เรื่องนี้ผมสนใจตั้งแต่ก่อนเข้าโรงแล้วครับ เพราะหนังมาพร้อมพล็อตที่น่าสนใจดี คิดดูสิครับ เมื่อวายร้ายที่มีบทบาททำลายโลกและชนกับซูเปอร์ฮีโร่ ดันต้องมาออกโรงพิทักษ์โลกแทน ซึ่งวายร้ายที่ว่าก็มีนามว่า เมกะมายด์ (Will Ferrell) ครับ เป็นคู่อาฆาตของฮีโร่ประจำเมืองอย่าง เมโทรแมน (Brad Pitt) มานานแสนนาน
แล้ววันหนึ่งเขาก็พิชิตเมโทรแมนสำเร็จครับ แต่เขาหารู้ไม่ครับว่ากำลังมีวายร้ายตัวใหม่ที่ร้ายกว่า หมายจะมาทำลายเมือง… แล้วแบบนี้เมกะมายด์จะตัดสินใจทำอย่างไรต่อไป
พล็อตว่าน่าสนใจแล้ว พอมาดูเนื้อในก็ถือว่าต่างจากที่ผมคิดอยู่พอตัว ไม่ว่าจะการแทรกเรื่องโรแมนติกลงมา (ซึ่งผมชอบนะ) หรือการมาของวายร้ายตัวใหม่ที่ไม่นึกเหมือนกันว่าจะเป็นแบบนี้
เป็นการ์ตูนที่ดูสนุกครับ แต่ก็ยังสนุกได้อีก จุดน่าเสียดายสำคัญคือหนังมันออกโทนต๊องโทนเล่นแบบไม่จำเป็นในหลายช่วงน่ะครับ ซึ่งสำหรับเด็กเล็กๆ ก็อาจเพลิน แต่ผู้ใหญ่คงต้องทำใจสักหน่อย เพราะหนังยังติดลีลาต๊องแบบการ์ตูนอยู่ไม่้น้อย จริงๆ จะต๊องก็ได้ครับไม่มีปัญหา แต่หากทำให้ต๊องพอดีพอเหมาะแบบหนังของค่าย Pixar ก็น่าจะได้รสชาติที่ดีขึ้น กลมกล่อมและดูได้แบบสนุกทั้งเด็กและผู้ใหญ๋
ในส่วนของสาระผมก็ว่าดีครับ อย่างเรื่องการไม่ยอมแพ้ของเมกะมายด์ ที่เป็นการถอดมุมอีกมุมหนึ่งมาให้เรามองได้อย่างน่าสนใจครับ เพราะปกติเรามักมองผู้ร้ายว่าเป็นตัวป่วน ตัวไม่ดี แพ้แล้วก็ยังด้านหน้ากลับมาอีก จนเราอดขำอดแซวไม่ได้
แต่หากมองในมุมหนึ่ง… วายร้ายพวกนี้เป็นพวกไม่ยอมแพ้นะครับ แม้จะพ่ายแต่ก็ยังไม่ยอม พร้อมจะกลับมาใหม่ แพ้อีกก็ถอยแล้วรอวันกลับมาอีก ซึ่งอันนี้อาจไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีที่เด็กควรจดจำทำตาม (เพราะเมกะมายด์ไม่ยอมแพ้ในเรื่องการก่อความไม่สงบ) แต่ก็ถือเป็นการพยายามจับประเด็นที่ไม่เลวครับ เพียงแต่ผู้ใหญ่อย่างเราๆ อาจต้องสอนเด็กเพิ่มเติมสักนิดในประเด็นเหล่านี้นะครับ
หรือการเลือกทางเดินชีวิตที่จริงๆ เราลิขิตเองได้ ไม่ใช่ว่าพ่อแม่เป็นคนไม่ดีแล้วเราต้องไม่ดีตาม หรือเรามีรูปลักษณ์น่ากลัวก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวให้น่ากลัว เราเลือกได้ครับ และเราเดินตามเส้นทางที่ดีได้ด้วยขอเพียงเรามุ่งมั่นและอดทนเพียงพอ
และจุดเสียดายเล็กๆ อีกอย่างคือ หนังยังไม่เร้าให้เรารักเมกะมายด์แบบสุดๆ นี่ถ้าเร้าดีๆ รับรองว่าตอนท้ายคนดูจะอินมากขึ้นอีกมากครับ
สรุปว่าเป็นการ์ตูนที่ดูสนุกครับ เพลินไม่เลว เด็กๆ น่าจะชอบ ส่วนผู้ใหญ่ก็น่าจะโอครับ ขอเพียงทำใจให้เป็นเด็กลงสักหน่อย ปล่อยๆ จุดบอดบางอย่างในหนังไปบ้าง แค่นี้ก็เชื่อว่าคุณจะสามารถสนุกไปกับหนังเรื่องนี้ได้แล้วล่ะครับ
สองดาวครึ่งได้ครับ
(7/10)