สาธุคุณ เฟรด สุลต่าน (Samuel L. Jackson) โปรโมเตอร์มวยชื่อดัง ที่มีนักมวยในสังกัดอย่าง เจมส์ โรเปอร์ (Damon Wayons) ผู้ไม่เคยแพ้ใคร แต่ก็เพราะไม่เคยพ่ายนี่แหละครับ คนดูเลยหร่อยหรอ ก็ดูๆ ไปมันก็ไม่สนุกอ้ะ ชกยังไงก็ไม่พลิกโผ
งานนี้สุลต่านเลยเกิดปิ๊งไอเดีย ควานหานักชกผิวขาวไร้อันดับขึ้นมาสักราย ประมาณว่าล้อ Rocky กันเลยนะนั่น และนักชกที่ว่าคือ เทอร์รี่ คอนคลิน (Peter Berg) มาชกเพื่อปั้นให้ดัง และเหนืออื่นใดคือหาเงินเข้ากระเป๋าคนจัดนั่นเอง แต่งานนี้แผนร้อยเล่ห์ของสุลต่านจะราบรื่นหรือไม่หนอ
ดูก็พอเดาได้เลยครับว่าจับมาล้อ Rocky อยู่เหมือนกัน เพราะนักชกชื่อดังในเรื่องก็เป็นคนผิวดำครับ ที่เก่งเกินไปจนต้องหานักชกอันดับบ๊วยๆ มา แต่หนังก็ไม่ได้ทำขึ้นมาเป็นแนวล้อเลียนหรอกนะครับ เรื่องราวมันจริงจังพอสมควร เพียงแค่สอดแทรกมุขตลกในวงการมวยเข้าไป ซึ่งถ้าท่านพอจะคุ้นกับเรื่องหมัดมวยบ้างก็น่าจะสนุกพอตัว แต่ผมเฉยๆ นะ อาจเพราะไม่ใคร่จะเป็นนักชมมวยด้วยประการหนึ่ง และความฮาก็ไม่ได้มากมายครับ ยิ่งไปกว่านั้นคือความน่าติดตามเรื่องมันไม่ค่อยเท่าไหร่
ตัวละครที่เด่นจริงๆ ไม่ใช่นักมวยครับ เป็นนายสุลต่านนี่แหละ ซึ่ง Jackson ก็มีลูกบ้าฮาหน้าตายเยอะแยะไปหมด แต่ก็ช่วยหนังทั้งเรื่องไว้ไม่อยู่ครับ เพราะบทมันจับฉ่าย เหมือนจะจับเรื่องการใช้เล่ห์ของสุลต่าน แต่ก็ไม่ใช่ หรือจะจับเอาเรื่องการไต่อันดับของนักมวยอย่างเทอร์รี่ก็ไม่ใช่อีก สรุปดูจบออกมาทิศทางหนังสะเปะสะปะเหลือเกิน ตัวละครในเรื่องก็เหมือนจะมีปมชีวิต แต่เอาเข้าจริงกลับไร้มิติสุดๆ ทั้งๆ ที่นักแสดงก็คัดมาดีนะครับ ไม่ว่าจะ Jeff Goldblum ในบทมิทเชลล์ เคน นักข่าวที่คอยตามจิกเฟรดตั้งแต่ต้นจนจบ หรือจะ Corbin Bernsen, Jon Lovitz, Cheech Marin หรือ John Rhys-Davies ที่ตามปกติพวกนี้จะสามารถขโมยซีนได้นะครับ แต่มาเรื่องนี้ตัวประกอบหมดสิ้น นอกจากนี้ยังมี Jamie Foxx ร่วมแสดงด้วย ตอนยังไม่ดังน่ะนะครับ แต่ก็ไม่เด่นอีกนั่นแหละ
ผิดคาดครับ มุขไม่ใคร่จะ Work นัก ดูแล้วนิ่งตลอด จะว่าผิดหวังก็พอได้ล่ะครับ เพราะมันนิ่งสนิทจริงๆ ผมเลยไม่ขอพูดพร่ำให้ยาวยืดนะครับ ว่าง่ายๆ เลยคือนี่ไม่ใช่งานที่น่าสนใจเท่าไหร่ ดูไปก็งั้นๆ
แต่สาระเล็กน้อยติดปลายนวมของหนังก็พอมีครับ นั่นคือการสร้างเรตติ้งหรือจัดฉาก ไม่ว่าจะวงการสนามมวยหรือสนามไหนๆ (โดยเฉพาะสนามการเมือง) ล้วนเกิดขึ้นได้เสมอ เพื่อให้ตนเองบรรลุวัตถุประสงค์ หรือเพื่อเงินซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญน่ะนะครับ มันก็อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละท่าว่าจะเชื่อหรือไม่ นี่ไม่ได้บอกให้ระแวงนะครับ แค่ทำตัวสบายๆ ไม่ต้องไปคิดมากกับมันก็พอ เพราะถ้าเราไม่อะไรกับมันมาก แค่ดูเพื่อความบันเทิงหรือสนุกๆ ไม่เอาตัวเองไปผูกอารมณ์กับพวกมันก็พอแล้วล่ะ
Reginald Hudlin ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ก็เรื่อยๆ ไม่น่าประทับใจ จากที่ผมติดตามผลงานของพี่แกมาส่วนมากก็ไม่ประทับใจตลอดแหละครับ เฉยๆ น่ะ
ไม่ถึงสองดาวครับ
(5/10)
