The Conjuring: The Devil Made Me Do It

The Conjuring: The Devil Made Me Do It

กลับมาสานต่อความหลอนและเฮี้ยนกับเคสใหม่ที่รอคอย ตำนานของคู่มือปราบสัมภเวสีแห่งยุค เอ็ด กับ ลอร์เรน วอร์เรน ได้หวนคืนจออีกครั้งกับอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าจดจำในการช่วยเหลือผู้คนจากเงื้อมมือปีศาจของพวกเขาใน “The Conjuring: The Devil Made Me Do It” ที่ครั้งนี้ได้ยกระดับขึ้นไปอีกระดับ เพราะมีเดิมพันเป็นประเด็นเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมและข้อกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง

The Conjuring: The Devil Made Me Do It ได้หยิบเอาเรื่องราวอันน่าสลดใจในความหวาดกลัว, การฆาตกรรม และความชั่วร้าย(ปีศาจ)ที่พวกเขายังไม่เคยรู้จัก ที่จะสร้างประสบการณ์หวาดผวาให้กับทั้งนี้ ในการสืบสวนเรื่องราวเหนือธรรมชาติ ที่เป็นหนึ่งในกรณีการเจอผีที่น่าตื่นเต้นมากที่สุดของตระกูล เริ่มต้นจากการต่อสู้เพื่อวิญญาณของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แต่หลังจากนั้นได้ดำเนินไปสู่ปมเหนือความคาดหมายที่พาพวกเขาไปเจอกับสิ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิตการไล่ผี กับเหตุการณ์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์อเมริกาที่ผู้ต้องสงสัยในการฆาตกรรมอ้างว่าโดนปีศาจครอบงำในฐานะผู้ปกป้อง

หนังอ้างอ้างมาจากเหตุการณ์เช่นเดิมและเป็นคดีที่โด่งดังจากในปี 1981 ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ตระกูลหนัง The Conjuring เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชมเฝ้าติดตามอยู่ทุนเดิม แต่กลับมาในคราวนี้ “เจมส์ วาน” ไม่ได้กลับมานั่งเก้าอี้เหมือนเก่า แต่ส่งต่อให้กับ “ไมเคิล ชาเวส” ผู้กำกับที่มีมือรสความเฮี้ยนอยู่ในตัว เพราะเขาเคยทำให้คนดูหวาดกลัวกับผีสาวลาตินในตำนานจาก The Curse of La Llorona มาแล้ว

แน่นอนว่าการเปลี่ยนผู้กำกับในภาคนี้ สัมผัสได้ถึงโทนและบรรยากาศเดิมๆ ของหนังที่ต่างไปจาก 2 ภาคแรกอยู่พอสมควร อย่างน้อยก็น่าจะเป็นกลิ่นอายความหลอนจัดๆ ที่เคยถูกใส่เอาไว้กระตุ้นและกระตุกใจผู้ชม แต่ในภาคนี้กลายเป็นสิ่งที่ถูกลดทอนหายไปอย่างเห็นได้ชัด พลอยทำให้เสน่ห์ความสะพรึงกลัวของตระกูล The Conjuring ลดหลั่งความสยองลงไปพอสมควร แต่กระนั้นก็เข้าใจได้ เพราะด้วยเนื้อหาของเรื่องที่ค่อนข้างขึงขังมากเป็นพิเศษ การต้องอธิบายเรื่องเหนือธรรมชาติกับข้อเท็จจริงข้อกฎหมายเป็นสิ่งโจทย์ที่ท้าทายไม่น้อยเช่นกัน

แต่อย่างไรก็ตาม The Conjuring 3 ในภาคนี้ก็ยังคงเส้นคงวาความเป็นหนังไล่ผีที่น่าสนใจและชวนให้ผู้ชมติดตามไปได้อยู่ดี สิ่งที่เข้ามาเสริมในภาคนี้ก็คงจะเป็นแนวทางการสืบสวนสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย ไม่ว่าจะหลักฐานต่างๆ และข้อเท็จจริง ที่ทั้ง เอ็ด กับ ลอร์เรน ได้เข้าไปร่วมสืบค้นหาต้นตอในอาถรรพ์ครั้งนี้ แม้ว่าการสืบสวนที่หนังใส่เข้ามาจะค่อนข้างผิวเผินอยู่สักหน่อย เพราะนำมาเป็นเพียงองค์ประกอบรองเท่านั้น องค์ประกอบหลักยังคงเสิร์ฟความหลอนและเฮี้ยนของปีศาจที่น่าค้นหาเอาไว้ดีอยู่

การแสดงของ “แพทริค วิลสัน” กับ “เวร่า ฟาร์มิก้า” พวกเขากลายเป็นมืออาชีพที่สนุกกับการรับบทบาทนี้ไปเสียแล้ว เพราะผ่านการแสดงในหนังตระกลูมาหลายเรื่อง ทำให้ความเป็นมืออาชีพของเขาแทรกซึมเข้าไปในบทบาทอย่างเด่นชัด ไม่ว่าจะสีหน้าและท่าทางต่างๆ เผยให้เห็นถึงความเป็นนักแสดงมืออาชีพ แม้ว่าบทของพวกเขาจะไม่ค่อยแสดงมิติความหลากหลายออกมาเท่าไหร่ และอาจจะดูซ้ำซากจำเจกับบทเดิมๆ อยู่บ้าง แต่พวกเขาก็คือไฮไลต์หลักและส่วนสำคัญที่สุดของหนังเรื่องนี้จริงๆ

ในขณะที่การแสดงของตัวละครอื่นๆ อาจจะถูกออร่าของทั้ง 2 คนข้างต้นกลบไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นส่วนเสริมที่ค่อนข้างน่าพอใจ โดยเฉพาะ “รูอิรี่ โอคอนเนอร์” ที่ถือว่าให้การแสดงออกมาได้ดีเกินกว่าที่คิดเอาไว้ ทั้งอินเนอร์และการถ่ายทอดอารมณ์ตัวละคร ถึงแม้บทนี้จะส่งได้ดีอยู่แล้ว แต่เขาก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้มีมิติและชั้นเชิง สื่อสารให้คนดูสัมผัสได้ว่ากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่จริงๆ เขาจึงน่าจะเป็นนักแสดงหนุ่มดาวรุ่งที่น่าจับตามองอีกคน

โดยภาพรวมแล้ว The Conjuring: The Devil Made Me Do It ก็ยังถือว่าเป็นหนังที่ดูได้สนุกตามเคย เพราะด้วยองค์ประกอบและสูตรสำเร็จเดิมๆ ของหนังที่ชวนดูเพลิน แม้ว่าคนดูจะพอจับทางได้ เดาผลลัพธ์ออกบ้าง แต่เคสความลี้ลับต่างๆ ที่นำมาใช้เล่าเรื่องนั้นก็มีความน่าสนใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพียงแค่นำมาขยี้เรื่องราวออกเป็นฉากๆ สร้างจังหวะหลอนๆ ให้น่าสนใจเท่านี้ก็ตอบโจทย์ผู้ชมเป็นอย่างดี แต่ต้องยอมรับว่า The Conjuring ภาคนี้ได้ลดทอนความแปลกใหม่และความหลอนสะพรึงลงไปจากภาคก่อนๆ อาจจะไม่ได้ตุ้งแช่และมีกิมมิคที่น่าจดจำเท่า แต่ก็ยังคงความสนุกไว้ได้เหมือนเดิม…

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง The Conjuring: The Devil Made Me Do It

• ประเภท: สยองขวัญ / ลึกลับ
• ผู้กำกับ: ไมเคิล ชาเวส
• นำแสดงโดย: แพทริค วิลสัน, เวร่า ฟาร์มิก้า
• ความยาว: 111 นาที
• กำหนดฉายในไทย: 27 สิงหาคม 2021 (โรงภาพยนตร์ที่เปิดให้บริการ และ HBO Go) | 1 ตุลาคม 2021 (TrueID)

Movie.TrueID METRIC: The Conjuring: The Devil Made Me Do It

• ภาพรวม
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
• การเล่าเรื่อง
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10)
• การแสดง
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
• บทภาพยนตร์
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10)

————————————-