รีวิว ซีรีส์ KING OF STONKS
รีวิว ซีรีส์ KING OF STONKS ซีรีส์ที่จะพาคุณไปดูความพยายามของอาชญากรต้มตุ๋นที่ต้องเอาชีวิตรอดทุกวิถีทาง
การเป็นนักต้มตุ๋นนั้นฟังดูเหมือนเป็นอะไรที่ง่ายดาย หลอกคนที่ไม่รู้ให้เชื่อตัวเองแล้วเอาเงินมาจากพวกเขาจากนั้นก็อันตรธานหายไปเหมือนไม่เคยมีตัวตนอยู่จริงก็ได้เงินมาใช้แบบง่ายๆ แล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วการมีอาชีพเป็นอาชญากรนักต้มตุ๋นที่ไม่ใช่อาชีพสุจริตนั้นไม่มีอะไรที่สร้างความสบายใจได้เลยแม้แต่น้อย ชีวิตของพวกเขาเหล่านี้เต็มไปด้วยความเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางอยู่เสมอ ต้องวางแผนทุกอย่างให้ดีและทำทุกวิถีทางให้เอาตัวรอดได้สำเร็จ และหากคุณอยากรู้ว่าพวกเขาต้องใช้ชีวิตอย่างไรเราขอแนะนำซีรีส์เรื่อง KING OF STONKS
ซีรีส์สัญชาติเยอรมันจำนวนเพียงแค่ 6 ตอนจบที่จะพาคุณไปรับรู้เรื่องราวของอาชญากรต้มตุ๋นรายใหญ่คนหนึ่งที่อยู่ในวงการ FINTECH เขาพยายามเอาตัวรอดทุกวิถีทางโดยเฉพาะการปั่นหุ้นให้บริษัทพุ่มแบบไม่หยุดแต่ก็ต้องเจอกับอุปสรรคและปัญหามากมายที่ทำให้เขานั้นมีความเสี่ยงที่จะต้องก้าวขาเข้าไปอยู่ในตารางทุกเมื่อเชื่อวัน
สำหรับใครที่เบื่อซีรีส์แนวแฉชีวิตอาชญากรต้มตุ๋นที่เคยมีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ ขอบอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้นแต่อย่างใด พวกเขาเพียงแค่ได้รับแรงบันดาลใจจากคดีปั่นหุ้นสตาร์ทอัพมาสร้างเป็นเรื่องราวของตนเองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากกว่า เนื่องจากบริษัทที่ระบุในซีรีส์ไม่ได้มีอยู่จริงแต่อย่างใด ดังนั้นไม่ต้องกังวลไปว่าคุณอาจจะรับรู้เรื่องราวเหล่านี้มาก่อนแล้วและทำให้อรรถรสของการชมซีรีส์ลดน้อยถอยลงไป หากคุณเป็นคนที่ชอบซีรีส์แนวนี้อยู่แล้วรับรองว่ามันจะมอบความสนุกสนานให้กับคุณได้อย่างแน่นอน
ซีรี่ย์สืบสวน ฝรั่ง netflix
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง KING OF STONKS
KING OF STONKS เล่นซีรีส์ที่เล่าถึงเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่าเฟลิกซ์ เดิมทีเขาทำอาชีพเป็นโปรแกรมเมอร์ธรรมดาทั่วไปแต่ดูเหมือนว่ามันจะสร้างรายได้ให้กับเขาไม่มากพอ เขาจึงผันตัวมาเป็นนักต้มตุ๋นที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดในประวัติศาสตร์เยอรมันถึงขั้นที่ก่อคดีฉ้อโกงที่สามารถหลอกรัฐบาลเยอรมันได้มากที่สุดเป็นจำนวนนับพันล้านยูโรเลยทีเดียว
เขานั้นอยู่เบื้องหลังในการตรงกลางบริษัทที่มีชื่อว่า FINTECH บริษัทสตาร์ทอัพรายใหม่ในเยอรมันที่ดำเนินการธุรกิจแบบบริการรับจ่ายเงินด้วยระบบดิจิตอล พวกเขาถึงขั้นที่จะทำ IPO และมีสัญญาใหญ่กับรัฐบาลเยอรมันเลยทีเดียว ทุกอย่างดูไปได้ดีและดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลายเป็นสตาร์ทอัพยูนิคอร์นในไม่ช้า แต่ในความจริงแล้วเบื้องหลังนั้นเต็มไปด้วยความเน่าเฟะเพราะผู้บริหารทั้งหลายโดยเฉพาะตัวเฟลิกซ์เพียงแค่ต้องการที่จะฟอกเงิน
พวกเขาได้หลอกลวงนักลงทุนเป็นจำนวนมากให้เข้ามาร่วมลงทุนกับบริษัทจนหุ้นมีมูลค่าเพิ่มสูงเกินปกติ ไม่เพียงเท่านั้นยังทำงานร่วมกับบรรดามาเฟียอินเทอร์เน็ตที่ดูแลเกี่ยวกับเว็บโป๊อีกด้วย แต่พวกเขากำลังจะดำเนินธุรกิจต่อไปได้อีกไม่นานเพราะนัดชอร์ตหุ้นอย่างวิลเลียมส์ หญิงสาวเฟลิกซ์ตกหลุมรักอย่างไม่ถูกไม่ควรก็กำลังจะเปิดโปงพวกเขาว่าอะไรที่อยู่เบื้องหลังบริษัทสตาร์ทอัพชื่อดัง
ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องออกมาจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามกับสื่อมวลชน การจัดการทางด้านการเมืองโดยเฉพาะกับรัฐบาลที่ใกล้จะเซ็นสัญญากันอยู่รอมร่อ ยังไม่รวมไปถึงการพูดคุยกับมาเฟียที่กำลังข่มขู่พวกเขาหลังจากเห็นท่าไม่ดี และยังมีปัญหาการขัดแย้งกับ CEO ที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับบริษัทอีกด้วยแต่กลับมีความคิดว่าจะขายบริษัทเพื่อเอาตัวรอดเสียอย่างนั้น
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง KING OF STONKS
KING OF STONKS เป็นซีรีส์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคดีต้มตุ๋นฉ้อโกงของบริษัท STARTUP ทั้งหลายทั่วทั้งโลกที่ตั้งใจปั่นหุ้นบริษัทของตนเองและสร้างความน่าเชื่อถือเพื่อหลอกลวงประชาชนรวมไปถึงเหล่านักลงทุน แต่เพราะไม่ใช่เรื่องที่นำเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงมาเล่าดังนั้นเราจึงสามารถมองข้ามข้อเท็จจริงเหล่านี้ไปได้เลย ภาพยนตร์ปูให้เราได้รู้จักเกี่ยวกับเรื่องราวมหากาพย์การโกงในตลาด FINTECH ที่อ้างนวัตกรรมการสร้างไอดีเพื่อมาให้บริการประชาชนในด้านการเป็นตัวกลางรับชำระเงินคล้ายกับ PAYPAL แต่ความจริงแล้วมันเกิดมาจากการชำระเงินสำหรับคนที่ต้องการจะเข้าไปดูเว็บโป๊เท่านั้น หลังจากนั้นก็เล่าข้ามไปจนถึงช่วงที่พวกเขากำลังเตรียมจะเข้าตลาดหุ้น
เนื่องจากประเด็นหลักที่ซีรีส์ต้องการจะเล่าเรื่องราวคือตัวละครเอกอย่างเฟลิกซ์ ชายหนุ่มโปรแกรมเมอร์ธรรมดาทั่วไปที่เผชิญหน้ากับจุดพลิกผันในชีวิตจนทำให้เขานั้นกลายมาเป็นนักต้มตุ๋นที่มีชื่อดังระดับประเทศ คอยทั้งปั่นหุ้นและฟอกเงิน แต่ซีรีส์ก็ไม่ได้ยัดบทตัวร้ายให้กับเขาแต่อย่างใดเพราะยังมี CEO ที่เป็นตัวร้ายตัวจริงที่คอยบังคับกดหัวเขาอยู่ ให้เขาต้องคอยแก้ปัญหาเอาตัวรอดไปเรื่อยๆ เพื่อที่ตนเองจะได้ไม่ต้องไปจบอนาคตอยู่ในคุก
โดยรวมแล้วซีรีส์เรื่องนี้ถือว่าสร้างออกมาได้ดีโดยเฉพาะการเล่าเรื่องราวการก่อเหตุอาชญากรรมเกี่ยวกับบริษัทสตาร์ทอัพไม่ว่าจะเป็นการปั่นหุ้นหรือการฟอกเงิน ซึ่งสามารถสอดแทรกความรู้เข้ามาได้ค่อนข้างดีและช่วยให้เราสามารถเห็นขั้นตอนในการปั่นพูดได้อย่างชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม ได้รับแรงบันดาลใจจากคดีที่เคยเกิดขึ้นจริง เป็นสถานการณ์คับขันแต่ก็ยังสอดแทรกความตลกเข้ามาได้อย่างลงตัว แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือมีการเล่าที่มาที่ไปที่ค่อนข้างข้ามไปมาทำให้เรื่องราวดูไม่สมจริงเท่าที่ควร บท CEO ทำออกมาค่อนข้างน่ารำคาญ และใครที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องหุ้นอาจจะมีข้อสงสัยหรือจุดที่ไม่เข้าใจบ้างในบางครั้ง
ตัวอย่างซีรีส์ KING OF STONKS
รีวิวซีรีส์ KING OF STONKS บางส่วนจาก playinone
ถือเป็นซีรีส์ที่นำเสนอแนวอาชญากรปั่นหุ้นเป็นตัวเอกได้สนุกเพลินๆ มีความปวดหัวกับปัญหารอบด้านรุมเร้าตัวเอก แอบเอาใจช่วยให้เขารอด ตัวเรื่องติดตลกอยู่เรื่อยๆ ไม่ได้เครียดซีเรียสหรือน่าเบื่อ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นทำได้ดีนักในเรื่องรายละเอียดที่มาบริษัทฟินเทคในเรื่องนี้ว่าเติบโตมาได้อย่างไร ออกแนวเล่าข้ามๆ ทำให้เรื่องที่บอกสร้างจากเรื่องจริงดูลอยๆ จนไม่น่าเชื่อถือเท่ากับซีรีส์แนวนี้เรื่องอื่นๆ ที่มักสร้างจากคดีจริงแล้วแต่งเติมเพิ่มได้สนุกกว่า อย่างแอนนามายาลวงของเน็ตฟลิกซ์ ดรอปเอาท์ของดิสนีย์+เป็นต้น
KING OF STONKS ซีรีส์ Netflix เยอรมัน 6 ตอนจบ เรื่องราวของอาชญากรต้มตุ๋นรายใหญ่ของวงการฟินเทค ที่พยายามเอาตัวรอดปั่นหุ้นให้บริษัทพุ่งแรงไม่หยุด แต่ก็ต้องเจอกับสารพัดปัญหารุมเร้าที่พร้อมจะทำให้เขาติดคุกได้ทุกเมื่อ
ซีรีส์ที่ขึ้นในเรื่องว่าสร้างจากเรื่องจริง แต่พอเช็คดูแล้วน่าจะแค่ได้แรงบันดาลใจคดีปั่นหุ้นสตาร์ทอัพต่างๆ มาสร้างเรื่องราวเป็นของตัวเองมากกว่า เพราะไม่เจอบริษัทเคเบิลแคชที่ระบุในเรื่องนี้ว่ามีตัวตนจริงแต่อย่างใด (ในเรื่องอ้างว่าเป็นคดีโกงใหญ่สุดหลอกรัฐบาลเยอรมันได้หลายพันล้านยูโร)
แต่ถ้าข้ามเรื่องข้อเท็จจริงพวกนั้นไป นี่ก็คือเรื่องราวแนวๆ เดียวกับการโกงมหากาพ์ช่วงหลังในตลาดฟินเทค คือการที่พยายามอ้างว่าสร้างนวัตกรรมใหม่ทางไอทีขึ้นมาดิสรัปหรือเปิดตลาดใหม่จนกลายเป็นใครๆ ก็อยากเข้ามาจับจองซื้อหุ้น เพราะกลัวพลาดแบบตอนเฟซบุ๊ก กูเกิล เป็นต้น แต่ในเรื่องนี้บริษัทที่ว่าแทบไม่มีอะไรแบบนั้น เป็นเพียงแค่ตัวกลางรับชำระเงินแบบ paypal ที่เกิดมาจากการรับชำระเงินคนดูเว็บโป๊ ซึ่งในเรื่องก็ข้ามจุดนี้มาเลยถึงตอนที่กำลังเตรียมเข้าตลาดหุ้นทำ IPO กันแล้ว ซึ่งก็อาจจะงงๆ ในช่วงแรกบ้างว่าตกลงแล้วบริษัทแบบนี้เติบโตมาจนทำ IPO ได้อย่างไร มีแค่การอธิบายช่วงหลังแบบลวกๆ นิดหน่อยเท่านั้น
ตัวเรื่องเหมือนตั้งใจโฟกัสที่ตัวเอกเฟลิกซ์มากกว่า โดยเส้นเรื่องทั้งหมด 6 ตอนของซีรีส์นี้คือการเติบโตของเขาจากโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ ที่ค่อยๆ กลายมาเป็นมืออาชีพด้านการตบตาปั่นหุ้น ฟอกเงิน ซึ่งเรื่องก็ทำออกมาแนวสนับสนุนอาชญากรเศรษฐกิจให้เป็นตัวเอกแบบตรงๆ คือทั้งเรื่องจะไม่ได้เล่าไปในทางที่ทำให้รู้สึกว่าเฟลิกซ์ผิด โดยการเดินเรื่องแบบว่ามี CEO ตัวร้ายของเรื่องกดหัวเขาอยู่ ทำให้เขาต้องคอยแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นพยุงบริษัทให้รอดไปได้เรื่อยๆ โดยที่เจ้า CEO นี่ลอยหน้าลอยตาหาแต่เรื่องให้ แถมยังออกแนวคาแรกเตอร์กวนๆ ปัญหาอ่อนไปเรื่อย จึงทำให้ตัวเอกดูเหมือนนักแก้ปัญหาจากเรื่องผิดที่เขาไม่ได้ก่อขึ้นมาเอง แล้วเขาก็ยังเป็นคนที่ไม่ได้ชั่วร้ายอะไรมากแค่พยายามเอาตัวรอดพร้อมพาพนักงานให้รอดด้วยให้ได้เท่านั้น
ปัญหาของเฟลิกซ์ไม่ได้มีแค่การพยุงบริษัท แต่เขายังต้องหาทางปกปิดการเชื่อมโยงของบริษัทกับการฟอกเงินให้นายทุนมาเฟียตั้งแต่เริ่มตั้งบริษัทอยู่ด้วย แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำมาแนวโหดสมจริงอะไร เพราะจริงๆ มันคือแนวตลกแอบเสียดสีเรื่องจริงอยู่เรื่อยๆ ปัญหามาเฟียก็เลยเป็นดูเรื่องขำๆ ที่ตัวเอกต้องพยายามหาทางเอาตัวรอดให้ได้จากการไปสัญญาเฟคๆ หลอกมาเฟียเอาตัวรอดอยู่เรื่อย
นอกจากนี้ยังมีปัญหาความรักในเรื่อง ที่เฟลิกต้องเจอกับ ชีล่า วิลเลียมส์ สาวผิวสีที่มาทำความรู้จักในวันเปิด IPO แต่จริงๆ แล้วเธอคือนักช็อทหุ้นตัวเอ้ (การช็อทหุ้นคือการทำกำไรกับหุ้นที่ตกดิ่งเหว) ซึ่งก็คือศัตรูตัวร้ายที่แฝงเข้ามาสืบหาข้อมูลทำลายหุ้นของเคเบิลแคชโดยตรง จากการร่วมมือกับนักข่าวขุดคุ้ยความปลอมลวงโลกของที่นี่ แต่กลายเป็นว่าทั้งคู่ค่อยๆ มีความรู้สึกดีต่อกัน ซึ่งความรักในเรื่องก็ค่อยๆ พัฒนาไปจนถึงจุดที่ความจริงกระจ่าง กลายเป็นปัญหาที่เฟลิกซ์ต้องเลือกว่าจะเอาชนะคนรักหรือยอมโดนจับเข้าคุก ซึ่งจุดนี้เองคือไคลแม็กซ์ของเรื่องที่เป็นแผนซ้อนแผนกันหลายตลบ แอบลุ้นเรื่องรักกับเรื่องเอาตัวรอดของตัวเอกทั้งคู่ ซึ่งเรื่องหาทางออกได้ดี และจบได้ค่อนข้างสวย แต่ก็ยังไม่วายทิ้งปมไว้เผื่อทำซีซั่น 2 ได้อีกแหนะ
เรื่องนี้ด้วยความว่าเกี่ยวกับการปั่นหุ้นเป็นเมนหลักของเรื่อง ทำให้ต้องมีศัพท์หลายอย่างกับการเล่นหุ้นเข้ามาในเรื่องบ่อย ซึ่งใครที่ตามไม่ทันหรือไม่รู้ตรงจุดนี้ก็อาจจะงงๆ ดูไม่สนุกไปเลยก็ได้ แต่ถ้าเข้าใจก็จะสนุกไปกับกลโกงการสร้างเครดิตราคาปั่นหุ้นแบบได้ความรู้กลับมาไม่น้อยครับ