รีวิว ซีรีส์ RESIDENT EVIL NETFLIX
รีวิว ซีรีส์ RESIDENT EVIL Netflix เป็นเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วยความสนุกสนานของรูปแบบเกมเพลย์รวมไปถึงเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความเข้มข้น
RESIDENT EVIL ซีรีส์จากเกมชื่อดังที่ดราม่าตั้งแต่แคสตัวละครออกฉายเป็นที่เรียบร้อยแล้วและความสลับซับซ้อนจนสามารถต่อยอดไปได้เรื่อยๆ อย่างไร้ขีดจํากัด มันจึงกลายมาเป็นวัตถุดิบชั้นดีในการผลิตสื่อบันเทิงในรูปแบบอื่นไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ อนิเมชั่น หรือแม้แต่ซีรีส์ก็ตาม แต่ความน่าสนใจก็คือการนำเอาเกมเรื่องนี้มาสร้างเป็นรูปแบบคนแสดงกลับไม่ประสบความสำเร็จหรือได้รับกระแสตอบรับในแง่บวกจากบรรดาคนเล่นเกมเลยแม้แต่ครั้งเดียว แปลว่าภาพยนตร์เรื่อง RESIDENT EVIL ฉบับตำนานของมิลล่า โจโววิชจะประสบความสำเร็จแต่ก็เป็นเฉพาะในกลุ่มคนดูที่ไม่ได้เล่นเกมเท่านั้น
ดังนั้นจึงทำให้ซีรีส์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้อย่าง RESIDENT EVIL ที่ใช้ชื่อเดียวกับเกมแบบไม่มีผิดเพี้ยนจะมีดราม่ามาตั้งแต่การแคสตัวละคร เนื่องจากมีการนำเอาเรื่องราวภายในเกมมาดัดแปลงเป็นฉบับคนแสดงหลายคนจึงคาดหวังว่าซีรีส์จะมีความเคารพเกมต้นฉบับมากกว่านี้ แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้นแต่อย่างใด โดยเฉพาะตัวร้ายตลอดกาลอย่างอัลเบิร์ต เวสเกอร์ที่เดิมทีนั้นเป็นชายหนุ่มผิวขาวท่าทางน่าเกรงขามก็เปลี่ยนไปเป็นคนผิวดำ กลายเป็นดราม่าร้อนแรงไม่แพ้กับนางเงือกผิวสีของทางค่ายดิสนีย์เลยแม้แต่น้อย
ประเด็นเรื่องการบิดเบือนอัตลักษณ์ของตัวละครก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แฟนเกมรู้สึกไม่พอใจแต่การพยายามเล่าเรื่องราวบิดเบือนจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงภายในเกมยิ่งทำให้คนที่เล่นเกมมาก่อนหรือคนที่รักเกมนี้มากๆ ต่างขมวดคิ้วไปตามๆ กัน เพราะหากวิเคราะห์ให้ดีเกมนี้ประสบความสำเร็จก็ด้วยเรื่องราวที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้วจึงมีการนำเอามาสร้างเป็นซีรีส์ แต่ซีรีส์ดันเอาเรื่องราวที่ประสบความสำเร็จในเกมมาดัดแปลงเพื่อเข้าในแบบของตัวเองเสียอย่างนั้น ถึงอย่างไรก็ตามเราไม่สามารถสรุปได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้มีความน่าสนใจหรือความสนุกสนานหรือไม่ ดังนั้นเราจึงจะพาทุกคนไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน
หนังซอมบี้ netflix 2022
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง RESIDENT EVIL
RESIDENT EVIL เป็นซีรีส์ที่จะพาเราเดินทางไปยังโลกอนาคตอันใกล้ในปี 2036 นี้ โลกของเราล่มสลายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซอมบี้ในเมืองนิวแรคคูนซิตี้เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา โดยซีรีส์จะแบ่งการเล่าเรื่องราวเป็น 2 ทำลายประกอบไปด้วยอนาคตและปัจจุบันพร้อมกันผ่านตัวละครหลักอย่างฝาแฝดอุ้มบุญของอัลเบิร์ตเวสเกอร์ตัวละครร้ายที่อยู่เบื้องหลังเกม RESIDENT EVIL มาตั้งแต่ภาค 1 จนถึงภาค 5 อย่างเจดและบิลลี่
ที่มาที่ไปของอัลเบิร์ต เวสเกอร์ที่เราไม่คุ้นตาเป็นอย่างไรต้องไปติดตามกันในซีรีส์เนื่องจากหากเปิดเผยแล้วรับรองว่าเสียอรรถรสอย่างแน่นอน แต่รูปแบบใหม่ของเขาก็เป็นการเปิดเรื่องราวใหม่ๆ เช่นเดียวกัน เขากลายมาเป็นพ่อลูก 2 ตั้งแต่วัยรุ่นและต้องแบกรับปัญหาของลูกที่เต็มไปด้วยความดื้อรั้น เราจึงจะได้เห็นบทบาทความเป็นพ่อที่รักลูกสาวอย่างแท้จริงและผลประโยชน์ที่เขาได้รับจากลูกสาวทั้งสองคนอีกด้วย
ทั้ง 3 คนต้องเผชิญกับเหตุการณ์เลวร้ายอย่างการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซอมบี้และต้องหาวิธีการเอาชีวิตรอดท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายและความอันตรายให้สำเร็จ สุดท้ายแล้วเรื่องราวของพวกเขาจะลงเอยอย่างไรเราคงต้องไปติดตามเอาใจช่วยกันต่อในซีรีส์
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง RESIDENT EVIL
RESIDENT EVIL เป็นซีรีส์ที่หากพูดถึงในฐานะของแฟนเกมที่ติดตามมาตั้งแต่ภาค 1 คงต้องบอกแบบตรงไปตรงมาว่าเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างออกทะเลไปไกลและบิดเบือนเหตุการณ์ภายในเกมไปไม่น้อยเลยทีเดียว มีความพยายามที่จะนำเสนอตัวละครอย่างอัลเบิร์ต เวสเกอร์ในมิติที่มีความเป็นมนุษย์มากกว่าเดิมแต่มันช่างขัดหูขัดตากับภาพลักษณ์ที่เราเห็นภายในเกมอย่างสิ้นเชิงจนทำให้รู้สึกอินได้ยากสำหรับคนที่เคยสัมผัสกับตัวละครนี้ภายในเกมมาก่อน ถึงอย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าตัวละครมีในซีรีส์เองก็เต็มไปด้วยเสน่ห์และความน่าสนใจไม่น้อย เพียงแต่ว่ามันไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ภายในเกมอย่างถึงที่สุดก็เท่านั้น
ส่วนตัวละครฝาแฝดลูกของเวสเกอร์ก็นับว่าเป็นตัวละครสำคัญที่น่าสนใจเพราะทั้งสองเป็นชนวนเหตุที่ก่อให้เกิดหายนะในเมืองตามสูตรสำเร็จของภาพยนตร์หรือเรื่องเล่าของ RESIDENT EVIL เพียงแต่เพิ่มเรื่องราวดราม่าความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องและปัญหาชีวิตวัยรุ่นเข้ามา แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือการใส่เนื้อหาวัยรุ่นเข้ามามากจนเกินไปในช่วงหลังของซีรีส์ เป็นการตกม้าตายที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลยเพราะคนที่มารับชมซีรีส์เรื่องนี้ต่างคาดหวังว่าจะได้เห็นฉากการเอาชีวิตรอดหรือการต่อสู้มากกว่าชีวิตเด็กมัธยม
ในส่วนของฉากการต่อสู้ส่วนใหญ่แล้วจะไปอยู่ในส่วนของโลกอนาคตมากกว่าโดยเป็นการพยายามหาวิธีการกำจัดซอมบี้ที่มีจำนวนถึง 6,000 ล้านตัวทั่วโลกให้สำเร็จหรือไม่ก็หาทางให้มนุษย์ที่เอาชีวิตรอดมาได้อยู่กับฝูงซอมบี้เหล่านี้ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ก็นับว่าเป็นการฉีกการเล่าเรื่องราวที่ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย
สิ่งที่ดีงามมากที่สุดสำหรับซีรีส์เรื่องนี้คงจะเป็นการพยายามนำเอาสัตว์ประหลาดภายในเกมใส่เข้ามาให้เราได้เห็นตลอดทางไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เลื่อยยนต์ในภาค 4 ลิกเกอร์ ไทแรนท์ เนเมซิส หรือจระเข้ยักษ์ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการภาพที่แฟนเกมอยากเห็นได้เป็นอย่างดีแม้ว่างานภาพคอมพิวเตอร์กราฟิกจะทำออกมาได้ในระดับกลางๆ ก็ตาม
ตัวอย่างซีรีส์ RESIDENT EVIL NETFLIX
รีวิวซีรีส์ RESIDENT EVIL NETFLIX บางส่วนจาก beartai
ซีรีส์ดังกล่าวดัดแปลงจากวิดีโอเกมชื่อดัง โดยเป็นความพยายามรีบูตเรื่องราวของ ‘Resident Evil’ ขึ้นมาใหม่ภายหลังจากจบเรื่องราวเวอร์ชันภาพยนตร์ของ พอล ดับบลิว.เอส. แอนเดอร์สัน (Paul W. S. Anderson) และเวอร์ชันภาพยนตร์ของ ‘Resident Evil: Welcome to Raccoon City’ ของผู้กำกับ โยฮันเนส โรเบิร์ตส์ (Johannes Roberts) เมื่อปี 2021 ไป
ซีรีส์ ‘Resident Evil’ ของ Netflix นี้ วางโครงเรื่องในอีกจักรวาลหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับเวอร์ชันภาพยนตร์และเกม โดยได้นักแสดงชื่อดังอย่าง เอลลา บาลินสกา (Ella Balinska), อาเดอลีน รูดอล์ฟ (Adeline Rudolph) และ แลนซ์ เรดดิค (Lance Reddick) มานำแสดง โดยตัวซีรีส์ได้รับคำวิจารณ์อย่างหลากหลายผสมกัน เช่น บางคนชื่นชมการสร้างบรรยากาศในแนวทางเดียวกับวิดีโอเกม และบางคนก็กล่าวการเดินเรื่องขาดความสร้างสรรค์ และเอื่อยช้า
เว็บไซต์ Rotten Tomatoes ได้เปิดเผยคะแนนวิจารณ์สำหรับซีรีส์ ‘Resident Evil’ ของ Netflix โดยระบุว่าได้คะแนนจากผู้ชมไปเพียง 23% ซึ่งถือได้ว่าเป็นซีรีส์ต้นฉบับของ Netflix ที่ได้รับคะแนนจากผู้ชมน้อยที่สุดในขณะนี้
คะแนนดังกล่าวน้อยกว่ามินิซีรีส์แอนิเมชัน ‘Resident Evil: Infinite Darkness’ ของ Netfix ที่เข้าฉายก่อนหน้านี้โดยได้คะแนนจากผู้ชมบน Rotten Tomatoes ไป 39%