Bloodfist VIII: Trained to Kill (1996), หมัดสังหาร 8

ริค โคแวน (Don ‘The Dragon’ Wilson) อดีตซีไอเอที่หันหลังให้กับชีวิตผาดโผนแล้วผันตัวมาปเนครูอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง เขาพยายามเลี้ยงลูกชาย (John Patrick White) ให้ห่างไกลจากโลกแห่งความรุนแรงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ตามสูตรครับ ลองว่าบทเรื่องนี้จับเขามาเป็นตัวเอกแล้ว ชีวิตเขาก็ย่อมไม่สงบสุขดังหวังหรอก เพราะพวกผู้ร้ายก็โผล่มาจนเขาต้องกลับมาใช้ฝีมือลายมือแบบซีไอเออีกครั้งเพื่อปกป้องชีวิตตนเองและลูกชาย ก็ตามเคยครับ ชื่อหนังคือ Bloodfist ภาค 8 แต่ตัวเอกในเรื่องเป็นคนละคนกับภาคก่อนๆ แต่นำแสดงโดย Wilson เหมือนเดิม สำหรับภาคนี้ก็จัดว่าพลาดเหมือนหลายๆ ภาค คือแทนที่หนังจะให้ Wilson ออกลีลาพะบู๊ แต่ดันทำออกมาเป็นแนวระทึกขวัญไล่ล่า ให้พี่ Wilsonมาจับปืน ซึ่งก็เข้าอีหรอบเดียวกับพี่ Steven Seagal น่ะครับ…

ดาบมังกรหยก ตอน ประมุขพรรคมาร (1993) Kung Fu Cult Master

เรื่องราวของ ดาบมังกรหยก ฉบับจอใหญ่ครับ ได้ หลี่เหลียนเจี๋ย มารับบทเตียบ่อกี้ ผู้ทีี่ต้องสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็กเพราะถูกชาวยุทธบีบคั้นให้เผยที่ซ่อนของราชสีห์ขนทองเจี่ยซุ่น ครั้นเมื่อโตเป็นหนุ่ม ชะตาก็นำพาเขาให้ต้องผจญภัยกับวิบากกรรม ก่อนที่จะมีโอกาสได้ศึกษาวิชาเพลงยุทธอันเลิศล้ำ และได้เป็นประมุขพรรคจรัส (เม้งก่า) ในเวลาต่อมา จริงๆ แล้วนี่คือภาคแรกครับ ทีมงานน่ะตั้งใจจะทำออกมาเป็นหนังไตรภาค แต่พอดีว่าภาคแรกนี้ไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไร ทำเงินไปเพียง 10 ล้านเหรียญฮ่องกง ซึ่งนับว่าน้อยหากเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆ ของหลี่เหลียนเจี๋ย ไม่ว่าจะ หวงเฟยหง, ฟงไสหยก, ปึงซีเง็ก หรือ ไอ้หนุ่มซินตึ้ง หัวใจผงาดฟ้า ที่ต่างก็ทำเงินไปราวๆ 30 ล้านเหรียญ สำหรับตัวหนังนั้นว่าตามจริงก็ถือว่าดูได้เรื่อยๆ ครับ แต่ก็ไม่ได้เด่นเป็นพิเศษ โดยโครงเรื่องแล้วก็คล้ายกับนิยาย แต่หลายอย่างก็แปลงไปทำเอาผู้ชมบางคนก็ขมวดคิ้วเหมือนกัน อย่างคาแรคเตอร์ของเตียบ่อกี้ที่ดูจะออกแนวเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นและดูกระหายอำนาจอยู่ในที…

ยิปมัน ตำนานมาสเตอร์ Z (2018) Master Z: Ip Man Legacy

ภาคแยกของ Ip Man นะครับ โดยจับเอาตัวละคร จงเทียนฉี (จางจิ้น) จากภาค 3 มาขยายเรื่องราว หลังจากที่พ่ายแพ้ให้กับยิปมัน เขาก็ย้ายมาอยู่ที่ใหม่ครับ เขาพยายามใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือหญิงสาวที่โดนแก๊งอันธพาลรังแก และนั่นคือชนวนที่ทำให้เขาโดนพวกมันรังควานจนถึงขั้นเสียบ้านไป และเมื่อเขาโดนพวกมันไล่ต้อนจนถึงจุดที่สุดจะทน เขาเลยต้องใช้หมัดประจำกายไล่ซัดกับพวกมัน จริงๆ ภาคนี้ดูฟอร์มแล้วก็น่าสนใจครับ ได้ หยวนหวู่ปิง มากำกับ และได้ดาราร่วมจออย่าง Dave Bautista, Michelle Yeoh รวมถึง พี่จา พนม ของเราด้วย และพล็อตหลักก็จัดว่าลงสูตรสำเร็จแบบที่ถ้าปรุงดีๆ แล้วหนังก็จะตอบโจทย์ความบันเทิงได้แบบสบายๆ และผลลัพธ์ของหนังก็จัดว่าเรื่อยๆ ครับ ว่ากันตรงๆ ก็คือหนังเทียบกับ Ip Man ภาคหลักไม่ได้…

Letters from a Killer (1998) เงื่อนปริศนา ปมอำมหิต

เรซ ดาร์เนลล์ (Patrick Swayze) ถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรมภรรยาของเขา แต่เขาก็พยายามพิสูจน์ความบริสุทธิ์มาโดยตลอดครับ และระหว่างที่เขาติดคุกเขาก็มีโอกาสได้ติดต่อกับผู้หญิง 4 คนทางจดหมาย ซึ่งพวกเธอทำให้เขามีกำลังใจที่จะสู้ต่อ จนวันหนึ่งเขาสามารถพลิกคดีได้สำเร็จ เขาจึงพ้นโทษออกมาและตั้งใจจะบอกกับพวกเธอว่าเขานั้นคุยกับผู้หญิง 4 คนระหว่างอยู่ในคุก แต่แล้วพวกเธอบางคนกลับถูกฆาตกรรม และนั่นทำให้เรซตกเป็นผู้ต้องสงสัย เขาจึงต้องหลบหนีและพยายามตามสืบว่าใครกันแน่ที่เป็นฆาตกรตัวจริง ถือเป็นผลงานในยุคท้ายๆ ของ Swayze ที่ไปไม่ได้ไกลนักในแง่ความสำเร็จครับ ตัวหนังก็จัดว่าเรื่อยๆ เป็นหนังระทึกขวัญผสมดราม่าที่อยู่ในระดับกลางๆ คือไม่ได้แย่ พอดูได้ แต่ก็ไม่ได้เด็ดขาดจนถึงขั้นห้ามพลาด สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ระหว่างดูหนังเรื่องนี้คือ Swayze ดูมีความตั้งใจในการแสดงครับ ซึ่งผลที่ได้ก็นับว่าไม่เลว เขาทำให้เรซดูเป็นตัวละครที่น่าสนใจ แม้บทจะไม่ได้เอื้อให้เรารู้จักตัวละครนี้แบบลึกซึ้ง แต่ก็ถือว่าโอเค ในขณะที่บทสมทบ…

Destination Wedding (2018) ไปงานแต่งเขา แต่เรารักกัน

ถ้าฟังจากเรื่องย่อก็ชวนให้คิดว่าหนังจะมาในแนว Before Sunrise แต่พอดูตัวอย่างแล้วก็รู้สึกว่าหนังน่าจะมาในโทน Woody Allen ที่ให้ตัวละครมาต่อปากต่อคำกันมากกว่า ครั้นพอได้ดูก็มาในแนวนั้นจริงๆ ครับ เรื่องของ แฟรงค์ (Keanu Reeves) และ ลินด์เซย์ (Winona Ryder) ที่ไม่ถูกชะตากันตั้งแต่แรกเจอ แต่พอดีว่าทั้งคู่ต้องไปงานแต่งงานเดียวกันเลยต้องเจอกันไปตลอดทาง แล้วยังต้องมาพักในโรงแรมห้องติดกันอีกต่างหาก หนังก็เป็นไปตามสูตรครับ ตอนแรกเหมือนคู่กัด แต่พอเกินสักครึ่งเรื่องไปพวกเขาก็เริ่มจะหันมากลายเป็นคู่รักกันแทน ถ้าใครคาดหวังว่าจะได้เจอหนังสไตล์คนแปลกหน้ามาคุยกันข้ามวันข้ามคืนแบบ Before Sunrise หรือ Before We Go ล่ะก็ ขอให้ปรับความคาดหวังโดยเร็วเลยครับเพราะหนังไม่ได้เป็นแบบนั้น จริงครับที่หนังเป็นเรื่องของคนแปลกหน้าชายหญิงมาเจอกันและคุยกันไปตลอด แต่ลีลาการคุยมันออกแนวต่อปากต่อคำ ตบมุกชงมุก ออกแนวซีรี่ส์ Sitcom อะไรแบบนั้นมากกว่า…

Amphibious (2010) ดึกดำบรรพ์ อสูรพันธุ์แมงป่อง

เหตุผลประการสำคัญที่นำพาผมให้มาดูเรื่องนี้ก็เพราะหนังกำกับโดย Brian Yuzna แห่ง Bride of Re-Animator, Beyond Re-Animator แล้วก็ The Dentist ทั้ง 2 ภาคครับ ที่ตามมาดูนี่ไม่ใช่เพราะฝีมือการกำกับของพี่แกสุดยอดจนห้ามพลาดนะครับ แต่ดูด้วยอารมณ์เหมือนแวะมาหาคนคุ้นเคย แวะมาหาคนทำหนังสยองรุ่นเก่าที่เราโตมากับหนังของเขา พอเขาทำผลงานใหม่ๆ ออกมาก็อดไม่ได้ที่จะแวะไปเยี่ยมเยือนสักนิดหน่อย ประมาณว่าให้กำลังใจน่ะครับ แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสิ่งที่ผมจะเขียนต่อไปนี้มันจะออกแนวผลาญกำลังใจหรือเปล่าน่ะนะครับ เรื่องราวเกิดขึ้นที่อินโดนีเซียครับ ตัวเอกคือสกายลาร์ เชน (Janna Fassaert) นักชีววิทยาทางทะเล ที่ทำการศึกษาสัตว์ดึกดำบรรพ์อยู่แถบนั้น และเธอก็จ้างให้แจ็ค บาวแมน (Michael Paré) กัปตันเรือจ้างในย่านนั้นให้ช่วยนำพาเธอไปในทะเลเพื่อเก็บตัวอย่างมาศึกษา แล้วเธอก็ได้เจอกับทามาล (Monica Sayangbati)…

Split (2016) จิตหลุดโลก

ทำไมโปสเตอร์ของ Split ต้องเป็นรอยกระจกแตก? ตอนแรกผมไม่เอะใจนะ ก็คิดง่ายๆ ว่าคงเพราะเรื่องมันเกี่ยวกับบุคลิกที่แตกออกเป็น 23 ตัวตนของตัวเอก โปสเตอร์เลยทำเป็นรอยแตกซะ… แต่พอดูจบปุ๊บแล้วมาดูโปสเตอร์ใหม่ ก็ถึงบางอ้อเลยทีนี้ สำหรับผม หนังที่จะถือว่าเป็นผลงานที่ดีของพี่มาโนช (M. Night Shyamalan) ต้องมี 2 องค์ประกอบหลัก อย่างแรกคือ ต้องมีการเล่าเรื่องที่ดีครับ เพราะจริงๆ พี่เขาเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งนะ ถ้าเรื่องไหนเขาแม่นๆ ล่ะก็ เขาจะสามารถกำหนดทิศทางของเรื่องได้อย่างแม่นยำ อันจะเป็นการกำหนดความคิดและอารมณ์ของเราไปในตัวด้วย (ว่าง่ายๆ คือดูแล้วจะโดนดึงเข้าไปสู่เรื่องราวที่พี่แกเล่านั่นเอง) อย่างที่ 2 คือ ต้องมีแก่นเรื่องที่ดี…

Deadpool (2016) เดดพูล

สำหรับผมแล้ว Deadpool คือหนังแนวพระเอกเกรียนที่มีพลังพิเศษออกล่าล้างแค้นแบบสุดซอย มากกว่าจะเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่แบบเดิมๆ (หรือหากจะมองว่าเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่แนวใหม่ก็ได้เหมือนกันครับ แล้วแต่จะมอง) ดังนั้นความพอใจที่ผมมีต่อหนัง Deadpool เลยต่างจากเวลาดูพวก Iron Man, Batman หรือ X-Men ที่มันจะสนุกแบบดูซูเปอร์ฮีโร่ออกลวดลายกัน มีแพทเทิร์นแนวเดียวกัน มีตัวร้ายตัวดี มีแง่คิดลงสูตรครือๆ กัน Deadpool มาพร้อมความเกรียน มาพร้อมแอ็กชัน มาพร้อมการเดินเรื่องฉับไว และมาพร้อมกับเรื่องสะใจๆ แบบที่ผมอยากจะเห็น เช่น การจัดการกับผู้ร้ายแบบเด็ดขาดม้วนเดียวจบไปเลย ไม่ต้องโลกสวยให้โอกาสพวกนั้นกลับตัว เพราะการทำแบบนั้นส่วนใหญ่มักจะให้ผลร้ายมากกว่าดี ประมาณว่าพวกตัวร้ายกว่า 90% ก็กลับมาร้ายเหมือนเดิม และประเด็นคือคนที่จะเดือดร้อนก่อนเพื่อนเวลาผู้ร้ายกลับมาก็คือประชาชนตาดำๆ นี่แหละ ในขณะที่พวกฮีโร่ส่วนใหญ่กว่าจะเจอดีจากพวกผู้ร้ายก็อยู่ในตอนท้ายของลิสต์แทบทั้งนั้น Ryan Reynolds บอกว่าเขาจะรับบทซูเปอร์ฮีโร่จากหนังสือการ์ตูนเป็นตัวสุดท้ายแล้วครับ ในทีนี้คือถ้าในอนาคตมีหนังเดดพูลพี่ก็รับเล่นเหมือนเดิมนั่นแหละ แต่แกจะรับเล่นเป็นตัวละครซูเปอร์ฮีโร่หรือตัวละครจากหนังสือการ์ตูนอีกแล้ว ซึ่งจะว่าไปก็เข้าใจแกล่ะครับ…

เกมหักเหลี่ยมเฉือนคม (2018) Project Gutenberg

ได้ยินกิตติศัพท์มาว่าหนังชุดนี้มีดีใช้ไดก็เลยรอดูอยู่พักหนึ่งครับ (เพราะตอนที่รู้ หนังยังไม่เข้าไทย) ครั้นพอได้ดูก็ยอมรับเลยครับว่าของเขาดีจริง ดูสนุกในระดับที่น่าพอใจทีเดียว เรื่องราวว่าด้วยการตามล่าแก๊งปลอมธนบัตรที่หัวหน้าใหญ่ของแก๊งมีฉายาว่า The Painter (โจวเหวินฟะ) ชายลึกลับที่ไม่มีใครเคยเห็นหน้า นอกจากหลี่หมาน (กั๊วฟู่เฉิง) จิตรกรมือดีที่เคยร่วมงานกับ The Painter มาก่อน ทางตำรวจก็เลยพาตัวหลี่หมานมาเพื่อสอบสวนครับ แล้วในที่สุด The Painter จะโดนจับได้หรือไม่ คำตอบก็รออยู่ในหนังครับ ตัวหนังรสเข้มกำลังดีเลยครับ บอกได้เลยว่าเป็นหนึ่งในหนังจีนแนวแอ็กชันระทึกขวัญที่ทำออกมาได้น่าติดตาม งานโปรดักชั่นต่างๆ นับว่าถึงฟอร์ม ส่วนเรื่องดารานี่หายห่วงเลยครับดูแค่ โจวเหวินฟะ กับ กั๊วฟู่เฉิง 2 คนก็คุ้มแล้ว ส่วนดาราสมทบรายอื่นๆ ก็เสริมความเข้มให้กับหนังได้ดี…

Addicted to Love (1997) รักติดหนึบ

เคยดูเรื่องนี้จาก Big Cinema ครับ สารภาพว่าไม่ได้คาดหวังอะไรเลย เพราะรายได้และคำชมก็ออกมาแบบกลางๆ ค่อนไปทางลบ แต่ครั้นพอได้ดูแล้วก็รู้สึกว่าหนังทำออกมาได้โอเคครับ เรื่อยๆ ดี (มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องนะครับ) หนังมาในแนวตลกร้ายผสมโรแมนติกครับ เรื่องของแซม (Matthew Broderick) และแม็กกี้ (Meg Ryan) ที่มาร่วมมือกันเพื่อหาทางทำให้คู่รักอย่างแอนธอน (Tchéky Karyo) และ ลินดา (Kelly Preston) ต้องเลิกรากันไป เพราะทั้งคู่คืออดีตแฟนของพวกเขาครับ ดังนั้นแผนล้างรักล้างแค้นจึงดำเนินไปท่ามกลางความวุ่นวายสารพัด เรื่องนี้ Ryan มารับบทสาวแสบที่แก้เผ็ดแฟนเก่าซะแสบสันต์เชียว ในขณะที่ Broderick จะออกแนวเป็นลูกไล่ของเธอเสียมากกว่าครับ ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะพี่แกติดภาพลักษณ์หงอๆ แบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว…