รีวิว ซีรีส์ THE UMBRELLA ACADEMY SS3
รีวิว ซีรีส์ THE UMBRELLA ACADEMY SS3 การกลับมาอีกครั้งในฐานะของซีซั่นที่ดีที่สุดของซีรีส์
ปกติแล้วซีรีส์เรื่องหนึ่งจะประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องทำภาคแรกออกมาให้ดี หากได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ดีและเป็นที่นิยมย่อมมีโอกาสที่จะได้สร้างซีซั่นต่อไปได้ไม่ยาก แต่อย่างไรก็ตามสำหรับซีรีส์บางเรื่องแล้วยิ่งทำก็ยิ่งดีก็มีเช่นเดียวกัน หรือซีรีส์บางเรื่องที่ซีซั่นแรกทำออกมาได้ดีแต่ซีซั่นที่ 2 ไปไม่ถึงฝั่ง แต่ก็หวนกลับคืนมาได้อีกครั้งจากความตายหลังออกซีซั่นที่ 3 อย่างเช่นซีรีส์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นก็คือ THE UMBRELLA ACADEMY SS3
การกลับมาของครอบครัวฮีโร่ที่เต็มไปด้วยความปวดและความวุ่นวายในครั้งนี้มีความสนุกสนานมากขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากเป็นการเปิดมิติใหม่ที่จะนำพาคุณไปสู่ความเป็นไปได้ที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งทำให้เราอยากรู้มากขึ้นไปอีกว่าซีซั่นต่อไปพวกเขาจะนำเสนอเรื่องราวไปในทิศทางไหนต่อ
สำหรับใครที่ดูภาพยนตร์มาร์เวลแล้วชื่นชอบแนวคิดเกี่ยวกับมัลติเวิร์สหรือโลกคู่ขนาน ครั้งนี้ซีรีส์เรื่องนี้ก็ได้ยิ้มนำเอาประเด็นดังกล่าวมาเล่าเช่นเดียวกัน อย่างที่เราทราบดีว่าในกลุ่มครอบครัวฮีโร่นี้มีฮีโร่อยู่คนหนึ่งที่มีความสามารถในการข้ามเวลาและมันก็ทำให้เขานั้นบังเอิญไปพบกับบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้เขารีบกลับมาหาพี่น้องเพื่อหาทางจัดการกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันให้สำเร็จ พี่น้องครอบครัวอัมเบลล่าจะทำอย่างไรต่อไปเราต้องไปดูกัน
ซีรีส์ netflix แนะนํา
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง THE UMBRELLA ACADEMY SS3
THE UMBRELLA ACADEMY SS3 เป็นซีรีส์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของชายหนุ่มมหาเศรษฐีคนหนึ่งที่มีชื่อว่าเรจินัล ฮากรีฟ เขาได้รวบรวมเด็กที่อยู่ดีๆ ก็เกิดขึ้นมาในท้องของผู้หญิงโดยที่พวกเธอนั้นไม่ได้ทำอะไรให้เกิดเด็กทารกขึ้นมาเลยแม้แต่น้อยและเด็กทุกคนต่างคลอดในวันเดียวกันอีกด้วย แน่นอนว่าหญิงสาวที่ไม่ได้เตรียมพร้อมจะเป็นแม่คนไม่สามารถที่จะเลี้ยงเด็กเหล่านี้ให้เติบโตขึ้นมาได้ พวกเธอจึงได้มอบเด็กเหล่านี้ให้เป็นลูกบุญธรรมของมหาเศรษฐีเพราะหวังว่าลูกของพวกเธอจะมีชีวิตที่ดี
เรจินัลได้นำเอาเด็กทั้งหมด 7 คนมาฝึกฝนเนื่องจากเขารู้ว่าเด็กเหล่านี้มีพลังวิเศษ และเด็กเหล่านี้ก็ได้มาเป็นกลุ่มซุปเปอร์ฮีโร่ในภายหลัง พวกเขาต่อสู้กับเหล่าร้ายมากมาย แต่ก็มีเหตุการณ์ที่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็เติบโตมากลายเป็นผู้ใหญ่ที่เหลวแหลกจากปัญหาชีวิตรุมเร้า การจะช่วยเหลือคนอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะแค่ช่วยเหลือตัวเองยังแทบจะทำไม่ได้ด้วยซ้ำ
ล่าสุดฮีโร่หมายเลข 5 ที่มีความสามารถในการกระโดดข้ามมิติในเวลาสั้นๆ เดินกระโดดข้ามมิติไปไกลจนถึงขั้นทะลุเวลาไปพบกับวันสิ้นโลกเสียอย่างนั้น เขาจึงต้องพยายามหาทางกลับมายังโลกปัจจุบันของตนเองให้สำเร็จขณะที่พี่น้องของเขาทุกคนยังคงมีชีวิตอยู่ขณะที่โลกยังไม่แตกสลาย เขาต้องการที่จะรวมครอบครัวให้กลับมากู้โลกพร้อมกันอีกครั้ง
จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่พวกเขาสามารถจัดการช่วยเหลือโลกให้รอดพ้นจากวิกฤตได้สำเร็จมันกลับกลายเป็นมัลติเวิร์สหรือโลกคู่ขนานเกิดขึ้นมาเสียอย่างนั้น แถมยังเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีครอบครัวอัมเบลล่าอีกด้วย แต่เป็นครอบครัวสแปร์โรว์แทน ครอบครัวดังกล่าวมีพี่น้องทั้ง 7 ที่มีพลังวิเศษเหมือนกับพวกเขา ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงต้องพยายามเดินทางกลับไปใช้ชีวิตในไทม์ไลน์ของตัวเองให้สำเร็จ ในขณะเดียวกันยังอาจจะต้องรับมือกับวิกฤตของโลกในรูปแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้นแบบไม่รู้ตัวอีกด้วย
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง THE UMBRELLA ACADEMY SS3
THE UMBRELLA ACADEMY SS3 เป็นซีรีส์ที่หาใครติดตามมาตั้งแต่ซีซั่นแรกจะพบเลยว่า เนื้อหามีการเชื่อมโยงและปูทางได้อย่างแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ทุกอย่างมีความสมเหตุสมผลที่จะนำทางสถานการณ์ไปสู่เรื่องที่ต้องการจะเล่าได้อย่างไร้ที่ติ พัฒนาการของตัวละครเองก็น่าสนใจ มีมิติของความเป็นมนุษย์ที่เราจะสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าแต่ละคนนั้นจะมีพฤติกรรมที่ดีขึ้นหรือแย่ลงแล้วแต่สถานการณ์ที่พวกเขาพบเจอ
การใส่เรื่องวันสิ้นโลกหรือแม้แต่องค์กรพิทักษ์กาลเวลา ปริศนาของมหาเศรษฐีที่รู้ว่าพวกเขานั้นมีพลังวิเศษล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความแฟนตาซีและความน่าติดตามของซีรีส์เรื่องนี้ได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังสามารถนำเสนอปมดราม่าของตัวละครที่มีมากมายออกมาได้อย่างไม่ยืดเยื้อ มีสัดส่วนที่กำลังพอดี และมีความสำคัญต่อการดำเนินเรื่องราวอีกด้วย
โดยในซีซั่นนี้จะมีการเปิดทิศทางการเล่าเรื่องใหม่โดยเล่นกับเวลาที่อาจจะใกล้เคียงกับซีซั่น 2 แต่จะนำพาไปสู่จุดจบใหม่ และมันยังพาไปสู่การเล่าเรื่องใหม่ที่แหวกแนวมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย โดยเฉพาะการมีครอบครัวใหม่ถือกำเนิดขึ้นมาหรือแม้แต่การหายตัวไปของครอบครัวอัมเบลล่า มีการใส่ประเด็นความวุ่นวายเข้ามาในห้องของกาลเวลาอย่างเช่นการ GRANDFATHER PARADOX ที่ทำให้เกิดความผิดปกติขึ้น
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจแถมยังเกี่ยวข้องกับตัวนักแสดงโดยตรงเลยก็คือเอลเลน เพจ นักแสดงที่ออกมาประกาศตัวอย่างเป็นทางการว่าเธอนั้นเป็นชายข้ามเพศ และซีรีส์ก็สามารถเสริมประเด็นดังกล่าวเข้ามาได้แบบไม่ยัดเยียดเลยแม้แต่น้อย เป็นการก้าวไปอีกหนึ่งขั้นสำหรับอุตสาหกรรมบันเทิงที่มีการเปิดกว้างเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น
จากองค์ประกอบทั้งหมดทำให้โดยรวมแล้วซีรีส์ซีซั่นนี้กลายเป็นซีซั่นที่ทำออกมาได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา สามารถเปิดทิศทางการเล่าเรื่องใหม่ๆ ที่ทำให้เราไม่สามารถคาดเดาได้ในอนาคต ในขณะที่การเล่าเรื่องในซีซั่นนี้ก็สามารถทำออกมาได้ดีแถมยังเต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นอีกต่างหาก มีการลดปริมาณความดราม่าลงและเน้นเล่าเรื่องราวอย่างตรงจุดมากขึ้นกว่าเดิม น่าเสียดายที่ยังมีบางช่วงที่เล่ายืดเยื้อน่ารำคาญไปบ้าง แต่ก็มีเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
ตัวอย่างซีรีส์ THE UMBRELLA ACADEMY SS3
รีวิวซีรีส์ THE UMBRELLA ACADEMY SS3 บางส่วนจาก trueid
The Umbrella academy คือ original series จากช่อง Netflix เล่าเรื่องของซูเปอร์ฮีโร่หรือกลุ่มคนที่มีพลังพิเศษที่ถูกรับมาเลี้ยงโดยมหาเรษฐีเซอร์เรจินัลด์ ฮาร์กรีฟส์ ที่เลี้ยงลูกเหมือน mascot หรือ iconic เพื่อทำหน้าที่ปกป้องโลก ช่วยเหลือมนุษย์ ต่อสู้กับวายร้าย อาชญากรและต่างๆนาๆ เขาเชื่อว่าสักวันโลกนี้จะแตก และทางเดียวที่เขาจะช่วยโลกได้ก็คือเลี้ยงลูกให้โตมาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งซีรีส์สร้างมาจาก comics หรือการ์ตูนผลงานเขียนของนักเขียนนามปากกา gerard way นักร้องนำวง My Chemical Romance
มาแล้วกับการรอคอยหลังจากฉายไปสองซีซัน จากความเดิมตอนที่แล้วตอนที่กลุ่ม The umbrella academy ช่วยโลกจากการถูกทำลายมาสองครั้ง ครั้งนี้พวกเขาเดินทางกลับมาในเวลาปัจจุบันคือกลับมาในปี 2019 แต่กลับพบกลุ่ม The Sparrow Academy แทนที่มีสมาชิกทั้งหมดเจ็ดคน ถูกรับมาเลี้ยง โดยเศรษฐีนิสัยประหลาด เซอร์เรจินัลด์ ฮาร์กรีฟส์ และพวกเขาก็ถูกขับไล่ออกไปจากคฤหาสถ์ the umbrella academy ที่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น The sparrow academy ไปพักที่โรงแรม oblivian ที่พวกเขาเคยพักตอนเด็กๆแทน
สนุกมาก สนุกมากๆ รู้สึกได้ถึงอาการติดซีรีส์ไม่อยากให้ซีรีส์หรือหนังเรื่องนี้จบเลย สนุกทุกตอนและสนุกจนอยากรู้ตอนต่อไป ตอนจบ จบแบบค้างๆสไตล์หนัง Netflix ที่ปูเนื้อหาไปสู่ซีซันต่อไป สไตล์การดำเนินเรื่องและการเล่าเรื่องแอบเหมือนหนังคน ผี ปีศาจ ภาพหลอนนิดหน่อย จากสไตล์หนังฮีโร่ตอนแรกที่เน้นบู๊ เน้นฉากแอคชัน กระโดด หลบระเบิด ซีซันนี้มีครบเลย เพิ่มเติมคือแอบหลอนและสยองขวัญด้วย มีบางฉากที่ไม่รู้ว่าใส่มาทำไม ทำให้เนื้อเรื่องมันยืดเยื้อ ฉากที่ผู้เขียนชอบที่สุดคือฉากที่ลูเธอร์พบกับสโลนของกลุ่ม the sparrow academy
และมันมีเคมีประกายปิ๊งๆกันระหว่างเด็กเนิร์ดทั้งคู่ ที่ทำตามคำสั่งพ่อแม่ ไม่เคยขัดคำสั่งพ่อแม่ ไม่เคยหนีออกจากบ้าน ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง แล้วมันน่ารักดีอะ สำหรับผู้เขียน และฉากที่เบนยังมีชีวิตอยู่ แต่เหมือนทุกคนจะไม่ชอบเบนเวอร์ชันนี้เท่าไร และฉากเคลาส์ที่พยายามผูกมิตรกับพ่อของเขาที่ไม่เคยดีกับเขาเลยในอีกจักรวาลหนึ่ง แต่กลับถูกลูกๆ The sparrow academy วางยาตามคำแนะนำของโพโกที่ตัดสินใจลาออกจาก the academy เพราะคิดว่าภารกิจที่เซอร์เรจินัลด์ให้เด็กๆไปทำ มันอันตรายเกินไปและเขาคิดว่ากลุ่ม the sparrow academy ยังไม่พร้อม หรือฉากดิเอโก้เจอกับไลลาและต้องช่วยไลลาเลี้ยงลูกที่กำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่น 12 ปี
หรือฉากที่ Five ไปเจอตัวเองในอนาคต และเลือกที่จะทำตามสัญชาตญาณของตัวเองแต่ก็ยังไม่วาย ถูกพ่อของตัวเองวางแผนการ manipulate จนต้องเข้าร่วมแผนการ เอาเป็นว่าสนุกทุกตอน ตัวละครในเรื่องก็มีพัฒนาการด้วย อย่างอัลลิสันที่เคยเป็นคนใจเย็น มีสติที่สุดก็ยังสติหลุดได้ง่ายๆและได้รับผลกระทบจากปฏิทรรศน์คุณตาตามคู่มือของการย้อนเวลาของ The Commission ได้ เอาเป็นว่ากลุ่ม The Umbrella Academy เจอปัญหาอีกครั้งและพวกเขาก็ต้องอยู่ด้วยกันให้ครบเจ็ดคนเพื่อแก้ปัญหาอีกครั้ง
คะแนนรีวิว 10/10 เพราะดูจบแล้วอยากรู้ตอนต่อไป อยากให้ season 4 ปล่อยออกมาไวๆเลยเพราะค้างมากจริงๆค่ะ เอาจริงๆซีซันนี้แอบสงสารอัลลิสันทั้งซีซันเลย แต่ดูจบแล้วลูเธอร์คือ Mr.Lonely boy จริงๆ ตัวละครที่ผู้เขียนชอบที่สุดในซีซันนี้คือวิคเตอร์หรือแวนญาค่ะเพราะกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองดี และกล้ายอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นและยอมรับว่าใครคือคนสำคัญในการทำให้เขาเป็นเขา แค่เป็นตัวเอง