Spiral เกม/ลอกอำมหิต
การกลับมาอีกครั้งของสไตล์ความเหี้ยมโหดของฆาตกรเจ้าเล่ห์ที่มักจะชวนให้เล่นเกมอยู่บ่อยๆ กับหนังภาคใหม่ที่สานต่อและอยู่ในจักรวาลเดียวกันใน “Spiral: From the Book of Saw” (เกม/ลอกอำมหิต) ที่มาในคราวนี้ปรับโหมดมาในรูปแบบหนังแนวสืบสวนสอบสวนที่ดูขึงขัง แต่ยังคงความสยดสยองในภาพและเนื้อหาอันเป็นเอกลักษณ์ของจักรวาลหนังเรื่องนี้เอาไว้ แม้ว่าจะเข้มข้นและจริงจังมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีช่องโหว่รายทางอยู่เต็มไปหมด
Spiral เกม/ลอกอำมหิต เล่าเรื่องราวของ นักสืบเอเซเกล ซีค แบงก์ส ที่มักจะถูกเปรียบเทียบฝีมือกับ อดีตตำรวจฝีมือระดับฉมัง มาร์คัส แบงก์ส ผู้เป็นพ่อ ด้วยความที่ต้องการพิสูจน์ตัวเอง เขาจึงต้องไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดโหด ร่วมกับคู่หูหน้าใหม่อย่าง นักสืบวิลเลียม เชงก์ แต่เรื่องราวกลับเลวร้ายขึ้น เมื่อพบว่าเหยื่อของคดีฆาตกรรมทั้งหมดเป็นตำรวจ และรูปแบบการฆ่าก็สยดสยองเกินมนุษย์ ด้วยการเลียนแบบฆาตกรในตำนานอย่าง จิ๊กซอว์ และยิ่งพวกเขาถลำลึกไปกับคดีมากเท่าไหร่ ก็กลับพบกว่าตัวเองกำลังเดินสู่กับดักแสนวิปริตอย่างเลี่ยงไม่ได้
ก็เหมือนเป็นการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด เพียงแต่ยังคงได้ “ดาร์เรน ลินน์ บัสแมน” ผู้กำกับที่เคยคลุกคลีกับหนังตระกูล Saw ช่วงภาคแรกๆ กลับมารับช่วงต่อในหนังเรื่องนี้ ประกอบกับเขาเองก็มีประสบการณ์และช่ำชองกับการสร้างหนังแนวสยองขวัญ-ระทึกขวัญมาเพียบ ทำให้สามารถไว้วางใจในการวางโทนหนังและการออกแบบสไตล์ของหนังที่ยังความเป็น ‘ซอว์’ เอาไว้ได้ในองค์ประกอบของตลอดทั้งเรื่อง
แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมก็คงจะเป็นโครงสร้างและรูปแบบของหนัง Spiral มีความจริงจังและขึงขังมากยิ่งขึ้น ด้วยการโฟกัสไปที่ตัวละครในวงการตำรวจเป็นหลัก หนังมีโทนความเป็นหนังแนวสืบสวนสอบสวนที่ไล่ระดับความน่าสนใจจากคดีสู่คดีได้อย่างชวนติดตาม ผสมผสานเข้ากับฉากแหยงๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของหนังชุดนี้เข้า ทำให้โดยรวมก็ถือว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างสอบผ่านในส่วนของตรงนี้
แต่กระนั้นก็กลับพบว่า Spiral ยังเป็นหนังที่พาผู้ชมไปได้ไม่สุดสักทางหนึ่ง แม้ว่าอยากจะมาล้างไพ่และเปิดแฟรนไชส์ใหม่อีกรอบ ด้วยทิศทางใหม่ๆ แต่หนังก็ยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะไปถึงจุดนั้น ตลอดรายทางของหนังได้ใส่องค์ประกอบอื่นๆ เข้ามาเพียงแค่ดาดดื่น ไม่ได้ใส่รายละเอียดและเหตุผลเข้าไปมากเท่าไหร่ พยายามสร้างความซับซ้อนให้กับโครงเรื่อง แต่ก็ยังใส่เข้ามาได้ยังกลมกล่อมเท่าไหร่นัก
ขณะที่องค์ประกอบของนักแสดง “คริส ร็อก” ก็ถือว่าค่อนข้างตีโจทย์ได้แตกกับบทนำของเรื่อง เพียงแต่ว่ามิติของคาแรกเตอร์นั้นถ่ายทอดออกมาได้เบาบางไปสักหน่อย ลักษณะคาแรกเตอร์ชัดเจนแต่อินเนอร์ต่างๆ ยังไม่ค่อยทำให้เชื่อได้ เช่นเดียวกับ “ซามูเอล แอล. แจ็กสัน” ที่ถูกใส่เข้ามาเหมือนเป็นเพียงนักแสดงตัวประกอบ แม้จะเป็นหนึ่งในตัวละครที่ขับเคลื่อนเรื่องราวหลัก แต่ใส่เข้ามาในหนังได้อย่างเบาบาง
รวมทั้งการแสดงของนักแสดงสมทบคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น “แม็กซ์ มิงเกลลา”, “ริชาร์ด เซ็ปเพียร์ริ” หรือ “มาริซอล นิโคลส์” ที่พวกเขาทำออกมาได้ตามมาตรฐาน เพียงแต่องค์ประกอบของหนังที่ยังดูไม่มีชั้นเชิงสักเท่าไหร่ ทำให้ทุกๆ อย่างออกเพียงแค่สถานะ ‘โอเคดี’ เท่านั้น
Spiral ก็ถือว่าเป็นหนังมีจังหวะและลำดับการเล่าเรื่องที่ชวนติดตาม งานออกแบบฉากสยองๆ ก็น่าจะสร้างความสะใจให้กับแฟนหนังชุดนี้ได้ดี แต่อาจจะยังไม่ถึงใจถึงอารมณ์เป็นที่สุด เพราะจุดด้อยของหนังเรื่องนี้ก็ยังเป็นในส่วนของบทหนังที่เหมือนจะคมคายแต่ก็ยังทำได้ไม่ถึง จึงกลายออกมาเป็นหนังสืบสวนตามหาฆาตกรที่กระฉับกระเฉงดี แต่ก็ยังไม่ใช่เรื่องที่น่าจดจำสักเท่าไหร่
อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมแล้ว Spiral ก็ถือว่าเป็นการกลับมาสานต่อตำนานของจิ๊กซอว์อีกครั้ง ที่แน่นอนว่าหนังสามารถต่อยอดจักรวาลนี้ออกไปได้อีก เพียงแต่ลูกเล่นเดิมๆ อาจจะใช่ไม่ได้ต่ออีกสักเท่าไหร่แล้ว ประเด็นของหนังค่อนข้างชัดเจนและเข้มข้น ผู้ชมอาจจะอินได้ง่ายๆ เพราะนี่คือการแตะต้องเกี่ยวกับความพยายามปฏิรูปวงการตำรวจ ที่มีเส้นบางๆ ขั้นกลางอยู่ระหว่างความถูกต้องกับความสะใจ
แม้ว่า Spiral จะยังเป็นการกลับมาที่ยังไม่สุดๆ แต่ก็มอบความสนุกบันเทิงให้กับผู้ชมได้ตรงตามโจทย์ได้ในระดับหนึ่ง ฉากสยองๆ ต้องร้องยี้และเสียวสันหลังยังคงจับใส่มาอยู่ในหนังเรื่องนี้ตามเอกลักษณ์อันโดดเด่น ทำให้เห็นได้ชัดว่า หนังตระกูล Saw ยังคงไม่ตายหายไปจากวงการหนังฮอลลิวูดได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Spiral เกม/ลอกอำมหิต
- ประเภท: สยองขวัญ / อาชญากรรม
- ผู้กำกับ: ดาร์เรน ลินน์ บัสแมน
- นำแสดงโดย: คริส ร็อก, ซามูเอล แอล. แจ็กสัน, แม็กซ์ มิงเกลลา
- ความยาว: 93 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 18 พฤศจิกายน 2021 (ในโรงภาพยนตร์)
Movie.TrueID METRIC: Spiral เกม/ลอกอำมหิต
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10)
————————————-