อันที่จริงก็อาจจะรู้สึกแอบเสียดายไม่น้อย เมื่อมาทราบว่าหนังไวกิ้งเดือด ๆ เรื่องนี้ไม่มีโอกาสได้ปล่อยฉายเป็นวงกว้างให้ผู้ชมได้เห็นกันเป็นที่ประจักษ์ สำหรับผลงานล่าสุดของนักสร้างหนังที่มีเอกลักษณ์ในความมืดมัดในโทนของเรื่อง นี่คือ “The Northman” ที่เขาเลือกจับสเกลหนังฟอร์มที่ใหญ่ขึ้นเยอะกว่าเดิม กับเนื้อหาที่ข้นคลั่กแทบจะสำลัก เสียดายจริง ๆ ที่หนังทำได้แค่ฉายเพียงแบบจำกัดโรงในเมืองไทย
The Northman เป็นเรื่องราวของ เจ้าชายแอมเล็ธ ที่โชคชะตาชีวิตแปรผันอย่างกะทันหัน หลังจากที่ เฟียล์เนอร์ ผู้มีศักดิ์เป็นท่านอาแท้ ๆ ของเขาได้ทำการสังหารและลอบปลงพระชมน์พระบิดาต่อหน้าต่อหน้าเขา พร้อมกับแย่งบัลลังก์ขึ้นเรืองอำนาจแทน ทำให้เขาต้องจรลีหนีไปจากแผ่นดินและตั้งปฎิณาณตนว่าจะกลับมาแก้แค้นให้พ่อและช่วยแม่ให้จงได้
หลายปีผ่านมา แอมเล็ธ อยู่ในกลุ่มนักสู้คนเถื่อนเยี่ยงสัตว์ร้าย แต่เมื่อเขาได้พบเจอกับหญิงชาวบ้านที่ชื่อ วัลฮาลลา ที่จุดประกายให้เขาเลือกเดินตามชะตาที่ได้ลิขิตเอาไว้อีกครั้ง ด้วยการเข้ากลุ่มไปเป็นทาสขายแรงงาน และนำพาเขากลับสู่แผ่นดินไวกิ้งอีกครั้ง พร้อมกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจที่เขาหมายมั่นจะเด็ดหัว และชำระล้างแค้นแทนเสด็จพ่อที่เฝ้ารอคอยมาแสนนาน
และนี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับหนุ่มที่ได้ชื่อว่าทำหนังออกมาได้สุดโต่ง “โรเบิร์ต เอ็กเกอรส์” ทั้งการเล่าเรื่องและองค์ประกอบศิลป์ที่ไปได้สุดขั้ว เอาเป็นว่าถ้าคุณเคยดูงานชิ้นก่อน ๆ ของเขามาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น The Lighthouse หรือ The Witch ถือได้ว่าคุณมีภูมิเพียงพอที่จะเข้าไปเสพงานหนังชิ้นนี้ของเขาอยู่พอประมาณ เพราะถือว่าหนังเรื่องนี้น่าจะมีเนื้อหาที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงคนดูได้มากขึ้นเยอะกว่าเดิมทีเดียว
แน่นอนว่าลูกเล่นที่เป็นลายเส้นงานของ โรเบิร์ต เอ็กเกอร์ส ก็คือใช้เทคนิคงานภาพเล่นกับแสงและเงา ที่ในหนังแอคชั่นดราม่าเดือด ๆ สมัยไวกิ้งนี้ยิ่งมีองค์ประกอบที่เข้ามือของเขาเป็นอย่างดี เพราะโทนหนังมืดมาก เรียกได้ว่ามืดทึบชนิดที่ถ้าใครหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูกลางโรงหนังก็เท่ากับเป็นการประจานตัวเองไปเบา ๆ เลยทีเดียว เพราะด้วยยุคสมัยของหนังที่มีจังหวะเล่นกับความมืดควบคู่กับไปอารมณ์ได้ดี งานดีไซน์ตรงนี้ยังเป็นจุดแข็งของเขาอยู่ต่อไป
โรเบิร์ต เอ็กเกอร์ส ยังได้ร่วมเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วย บอกตามตรงว่าในส่วนของบทหนังอาจจะไม่มีอะไรที่โดดเด่นอะไร เพราะโครงเรื่องกว้าง ๆ ก็รู้สึกใกล้ตัวเหมือนกับพล็อตละครไทยที่เคยดูตั้งแต่สมัยเด็กและรีเมคมาก็หลายครั้งอยู่ ก็แค่เรื่องกลับมาแก้แค้นให้กับพ่อแนวเดิม ๆ แต่พอได้จังหวะการเล่าเรื่องที่ชวนติดตามกับการดีไซน์บรรยากาศของหนัง รวมทั้งองค์ประกอบศิลป์ต่าง ๆ ที่สอดแทรกเข้าไว้ในหนัง ทำให้บทหนังเรื่องนี้ถูกยกระดับขึ้นมาได้อีกเป็นกอง
ในเมื่องานกำกับ..สอบผ่าน งานโปรดักชั่นก็ให้ผ่าน มาถึงอีกไฮไลต์ที่ดีงามไม่แพ้กันก็คือพาร์ทการแสดง ถือว่าเป็นการจุดระเบิดให้กับนักแสดงหลาย ๆ คนเลยทีเดียว โดยเฉพาะ อเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ด ที่เข้าถึงบทบาทอย่างน่าเชื่อถือ เห็นได้ถึงความทุ่มเทและซึมลึกเข้าไปในเนื้อแท้ของตัวละครนี้เป็นอย่างดี เขาสามารถแบกรับหนังความยาว 2 ชั่วโมงเศษ ๆ เรื่องนี้ได้อย่างสบาย ทั้งการฟิตซ้อมและหุ่นเท่ ๆ เหมือนเขาเกิดมาเพื่อบทบาทนี้โดยเฉพาะ
ในขณะที่ “นิโคล คิดแมน” ก็มาระเบิดทางการแสดงในหนังเรื่องนี้ไม่น้อย เรียกได้ว่าบทของเธออาจจะเห็นว่าไม่ค่อยสำคัญอะไร แต่ก็จัดได้ว่าเป็นตัวจี๊ดที่สุดของเรื่องเลยก็ว่าได้ การรับทเป็นราชินีของเธอทำออกมาได้น่าทึ่ง ถือว่าเป็นตัวตัวละครที่มีมิติซับซ้อนที่สุดในหนังเลยก็ว่าได้ เพราะคนดูแทบจะเดาไม่ออกเลยว่า ความคิดของตัวละครนี้กับสิ่งที่สื่อสารออกมานั้น เป็นเรื่องจริงหรือแค่คำลวง ซึ่งการแสดงของนิโคลคือมืออาชีพจริง ๆ
The Northman ยังมีนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ที่ใส่เข้ามาไม่ยั้งและเข้าถึงอินเนอร์อารมณ์ตัวละครได้ทุกบท ไม่ว่าจะเป็น “อันยา เทเลอร์-จอย”, “เคลส แบงก์”, “อีธาน ฮอว์ก”, “วิลเลม เดโฟ” และที่เซอร์ไพรส์เบา ๆ ซึ่งเกือบจะจำไม่ได้แล้วก็คือ “บียอร์ก” ที่โผล่มาแสดงรับเชิญแค่ซีนเดียว…แต่น่าจดจำไม่เบา
แต่ถึงแม้ว่า The Northman จะมีการเล่าเรื่องที่เข้มข้นและถ่ายทอดออกมาได้ดิบเถื่อนสะใจตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็ต้องยอมรับว่าหนังยังมีบางช่วงที่ค่อนข้างเนิบช้า พลอยทำให้รู้สึกกว่าความยาวมากกว่า 2 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้ค่อนข้างจะนานไปสักหน่อย แต่กระนั้นก็ไม่ใช่จุดหลักที่ทำให้หนังต้องด่างพล้อย เพราะยังมีองค์ประกอบดีงามอื่น ๆ มาช่วงแบ่งเบาความบกพร่องของหนังได้ดีอยู่ในหลายจุด รวมทั้งงานประพันธ์เพลงของ “โรบิน คาโรแลน” กับ “เวสเซล” ที่ต่างเป็นคอมโพสเซอร์รุ่นใหม่ที่ฝีมือไม่ธรรมดา เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ช่วยเร้าอารมณ์ของหนังได้ดี
โดยภาพรวมแล้ว The Northman ก็จัดได้ว่าเป็นแอคชั่นดีเดือดที่ค่อนข้างแสดงออกถึงความแข็งกร้าวตามเนื้อหาของหนัง แม้ว่าจะมีพล็อตง่าย ๆ กับเกมการกลับไปแก้แค้นของตัวละครเหมือนกับละครทีวีในไทย แต่วิธีการนำเสนอและเล่าเรื่องของหนัง ก็ช่วยยกระดับทำให้ไหลลื่นและน่าสนใจไปตลอดทั้งเรื่อง ผนวกกับการแสดงของทีมแคสติ้งที่ดียกชุด และวิสัยทัศน์ของผู้กำกับที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการสร้างสรรค์งานของเขาเอง นี่คือเป็นหนังยุคไวกิ้งเดือด ๆ เรื่องหนึ่ง ที่อยากจะแนะนำว่า…ห้ามพลาดเชียว
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง The Northman
- ประเภท: แอคชั่น / ดราม่า
- ผู้กำกับ: โรเบิร์ต เอ็กเกอร์ส
- นำแสดงโดย: อเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ด, นิโคล คิดแมน, อันยา เทเลอร์-จอย
- ความยาว: 137 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 30 มิถุนายน 2022 (เฉพาะที่โรงภาพยนตร์ House สามย่าน)
Movie.TrueID METRIC: The Northman
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)