Frozen 2 – โฟรเซ่น 2: ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ

Frozen II – ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ
— 7.5/10 —
ภาพโคตรสวย! เอลซ่าปล่อยผมคือดีงามมาก!
เนื้อเรื่องเล่นใหญ่ไปแต่เล่าไม่ใหญ่ตาม
เพลงไม่ติดหูเหมือนภาคแรก เหมือนดู MV มาเรียงต่อกันเป็นหนัง

ภาคต่อของอนิเมชั่นชื่อดังที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั้งโลก เด็กๆ ต่างเรียกร้องให้พ่อแม่ซื้อของเล่นและชุดแต่งกายอันงามหยดย้อนของเอลซ่า ครั้งนี้กลับมาอีกครั้ง กับเรื่องราวการตามหาที่มาที่ไป ต้นกำเนิดพลังที่แท้จริงของเอลซ่า ทำให้เหล่าสหายต้องออกเดินทางร่วมผจญภัยกันอีกครั้ง

ไม่คิดเลยว่า Frozen จะมีภาคต่อได้ ให้เดาเลยนะว่าตอนแรกไม่ได้กะทำให้มีภาคต่อหรอก แต่มันดันขายได้ แล้วมันดังมากกกกกก เลยเซอร์วิสแฟนคลับของเรื่องนี้ด้วยการทำภาคต่อซะเลย และทางออกที่ดีที่สุดที่จะทำให้เกิดภาคต่อก็คือเรื่องราวตัวเอกของเรื่องอย่างเอลซ่าเนี่ยแหละ กับที่มาที่ไปของพลังเธอ หนังจึงสร้างเรื่องราวขึ้นมาให้เอลซ่าได้ยินเสียงบางอย่าง ทำให้เธอต้องออกเดินทางไปตามเสียงนั้นเพื่อค้นพบคำตอบในชีวิตของเธอ 

เนื้อเรื่องเหมือนจะยิ่งใหญ่ พยายามเล่นใหญ่มากกก แต่การเล่าและวิธีการต่างๆ ในการคลี่คลายคือเล่นไม่ใหญ่ตาม คือเอาจริงๆ ก็ไม่มีอะไรเลย ธรรมดา แถมยังมีจุดบอดของเรื่องชวนสงสัยเต็มไปหมด สิ่งที่พอจะทำให้หนังน่าสนใจคือตัวโอลาฟนั่นแหละ ที่เรียกเสียงหัวเราะได้ทุกฉาก ยก MVP ให้เขาเลย โดยเฉพาะฉากเล่าเรื่องกลางเรื่องนี่ฮามาก 555 และการปรากฏตัวของจิ้งเหลนสุดน่ารัก สองสิ่งนั้นแหละคือสิ่งบันเทิงสุดๆ ของหนังเรื่องนี้และ นอกจากนั้นมันคือ MV เพลงขนาดยาว ที่ประกอบไปด้วยเพลงหลายเพลงมาเรียงร้อยต่อกัน คือเล่าสักพักเหมือนคิดอะไรไม่ออกมาร้องเพลงกันดีกว่าาาา ซีนคริสตอฟร้องเพลงนี่คือ MV จัดๆ 

ทางด้านเพลงในภาคนี้ไม่ค่อยติดหูเหมือน Let it Go – Demi Lovato อย่างในภาคแรกที่ร้องกันทั้งบ้านทั้งเมือง ฟังแล้วแบบพร้อมปล่อยพลังอะ ด้วยจังหวะ ด้วยคำร้อง ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!! ส่วนในภาคนี้ทั้งๆ ที่ฟังกรอกหูเพลงใหม่มาบ้างแล้วนะ มันจะเป็นเพลง Into the Unknown ที่เอาจริงๆ เพราะทุกเวอร์ชั่นเลยนะ ทั้ง Panic! At The Disco, Taeyeon, Idina Menzel หรือของเวอร์ชั่นแก้ม เพราะมากทั้งนั้นเลยนะ เพียงแต่ว่ามันไม่ติดหูเท่านั้น

พูดถึงเวอร์ชั่นไทยที่แก้มร้อง รู้สึกขัดใจคำแปลมาก โดยเฉพาะท่อน “Into the Unknowwwww” คือมันแปลออกมาว่า “ดินแดนที่ไม่รู้วววววววววววววววววววววววววว” ซึ่งมันไม่สามารถออกเสียงให้มันอลังกาลเหมือนเสียงต้นฉบับได้อะ คือพลังเสียงแก้มนี่พ่นไฟมาก ไม่ต้องสงสัยเลย แต่ดันแปลออกมาเป็นแบบนั้น ไม่ใช่แค่ท่อนเดียวนะ หลายๆ ท่อนเลย เสียดายมาก จริงๆ ร้องทับไปเลยก็ได้น่าจะอลังมากอะเสียงแก้มท่อนนั้น เสียดายจริงๆ (อยากเห็นแก้มเอามา Cover เองในช่องมาก ฟัง Let it go ที่แก้มร้องแล้วแบบ อยากปล่อยพลัง 555)

สิ่งที่เราโคตรชอบในเรื่องนี้นอกจากโอลาฟแล้วก็คืองานภาพ สวยไปไหน! โดยเฉพาะฉากที่มีน้ำนี่โอ้โห ให้ตายเถอะ ทำได้ขนาดนี้เลยหรอ งดงามมากกก รวมถึงองค์ประกอบฉากอื่นๆ แสงสี ไฟ คืองดงามหมด ยกระดับมากเลยภาคนี้ และอีกสิ่ง เอลซ่าปล่อยผมงดงามเกินบรรยาย สวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

สรุปแล้ว Frozen II น่าจะทำออกมาเอาใจแฟนคลับจริงๆ นั่นแหละ คือภาคแรกเราก็ไม่ได้ประทับใจอะไรขนาดนั้น ก็เรื่อยๆ เพลินๆ แต่ชอบเพลง พอมาในภาคนี้หลายๆ อย่างมันชวนให้ไม่เอ็นจอยสักเท่าไหร่ แถมเพลงยังไม่ติดหูเหมือนภาคแรกอีก เหมือน MV เพลงเรียงต่อกันอีกต่างหาก แต่ยังมีงานภาพที่น่าจับตา โอลาฟที่คอยดึงเราอยู่บ้าง และลุคปล่อยผมของแม่นางเอลซ่า