Shadow in the Cloud – ประจัญบานอสูรเวหา
— 5.8/10 —
เฟมินิสต์พิชิตอสูร
Shadow in the Cloud บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ Maude Garrett กับภารกิจขนส่งพัสดุุลับสุดยอด ที่ต้องมาขึ้นเครื่องบิน B-17 กับเหล่าผู้ชายทั้งหลายที่ดูถูกเธออยู่ตลอดเวลา แต่การเดินทางในครั้งนี้พวกเขาต้องเผชิญกับทั้งเครื่องบินข้าศึกและสัตว์ประหลาดที่หมายคร่าชีวิตพวกเขา
เราไม่เคยได้ข่าวหรืออะไรจากหนังเรื่องนี้เลยจนเห็นตัวอย่างโผล่มานั่นแหละ ความน่าสนใจอย่างแรกเลยคือพล็อต การติดอยู่บนเครื่องบินกับสัตว์ประหลาดพร้อมยังต้องรับมือกับข้าศึกเป็นอะไรที่โคตรน่าสนใจ และความน่าสนใจอย่างที่สองคือน้อง Chloë Grace Moretz
แต่หนังผิดคาดไปเยอะ ตลอดกว่าครึ่งเรื่องแรกเราจะได้เห็นแต่หน้าน้อง Chloë Grace พร้อมการถากถาง ดูถูก เถียงกันไปมาระหว่างตัวน้องและเหล่านักบินชายทั้งหลาย บวกกับสะท้อนความเป็นเฟมินิสต์ต่าง ๆ นานา รวมถึงการชี้ให้เห็นว่านักบินหญิงเก่งๆ ก็มีนะเว้ย ผู้หญิงก็ทำแบบนี้ได้ แถมตอนจบช่วงเครดิตยังมีเน้นย้ำเรื่องนี้ด้วยการใส่ฟุตเหล่านักบินหญิงมาให้ดูด้วย ซึ่งโดยส่วนตัวก็ไม่ได้ติดเรื่องนี้หรอก ติดแค่ว่ามันใช้เวลาส่วนนี้ไปกว่าครึ่งเรื่องเลยทีเดียว เรายังไม่ทันจำชื่อหรือใบหน้าตัวละครอื่นๆ ครบเลย จำได้แค่บางตัว และกว่าครึ่งเรื่องนั้นเราก็แทบจะไม่เห็นหน้าพวกเขาเลยด้วยซ้ำ
อย่างที่ได้กล่าวไปว่ามีการปะทะกับข้าศึกเครื่องบินรบและสัตว์ประหลาดที่เอาเข้าจริงๆ เราก็ไม่รู้ที่มาที่ไปของไอ้เจ้าตัวนี้หรอกว่ามันมาจากไหน เข้าเรื่องเราก็รู้แล้วว่ามันมีไอ้ตัวนี้ และหากใครคาดหวังว่าจะเจอทัพสัตว์ประหลาดเป็น 100 หรือตัวแม่ตัวยักษ์มาขย่มเครื่องบิน ไม่ต้องคาดหวัง เพราะมันมีตัวเดียวขนาดเท่าคนนั่นแหละ และไอ้ความโหดของสัตว์ประหลาดในเรื่องนี้ก็ไม่ค่อยโหด ไม่ค่อยน่ากลัว ไม่ค่อยน่าเกรงขาม การปรากฏตัวแต่ละทีก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกอันตรายสักเท่าไหร่ ฉากแอ็คชันภาพรวมก็ธรรมดาไม่ได้มีอะไรโดดเด่น
ส่วนประเด็นเรื่อง “พัสดุลับสุดยอด” ส่วนตัวมองว่าไม่จำเป็นก็ได้ มันไม่ได้ส่งผลกับเนื้อเรื่องอะไรมากมายขนาดนั้น
อย่างเดียวที่ถูกอกถูกใจ (หรืออาจจะเพราะชอบน้องเป็นทุนเดิม) คือการแสดงของ Chloë Grace ที่ยังคงทำได้ดีมีจริตที่น่ามอง และ…ซีนตอนน้องซัดกับสัตว์ประหลาดไม่กี่สิบวิช่วงท้ายก็สะใจดีเท่านั้นล่ะ
เอาจริง ๆ ในตัวอย่างบอกแทบจะทั้งหมดของเรื่องละ แค่เข้าไปดูว่ามันจะสนุกหรือเปล่า จะบอกว่าสนุกก็ไม่ใช่ ไม่สนุกก็ไม่เชิง เพลินมั้ย ก็ไม่ น่าเบื่อมั้ย ก็มี แย่ไม่ก็ไม่อีกนั่นแหละ เอาเป็นว่าอยู่ในระดับเฉยๆ เสียมากกว่า ดูก็ดีไม่ดูก็ได้