Venom: Let There Be Carnage

Venom: Let There Be Carnage เป็นอีกหนึ่งในภาคต่อที่แฟนๆ รอคอยอยู่ไม่น้อยในปีนี้ เพราะทิ้งช่วงกว่าจะตีตลาดฉายบ้านเราก็เว้นระยะไปเป็นเดือนๆ จนกระแสแทบจะเหือดหายไปแล้ว และนี่คือ “Venom: Let There Be Carnage” การกลับมาสานต่อความสำเร็จของเจ้าปรสิตแฝงร่างมนุษย์ ที่กลายเป็นฮีโร่พันธุ์ขบถอีกหนึ่งขวัญใจของคนดู กลับมาคราวนี้ต้องมาเจอกับศึกหนักกับคู่ต่อกรที่เหนือกว่า แม้ว่าทุกๆ องค์ประกอบจะดูยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แต่ทำไมกลับรู้สึกว่า…หนังประดิษฐ์เกินเหตุไปเกือบทั้งเรื่อง Venom: Let There Be Carnage เล่าเรื่องราวสานต่อจากภาคที่แล้ว เอ็ดดี้ บร็อก พยายามจุดประกายไฟให้กับอาชีพสื่อมวลชนของเขา ด้วยการดั้นด้นเข้าไปสัมภาษณ์ฆาตกรต่อเนื่องผู้เลื่องชื่อ เคลตัส…

Encanto เมืองเวทมนตร์ คนมหัศจรรย์

Encanto เมืองเวทมนตร์ คนมหัศจรรย์ แน่นอนว่าหนึ่งในเอกลักษณ์อันโดดเด่นแบบฉบับงานการ์ตูนจากดิสนีย์นั้น ต้องยกให้กับงานสร้างสรรค์เสียงเพลงและมิวสิคัลเข้ากับท้องเรื่อง ที่กลายเป็นเหมือนเส้นเลือดหลักที่่แทบจะขาดไม่ได้ แม้ว่าช่วงยุคหลังๆ มนต์ขลังในส่วนนี้จะจางหายไปบาง แต่การมาของหนังแอนิเมชั่นเรื่องที่ 60 “Encanto เมืองเวทมนตร์ คนมหัศจรรย์” ก็ถือว่าเป็นการคืนฟอร์มให้กับการ์ตูนมิวสิคัลยี่ห้อดิสนีย์ได้อยู่ Encanto เมืองเวทมนตร์ คนมหัศจรรย์ เป็นเรื่องราวของครอบครัว ‘มาดริกัล’ ที่อาศัยในบ้านเวทมนตร์ที่ซ่อนตัวอยู่กลางภูเขาในโคลอมเบีย ในเมืองสุดมหัศจรรย์ที่เรียกว่า ‘เอนคานโต’ เวทมนตร์แห่งเอนคานโตมอบพลังวิเศษที่แตกต่างกันให้กับเด็กทุกๆ คนในครอบครัวมาดริกัล ตั้งแต่พลังกายอันมหาศาล พูดคุยกับสัตว์ เสกดอกไม้ ไปจนถึงพลังแห่งการฟื้นฟูร่างกาย ยกเว้น มิราเบล สาวน้อยธรรมดาเพียงหนึ่งเดียวในบ้านมาดริกัลที่ไม่มีพลังพิเศษอะไรเหมือนคนอื่น จะว่าไปหนังแอนิเมชั่นเรื่องของดิสนีย์นั้นก็ดูดร็อปต่างไปจากเรื่องอื่น…

แค้นมือกระบี่ (1980) The Sword

เรื่องราวแนวกำลังภายในที่ครบสูตรตามแบบฉบับครับ ไม่ว่าจะเรื่องของบุญคุณความแค้น ความรักความห่วงหา การฆ่าฟันเพื่อให้ได้มา และการชิงความเป็นหนึ่ง หลี่มู่หลาน (เจิ้งเส้าชิว) คือยอดฝีมือในยุทธภพ ที่แม้จะมีความเก่งกล้า แต่ก็ต้องมาผิดหวังในรัก เมื่อเสี่ยวหยู หญิงที่เขารัก จำใจต้องแต่งงานกับหลินหวั่น (ฉีเส้าเฉียน) และเมื่อหลินหวั่นล่วงรู้ เขาก็ให้มือขวาคนสนิท (เกาสง) หาทางปลิดชีพของหลี่มู่หลาน นอกจากเรื่องความรักความแค้นแล้ว ยังมีเรื่องการช่วงชิงกระบี่จากยอดฝีมืออีกครับ อย่างที่บอกว่าหนังมีครบแบบไม่มีขาดเลยจริงๆ สำหรับหนังแนวยุทธภพแบบนี้ ตัวหนังนั้นถือว่าทำได้ดีครับ เพียงแต่หากนำมาดูในปัจจุบันเราก็อาจรู้สึกได้ถึงความเนิ่บช้าของเรื่องราว หรืองานด้านฉากที่แม้จะถือว่าดีมีระดับในยุคนั้น แต่ก็อาจจะดูธรรมดาหากเอามาเทียบกับหนังสมัยใหม่ แต่ข้อดีคือหนังมีดาราระดับแม่เหล็กอย่างเจิ้งเส้าชิวและฉีเส้าเฉียนมาแสดงครับ ไหนจะดาราลายครามอยางเทียนเฟิงอีก และนอกจากนี้คิวบู๊ฟันดาบก็ถือว่าทำได้ดุดันเร้าใจไม่น้อย ที่ทำให้ติดตาเลยคือไคลแม็กซ์ฉากสุดท้ายเมื่อพระเอกและผู้ร้ายประมือกัน…

Rise of the Planet of the Apes (2011) กําเนิดพิภพวานร

“ชีวิตย่อมมีหนทางของมัน” Jurassic Park ว่าไว้ “… หนทางนั้นมีได้ ทั้งทางดีและทางร้าย” อันนี้ผมดู Rise of the Planet of the Apes แล้วนึกต่อขึ้นมาครับ หนังชุดพิภพวานรมักว่าด้วยผลแห่งการกระทำในด้านลบของมนุษย์ อย่างหนังฉบับดั้งเดิมนั้น ก็เพราะมนุษย์เอาเวลาไปล้างผลาญแทนที่จะสร้างสรรค์ วานรเลยลุกขึ้นมาเป็นใหญ่ สำหรับฉบับใหม่นี้ ก็ถือว่าสะท้อนการกระทำด้านมืดของคนเช่นกันครับ เพราะการที่วานรอย่างซีซาร์ลุกขึ้นมาก่อการก็เนื่องด้วยการกระทำอันเลวร้าย+ความกลัวในสิ่งที่ยังไม่เข้าใจ ผลที่ได้เลยกลายเป็นความโกลาหล ถ้าทุกคนปฏิบัติต่อซีซาร์แบบที่วิล (James Franco) ทำ ผลลัพธ์จะออกมาแบบไหน? ซีซาร์ก็เปรียบได้กับเด็กแรกเกิดครับ…

Bon Cop Bad Cop 2 (2017) คู่มือปราบกำราบนรก 2

อีกหนึ่งหนังแอ็กชันสืบสวนสายฮาที่ภาคแรกทำออกมากลมกล่อมกำลังดี จนบอกได้เลยครับว่าหนังดูเพลินมาก แต่ก็ต้องบอกก่อนว่ามันไม่ได้แอ็กชันระเบิด Leathal Weapon และไม่ได้เอาฮาหนักๆ แบบ Rush Hour ภาคแรกเป็นจุดเริ่มต้นที่ 2 ตำรวจคนละขั้วมาเจอกัน คนแรกคือ เดวิด บูชาร์ด (Patrick Huard) ตำรวจสายลุยที่ประจำอยู่ในรัฐควิเบก กับมาร์ติน วอร์ด (Colm Feore) ตำรวจสายเนี๊ยบที่ทำงานอยู่ในรัฐออนแทรีโอ พอดีว่าภาคแรกมีศพมาตกอยู่เขตกึ่งกลางระหว่าง 2 รัฐน่ะครับ พวกเขาเลยต้องทำงานกัน ซึ่งรสชาติก็สนุกดี และถือว่าแปลกใหม่พอตัวเพราะเป็นการจับเอาตำรวจแคนาดามาเป็นตัวเอก ซึ่งจะว่าไปบ้านก็ไม่ค่อยได้ดูหนังสืบสวนจากแคนาดาสักเท่าไร…

Severus Snape and the Marauders (2016)

เป็นผลงานหนังสั้นจากฝีมือของแฟนๆ Harry Potter ครับ ซึ่งผมดูแล้วรู้สึกชอบอยู่ไม่น้อย เพราะถือว่าทำออกมาได้ดีและมีการใส่ใจรายละเอียดค่อนข้างมาก อีกทั้งยังเหมือนเป็นการเติมเต็มอะไรบางอย่างในไทม์ไลน์ของหนังชุดนี้ด้วย โดยคนทำก็คือ Justin Zagri ที่เคยมีผลงานหนังสั้นเรื่อง The Greater Good มาก่อน โดยเรื่องนั้นจับเอาเหตุการณ์การเผชิญหน้าครั้งสำคัญระหว่างอัลบัส ดัมเบิลดอร์กับเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์มาบอกเล่า สำหรับเรื่องนี้ก็ว่าด้วยเหตุการณ์การเผชิญหน้าเช่นกันครับ ระหว่างเซเวอรัส สเนป (Mick Ignis) กับเจมส์ พอตเตอร์ (Garrett Schweighauser) และพรรคพวก ในช่วงที่พวกเขากำลังจะจบจากฮอกวอตส์และเลือกทางเดินของตนเอง หนังยาวประมาณ 23 นาทีครับ…

A Twist of Christmas (2018)

เรื่องวุ่นๆ เริ่มต้นในช่วงคริสต์มาสครับ เมื่อคุณพ่อและคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคู่หนึ่งเกิดสลับของเล่นที่ตั้งใจจะซื้อไปให้ลูกของพวกเขา นั่นเลยทำให้แผนคริสต์มาสของพวกเขาพังทั้งคู่ แต่แม้พวกเขาจะเข้ากันไม่ได้ในตอนแรก แต่ด้วยความจำใจพวกเขาเลยต้องร่วมมือกันกอบกู้วันคริสต์มาสพังๆ ของพวกเขา ให้กลับมาเต็มไปด้วยความสุขเพื่อลูกๆ ให้จงได้ พอเห็นฉากพ่อแม่แย่งกันซื้อของเล่นก็นึกถึงเรื่อง Jingle All the Way ตอนแรกก็นึกว่าหนังจะมาทางนั้น แต่ก็เปล่าครับ หนังเลือกจะเดินไปในแนวเบาสมองผสมดราม่านิดๆ และมีความโรแมนติกใส่ลงไปด้วย ถ้าถามว่าหนังเป็นอย่างไร ก็ตอบแบบตรงๆ ว่า โอเคครับ ไม่ได้สุดยอด แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อจนเกินไป เรียกว่าพอดูได้แบบเรื่อยๆ ครับ มีหลายฉากเหมือนกันที่บรรยากาศทำได้สวยงามดี เพียงแต่อารมณ์โรแมนซ์ของหนังยังไม่เด่นพอ และเคมีของดาราก็ยังไม่มากเท่าที่ควร ตัวหนังก็ถือว่าเน้นเป็นหนังโรแมนติกครับ…

Shoelaces for Christmas (2018)

หนังวันคริสต์มาสที่จริงๆ แล้วมีประเด็นตั้งต้นที่น่าสนใจมากครับ เพียงแต่การเล่าเรื่องและการเดินเรื่องยังไม่ลงตัว และยังไม่ก่อให้เกิดพลังมากพอ เลยทำให้หนังอยู่ในระดับกลางๆ พล็อตหลักว่าด้วยเด็กสาววัยรุ่นที่คิดถึงแต่ตัวเองครับ เธอไม่คิดถึงคนรอบตัวจนเกือบจะถึงขั้นเห็นแก่ตัว จนพ่อของเธอก็ยังรู้สึกกังวล แต่แล้วเมื่อเธอได้พบเจอกับหญิงที่ทำหน้าที่ดูแลคนไร้บ้านในเมือง เธอก็เริ่มได้เรียนรู้ที่จะเปิดใจและมีเมตตาให้กับคนอื่นมากขึ้น อย่างที่บอกครับว่าพล็อตตั้งต้นนั้นน่าสนใจ เพราะมันว่าด้วยเรื่องของเด็กที่เห็นแก่ตัว ที่ค่อยๆ เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ซึ่งหนังแบบนี้ถ้าทำดีๆ ก็จะได้ทั้งแง่คิดและสร้างความประทับใจได้เลยครับ เพียงแต่กับเรื่องนี้แล้ว หนังออกมากลางๆ คือตัวหนังก็เล่าเรื่องไปเรื่อยๆ แต่มันไม่ได้ก่อให้เกิดอารมณ์ร่วมสักเท่าไร เหมือนเล่าเป็นฉากๆ แต่องค์ประกอบต่างๆ ของหนังยังไม่มีพลังพอ มันเลยเป็นการเล่าแบบไปเรื่อยๆ แต่ไม่ก่อให้เกิดความประทับใจหรือสะเทือนใจสักเท่าไร จริงๆ เราเดาตอนจบได้ตั้งแต่เริ่มครับ ว่านางเอกต้องเปลี่ยนตัวเองได้อย่างแน่นอน เพียงแต่กระบวนการและเหตุการณ์ระหว่างทางมันยังไม่เข้มข้นจนทำให้เราเชื่อได้ ผลที่ได้ก็เลยเป็น…

T2 Trainspotting (2017) แก๊งเมาแหลก พันธุ์แหกกฎ 2

Trainspotting ภาคแรกถือเป็นหนังแสบระดับตำนานที่แจ้งเกิดให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะผู้กำกับ Danny Boyle หรือดารานำอย่าง Ewan McGregor และ Robert Carlyle และทำให้คอหนังสมัยนั้นสะใจกับเรื่องราวหลุดโลกของมัน แก่นสารสำคัญอย่างหนึ่งในภาคแรกคือ “ความไร้แก่นสาระของเหล่าตัวละคร” ครับ พวกเขาเสพยา มั่วเซ็กซ์ ใช้ชีวิตไปวันๆ แบบเอาเฮเอาฮา ซึ่งก็สะท้อนชีวิตของคนกลุ่มนี้ได้อย่างน่าสนใจ แต่ก็ต้องดูแบบใช้วิจารณญาณพอสมควรในการกลั่นกรอง “สาระสอนชีวิต” ออกมาจากมัน สำหรับภาค 2 นี่ก็เล่าถึง 20 ปีจากภาคแรก หลังจาก เรนตัน…

Skyscraper (2018) ระห่ำตึกเสียดฟ้า

ไม่ว่าจะก่อนดู ระหว่างดู หรือหลังดูหนังเรื่องนี้จบ ความคิดที่อยู่ในหัวผมตลอดๆ ก็คือ “นี่มัน Die Hard นี่ครับ” 555 มันคือ Die Hard จริงๆ นะครับ ตัวเอกต้องลุยเดี่ยวในตึกสูง ฝ่าไฟ ฝ่ากระสุน ฝ่าระเบิดไปช่วยลูกเมียและผู้บริสุทธิ์ ต้องเจอกับวายร้ายที่หมายยึดตึกและก่อการชั่ว มีฉากแอ็กชันระหว่างทาง มีเรื่องให้ลุ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าหนังจะจบ เรียกว่ามาสูตรเดียวกันเป๊ะเลย แต่ก็อย่างที่ผมบอกเสมอครับ จะสูตรเก่าสูตรใหม่ก็ไม่ว่ากัน ขอให้ทำออกมาแล้วมันส์สะใจก็พอ และผลลัพธ์ของหนังเรื่องนี้ก็ถือว่ากลางๆ ครับ คือดูเอาเพลินได้เรื่อยๆ…