบนั้นด้วย
กระนั้นหนังก็มีแง่คิดติดหัวคนดูอยู่ครับ นั่นคือการที่เราจะศรัทธาเชื่อถือในอะไรสักอย่างนั้น เราควรมีวิจารณญาณและพิจารณาประเด็นต่างๆ ให้รอบด้าน ไม่ใช่ใส่เกียร์ห้าแล้วหลับหูหลับตาเชื่อโดยไม่ตั้งคำถามตรวจสอบ
บางครั้งศรัทธาก็ควรมาพร้อมการตั้งคำถามครับ เพื่อช่วยให้เรามองเห็นสิ่งที่ศรัทธานั้นอย่างครบมุม และเราจะได้ไม่ต้องเป็นเหยื่อในกรณีสิ่งที่เราศรัทธานั้นมีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์แอบแฝงอยู่เบื้องหลัง
โดยรวมแล้วก็เป็นหนังสยองขวัญแนวอาถรรรพ์ที่ผ่านมาแล้วผ่านไปครับ
ไม่ถึงสองดาวครับ
(5/10)