จำได้ว่าผมเคยยินดีอย่างยิ่งตอนที่มีการประกาศว่า Paranormal Activity จบลงในภาค The Ghost Dimension ประมาณว่าจบลงได้สักที หลังคนทำพยายามต่อเรื่องอยู่หลายภาค
แต่ผมคงจะลืมไปน่ะครับว่าในฮอลลีวู้ดนั้นมันไม่มีอะไรแน่นอนหรอก หลายครั้งที่หนังจบชุดลงไปแล้ว ได้รับการปลุกชีพขึ้นมาสร้างใหม่ โดยเฉพาะหนังสยองขวัญนี่มีการปลุกขึ้นมาบ่อยสุดๆ เลยล่ะ
แล้วผมก็ยึดตำราเดิมครับ ก็คือ “ถ้ากล้าทำออกมาก็กล้าดู” และอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมอยากดู Paranormal Activity: Next of Kin ก็เพราะหนังกำกับโดย William Eubank ที่เคยทำหนังลงน้ำ Underwater ไว้ในระดับที่โอเค ก็เลยขอตามมาดูสักหน่อย
ตัวเอกของเรื่องคือมาร์โก้ (Emily Bader) หญิงสาวที่พยายามตามหาร่องรอยของแม่ที่แท้จริง (เนื่องจากเธอเป็นเด็กที่ถูกรับมาเลี้ยง) และร่องรอยก็พาเธอไปยังชุมชนชาวอามิช เธอได้พบกับเจค็อบ (Tom Nowicki) คุณตาของเธอ แล้วก็ตัดสินใจพักอยู่ที่นั่นระยะหนึ่งเพื่อทำสารคดีเกี่ยวกับชาวอามิช พร้อมๆ กับหาความจริงเกี่ยวกับแม่
แต่ระหว่างที่เธอกับเพื่อนๆ อยู่ที่นั่น เธอก็พบเจอเรื่องแปลกๆ หลายอย่าง ซึ่งบอกตรงๆ ว่าถ้าเป็นผมนี่คงพยายามกลับบ้านตั้งแต่แรกๆ แล้วล่ะครับ (555) แต่เนื่องจากนี่เป็นหนังที่ตั้งใจพาเราไปเจอเรื่องสยอง เราก็เลยจะได้เห็นมาร์โก้กับเพื่อนๆ ตามรอยเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้น จนในที่สุดก็ถึงจุดที่ชีวิตพวกเขาต้องตกอยู่ในอันตราย
ภาคนี้เขาว่าตั้งใจทำออกมาเป็นภาคแยกแบบ Standalone ครับ (แต่กระนั้นก็ยังมีบางสิ่งที่เชื่อมไปยังจักรวาลหลักได้-ถ้าอยากจะเชื่อมน่ะนะครับ) ถ้าถามว่าดูแล้วเป็นอย่างไร ก็ตอบได้ว่าดูได้แบบเรื่อยๆ ซึ่งผมก็ยังชอบภาคแรกที่สุดอยู่ดีครับ ในขณะที่ภาคนี้ก็ถือว่าเวิร์กกว่าภาค 4 และภาค The Ghost Dimension นะ แต่ก็ไม่ได้ชวนติดตามอะไรมากมาย ช่วง 20 นาทีแรกนี่ก็ต้องทนนิดนึงครับ เพราะมันเป็นช่วงปูพื้นกินลมชมวิวตามสูตร หลังจากนั้นก็มีการทิ้งปมให้เราตามอยู่บ้าง แต่การเดินเรื่องมันก็ไม่ได้เร่งเร้าอะไร อย่างที่บอกน่ะครับว่าดูได้แบบเรื่อยๆ แต่ไม่ได้มีจุดเด่นจุดเด็ดสักเท่าไร
ในแง่ของความสยองนั้นจริงๆ ก็ไม่เท่าไรครับ ส่วนใหญ่จะพยายามใช้มุกตุ้งแช่ใส่ดนตรีตึ้งตั้งลงมา และอีกอย่างก็คือหนังเรื่องนี้ดูแล้วไม่ค่อยได้อารมณ์ Found Footage สักเท่าไร เพราะหลายๆ มุมกล้องมันดูเป็นหนังมากกว่าจะเป็นการถ่ายมือถือครับ แล้วบางฉากบางตอนก็ชวนให้ขัดใจ เพราะหลายๆ สถานการณ์ในเรื่องนี้คนเราไม่น่าจะบ้าถือกล้องถ่ายอยู่ได้น่ะครับ ดูไปก็แอบฮา อะไรจะตั้งหน้าตั้งตาถ่ายเบอร์นั้น ถ้าเป็นคนทั่วไปนี่น่าจะโกยอ้าวลืมกล้องไปตั้งนานแล้ว – และมุกตุ้งแช่ที่มาพร้อมเพลงตึ้งโป๊ะนี่แหละ ที่ลดบรรยากาศความเป็นหนัง Found Footage ลงไป
โดยรวมแล้วหนังก็ไม่ได้มีอะไรให้จดจำมากนักครับ อยู่ในระดับธรรมดาค่อนไปทางเอื่อยๆ แม้บางฉากจะดูเข้าท่า (อย่างตอนคุณยายคนหนึ่งนั่งปอกอะไรสักอย่าง แล้วพอมองดูดีๆ กลายเป็นว่าแกปอก… เป็นต้น) แต่หนังก็ออกแนวผ่านมาแล้วก็ผ่านไปครับ ไม่ได้ชวนดูซ้ำ
ไม่ถึงสองดาวครับ
(5.5/10)