สำหรับผมการดู The Pirates: The Last Royal Treasure มันได้อารมณ์ 2 in 1 ครับ นั่นคือ ครึ่งแรกออกแนวเรื่อยๆ ครั้นพอถึงครึ่งหลังค่อยรู้สึกว่าสนุกพอได้แฮะ
เลยคิดแบบขำๆ ครับ ว่าการดูหนังสักเรื่องแล้วได้อารมณ์ 2 ห้วงในเรื่องเดียวนี่ ก็น่าจะถือเป็นความคุ้มแบบแปลกๆ ได้เหมือนกัน (555)
เนื้อเรื่องเล่าง่ายครับ โจรสลัดก๊กหนึ่งเดินทางตามหาสมบัติล้ำค่ามหาศาลที่ถูกซ่อนไว้ที่ใดที่หนึ่งกลางมหาสมุทร แล้วก็แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่พวกเขาที่ตามหา มันต้องมีคู่แข่งปรากฏตัวมาเพื่อเพิ่มความเข้มข้น
ยอมรับว่าครึ่งแรกรู้สึกเรื่อยๆ ครับ โทนเรื่องออกแนวตลกเบาสมอง ตัวละครมีต๊องบ้างก็พอรับได้ แต่สารภาพจากใจว่ารำคาญอูมูชิ พระเอกของเรื่อง (Kang Ha-Neul) ยังไงก็ไม่รู้ คือผมก็เข้าใจนะว่าบุคลิกพี่แกออกแนวเพี้ยนๆ และกวนโอ๊ย บางมุมดูเหมือนฉลาด แต่บางมุมก็เบาปัญญาซะงั้น บางวาระก็เข้าใจว่าจะกวนประสาทนางเอก แต่ผมเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าตัวเองก็กำลังโดนกวนประสาทด้วยเหมือนกัน
ยังดีครับที่นางเอกอย่างแฮรัง (Han Hyo-joo) สวย คม และดูสมเป็นผู้นำ โดยส่วนตัวนี่ผมถือว่าเธอเป็นแรงสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ผมยอมดูต่อไปเรื่อยๆ
ผมเริ่มจะสนุกกับหนังตั้งแต่ตอนที่เหล่าตัวละครต้องพากันไปผจญภัยใต้ทะเลน่ะครับ มีการดำน้ำตามหาถ้ำ ซึ่งสำหรับฉากลงน้ำแบบนี้เข้าทางผมอยู่แล้ว พอมีฉากทำนองนี้เลยเริ่มจูนติดขึ้นมาบ้าง (แม้ฉากดำน้ำจะให้ความรู้สึกเหมือนหนังแฟนตาซีมากกว่าหนังผจญภัยก็ตาม)
แล้วพอเรื่องเริ่มเข้าครึ่งหลังมันก็เริ่มโอเคขึ้นครับ เมื่อเริ่มมีการผจญภัย เริ่มมีศัตรูตามมาราวี และอดีตของพระเอกก็เริ่มโผล่ ซึ่งอดีตที่ว่านี่ก็ทำให้พระเอกต๊องๆ ดูมีอะไรขึ้นมาพอตัว และอาจเพราะช่วงหลังๆ หนังไม่เน้นที่ความกวนประสาทของพระเอกเท่าครึ่งแรก คาแรคเตอร์ของพี่แกเลยดูโอเคขึ้นมาบ้าง (และว่าตามจริง ถ้าดูจากอดีตของพี่แกแล้ว ผมว่าบทครึ่งแรกพี่แกดูบ๊องเกินเบอร์ไปหน่อยครับ จริงๆ แค่ให้เป็นคนคิดนอกกรอบ ชอบนอกแถว เดินนอกลู่ก็น่าจะพอ ไม่น่าจะเทิ่งบองถึงขั้นนั้น)
ครึ่งหลังนี่หนังค่อยสนุกขึ้นครับ มีฉากต่อสู้ มีอะไรให้ลุ้น มี Effect และ CG อลังการ ได้อารมณ์หนังผจญภัยกลางมหาสมุทรพอตัว (แต่แน่นอนว่าจะเอาไปเทียบกับ Pirates of the Caribbean ก็คงไม่ไหวน่ะนะครับ)
ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าครึ่งแรกหนังใช้เวลาไปกับความเทิ่งบองของตัวละคร (โดยเฉพาะพระเอก) ค่อนข้างมากครับ จนเนื้อเรื่องไม่ค่อยไปไหนสักเท่าไร จนมาครึ่งหลังนี่แหละที่พอการผจญภัยเริ่มมา ศัตรูเริ่มมา หนังก็ค่อยมีอะไรน่าสนใจมากขึ้น แอบคิดเหมือนกันว่าถ้าทำครึ่งแรกให้กระชับขึ้น หรือให้เวลากับบทของตัวร้าย (Kwon Sang-woo) มากขึ้นอีกหน่อย ก็น่าจะไม่เลว
โดยรวมแล้วหนังก็ถือเป็นแนวผจญภัยสไตล์โจรสลัดบวกด้วยตามหาขุมทรัพย์ที่ดูได้แบบเรื่อยๆ ครับ อาจไม่ถึงกับมันส์สุดๆ ลุ้นสุดๆ และตัวละครบางตัวอาจยียวนกวนอารมณ์ไปบ้าง แต่ถ้าทำใจมองข้ามได้ หนังก็ถือว่าตอบโจทย์ด้านความบันเทิงได้ในระดับหนึ่ง
สองดาวครับ
(6/10)