ตอนนี้ทางค่าย Warner ก็กำลังเตรียมสร้างบทและสร้างเรื่องเพื่อสร้างจักรวาลหนังสัตว์ประหลาดของตัวเองขึ้นมา ว่าง่ายๆ คือเตรียมเอาคองตัวนี้ไปเจอกับพี่ก็อตซิลล่านั่นเอง
ตัวหนังนั้นผมถือว่าเวิร์กครับ ดูเพลินทีเดียว คือมันอาจไม่ได้สุดยอดแบบเต็มขั้นนะ ถ้าหากเทียบกันในหนังตระกูล King Kong แล้วผมยังชอบเวอร์ชั่นของ Peter Jackson มากกว่าอยู่ (ชอบในความพิถีพิถัน งานภาพ และอีกหลายๆ อย่าง)
สำหรับ Kong นี่ก็ถือว่าทำออกมาได้สนุกน่าติดตามครับ โดยรวมแล้วผมโอกับเรื่องนี้มากกว่า Godzilla (2014) ส่วนหนึ่งคงเพราะโทนเรื่องมันจัดเต็มในส่วนของการผจญภัยครับ อาจมีการปูพื้นบ้างในตอนต้น แต่พอเหล่าตัวเอกเดินทางเข้าไปในเกาะนั้นแล้ว แอ็กชันและการผจญภัยก็ถูกเสิร์ฟเรื่อยๆ ทำให้มีอะไรให้เพลินได้ตลอด
ในขณะที่ Godzilla เวอร์ชั่นนั้นอาจมีอารมณ์เนือยนิดๆ เมื่อหนังเล่าเรื่องของตัวละครหลัก และว่าตามจริงในแง่อารมณ์ผจญภัยแล้วเรื่องนั้นยังไม่ถือว่ามากเท่าไร ส่วน Kong นี่ตัวละครไปบุกป่าน่ะครับ จะไม่ผจญภัยก็ไม่ได้เพราะตัวอะไรต่อมิอะไรมันล้อมหน้าล้อมหลัง ความสนุกมันเลยมาเยอะกว่า
ระหว่างดูนั้นผมรู้สึกอารมณ์หนังมันชวนให้นึกถึง The Lost World: Jurassic Park หรือ Jurassic Pak III เพราะมันดูจะเน้นที่ “มนุษย์” มากกว่าจะเน้นที่เหล่าสัตว์ยักษ์ ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้ว ตัวละครมนุษย์ก็มาแนวคล้ายๆ กับ Godzilla คือดาราเล่นกันได้ดี แต่มิติหรือความลึกจะยังไม่เยอะ
เลยทำให้ช่วงไหนพอหนังมาโฟกัสที่ตัวละคร มันก็อาจจะให้อารมณ์เรื่อยๆ อยู่บ้าง ซึ่งจะต่างจาก King Kong ของ Peter Jackson ที่สามารถทำให้เหล่าตัวละครและสัตว์ยักษ์ดูกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน บางฉากนี่ยังกับคนและสัตว์กำลัง “เชือดเฉือนฝีมือในเชิงการแสดงต่อกัน” ยังไงยังงั้น แต่ของแบบนี้ก็คงต้องแล้วแต่คนชอบครับ
แต่โดยรวมๆ แล้วผมก็สนุกกับหนังครับ อย่างน้อยดาราก็เล่นกันได้เวิร์ก Tom Hiddleston สลัดคราบโลกิมาเป็น เจมส์ คอนราด ทหารรับจ้างที่นำทีมไปผจญภัยยังเกาะกะโหลกแห่งนี้ เขาอาจไม่ใช่พระเอกล่ำบึ้กแบบ Arnold แต่ก็ดูน่าเชื่อครับว่าเขาคือคนที่ทีมสามารถฝากผีฝากไข้ได้
Samuel L. Jackson ก็เจ๋งเหมือนเดิมครับ บทพี่แกถือว่ามีอะไรให้เล่นเยอะกว่าคนอื่น และเป็นบทที่ทำให้เรื่องราวมันเข้มขึ้นด้วย (แต่ถ้าบางคนจะรำคาญการตัดสินใจบางอย่างของพี่แก อันนี้ก็ไม่แปลกครับ 555)
Brie Larson จริงๆ คือนางเอกครับ ซึ่งเธอก็เล่นได้ดีเท่าที่บทจะอำนวย เพียงแต่พื้นที่สำหรับตัวละครของเธอในหนังอาจไม่มากเท่าไร แต่เธอก็ทำเต็มที่แล้วล่ะครับ เช่นเดียวกับ John C. Reilly และ John Goodman ที่ขึ้นจอทีไรก็ทำให้เราจับตาได้เสมอ
ต้องบอกว่าผมสนุกกับหนังมากกว่าที่คาดไว้นะ อาจเพราะพอดู Godzilla แล้วความคาดหวังมันก็ลดลง คือจริงๆ ผมว่า Godzilla ก็ทำได้ดีในแบบของมันล่ะครับ เพียงแต่ตอนแรกผมอาจคาดหวังความสดใหม่หรืออะไรบางอย่างที่จะทำให้เราร้อง “ว้าว” แต่เอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้มีอะไรใหม่แบบนั้นให้
มันคือหนังสัตว์ประหลาดเดิมๆ ที่มาพร้อมสูตรเดิมๆ น่ะครับ แต่ได้รับการปรุงอย่างดีขึ้น ทุนสูงขึ้น คนทำมีความตั้งใจและเข้าใจธรรมชาติของมันมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้แม้จะไม่ได้แปลกใหม่ แต่ก็ทำออกมาได้ดี ไม่ทำให้คอหนังแนวนี้รู้สึกผิดหวัง (ยกเว้นหวังมากๆ ว่ามันต้องพีคหรือหวังความใหม่ ก็อาจรู้สึกได้ว่ามันยังไม่ใช่ครับ)
ถือเป็นหนังแอ็กชันผจญภัยที่ดูแล้วสนุกดีครับ ฉากผจญภัยหรือแอ็กชันก็ทำออกมาได้ตื่นเต้นชวนลุ้น (แต่อาจยังไม่ถึงขั้นลืมหายใจ) งานภาพและ CG ก็ไว้ใจได้ ดนตรีของ Henry Jackman ก็เข้ากับสไตล์ของหนังอย่างยิ่ง ซึ่ง Jackman นี่หลังๆ งานชุกนะครับ เขาคือคอมโพเซอร์ของหนังอย่าง Kick-Ass, X-Men: First Class, Captain America 2 ภาคล่าสุด และ Kingsman: The Secret Service ซึ่งกับเรื่องนี้เขาก็ทำได้ดีอีกเช่นเคย
สรุปว่าถ้าชอบแนวนี้ก็จัดไปเลยครับ ^_^
สองดาวครึ่งครับ
(7/10)