Blacklight โคตรระห่ำ ล้างบางนรก
ว่ากันว่าทุกๆ ปีเราจะต้องมีโอกาสได้ดูผลงานของ “เลียม นีสัน” บนจอใหญ่อย่างน้อย 1 เรื่อง และในปีนี้เริ่มต้นปีแค่ไม่กี่สัปดาห์เราก็ได้เห็นหนังบู๊ของลุงเลียมเรื่องล่าสุดออกมาสู่สายตาผู้ชมแล้ว นั่นก็คือ “Blacklight” (โคตรระห่ำ ล้างบางนรก) ที่มาพร้อมกับแนวแอคชั่นระทึกขวัญที่สอดแทรกประเด็นการเมืองการปกครองเอาไว้ได้เข้มข้น เพียงแต่ว่ากลั่นกรองออกมาเป็นหนังที่จุดติดเครื่องได้ช้าไปสักหน่อย…
Blacklight โคตรระห่ำ ล้างบางนรก เป็นเรื่องราวของ ทราวิส บล็อค สายลับไร้ตัวตน ผู้ได้รับภารกิจบางอย่างจนได้ค้นพบความลับอันชั่วร้ายของเอฟบีไอ ที่มีชีวิตคนบริสุทธิ์กว่าหลายคนเป็นเดิมพัน เขาจึงต่อต้านและพยายามต่อสู้เพื่อความถูกต้อง แต่กลับวุ่นวายขึ้นเมื่อครอบครัวของเขาถูกดึงเข้ามาเสี่ยงด้วย และอดีตของเขายังตามมาค้ำคออีก เขาจึงต้องปกป้องคนที่เขารัก และเปิดโปงความชั่วร้ายขององค์กรเพื่อล้างมลทินให้ตัวเอง
นี่คือผลงานของผู้กำกับ “มาร์ค วิลเลียมส์” ที่ถือว่าเป็นงานกำกับหนังเรื่องที่ 3 ของเขา หลังจากที่สั่งสมประสบการณ์เป็นโปรดิวเซอร์หนังแอคชั่นมายาวนาน โดยครั้งนี้ถือว่ากลับมาทำงานกับลุงเลียมอีกครั้ง หลังจากผลงานเรื่องก่อนอย่าง Honest Thief ซึ่งเขายังได้ร่วมเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วย โดยต้องยอมรับว่า Blacklight มาพร้อมกับประเด็นที่ขึงขัง สอดแทรกปมการเมืองเอาไว้ได้ค่อนดีน่าสนใจ เพียงแต่ว่าการนำเสนอและเล่าเรื่องของนั้นยังไม่เชียบขาดและไม่น่าสนใจเพียงพอ
ปัญหาหลักๆ ของ Blacklight คือการเล่าเรื่องค่อนข้างขาดเสน่ห์และใส่รายละเอียดเยอะเกินไป หนังเสียเวลากับการปูเรื่องไปค่อนข้างนานเกือบเป็นชั่วโมง กว่าจะจุดเครื่องติดและเร่งเครื่องสู่โหมดบู๊สนุกที่ควรจะเป็น แต่จังหวะที่ช้าเกินไปของนั้นก็เกือบจะทำลายหนังทั้งเรื่องไปอย่างน่าเสียดาย เอาเข้าจริงๆ ไคลแมกซ์ช่วงท้ายของเรื่องก็เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จเดิมๆ ที่ไร้ความแปลกใหม่ และแทบไม่มีอะไรให้น่าจดใจ กลายเป็นบทสรุปที่รวบรัดและดูลวกๆ ไปสักหน่อยด้วย
เลียม นีสัน ก็ยังคงเป็นลุงเลียมขาบู๊ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่เห็นได้ชัดว่าหนังเรื่องนี้ลุงก็โรยราและดูเหนื่อยอยู่ไม่น้อย เสน่ห์ของตัวละครที่เขาได้รับเกือบจะแบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ไม่อยู่ เนื่องจากเป็นคาแรกเตอร์ที่ดูเหมือนจะมีอะไรที่น่าสนใจ แต่หนังกลับไม่สามารถขับอินเนอร์นั้นๆ ออกมาได้อย่างเต็มที่ สุดท้ายก็กลายเป็นแค่คาแรกเตอร์ที่ดาดดื่นธรรมดาๆ ที่ไร้ความน่าค้นหาและไร้เสน่ห์ที่ชวนทำให้ต้องลุ้นติดตามไปด้วย
อย่างที่บอกว่า Blacklight มีประเด็นสอดแทรกทางการเมืองที่ค่อนข้างน่าสนใจไม่เบา เพียงแต่ว่าไม่สามารถขับเสน่ห์ออกมาได้เช่นกัน ด้วยจังหวะการเล่าเรื่องที่ราบเรียบเกินไป หนังเล่าผ่านไปเกือบจะชั่วโมงยังค่อนข้างน่าเบื่อและดูไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอัน ต้องรอกว่าไฟจะสปาร์กติดขึ้น จึงสามารถช่วยยกระดับความสนุกตามท้องเรื่องได้ขึ้นนิดหน่อย แต่โดยภาพรวมก็ถือว่าการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้น่าผิดหวังไปไม่น้อย และน่าเสียดายประเด็นเข้มข้นที่ใส่เข้ามา ที่ถือว่าเสียดสีสังคมได้ไม่น้อยเลย
ด้วยจังหวะเช่นนี้จึงพลอยทำให้รัศมีของนักแสดงสมทบคนอื่นๆ ถูกกลืนหายไปอย่างน่าเสียดายด้วย ไม่ว่าจะเป็น “เอ็มมี เรเวอร์-แลมพ์แมน”, “เทเลอร์ จอห์น-สมิธ”, “ไอแดน ควินน์” ที่กลายเป็นแค่ตัวละครประกอบที่ใส่เข้ามาให้เต็ม โดยที่หนังค่อนข้างทิ้งขว้างคาแรกเตอร์พวกนี้ ทั้งที่สำคัญแต่เหมือนจะไม่สำคัญสักเท่าไหร่ จุดนี้อีกนิดเดียวก็จะกลายเป็นสไตล์หนังเกรดบีไปแล้ว
เอาเป็นว่า หนังบู๊เรื่องนี้ของลุงเลียม ที่ยังถูกถือว่ามาตามสูตรสำเร็จเดิมๆ แต่ค่อนข้างทำให้รู้สึกน่าผิดหวังไปสักหน่อย เพราะจังหวะและการเล่าเรื่องที่เรื่อยเปื่อย ขาดเสน่ห์ทีชวนติดตาม อีกทั้งยังปูเรื่องได้ช้าเนิบไปสักหน่อย สุดท้ายก็เข้าสูตรเดิมๆ ของการบูู๊ไล่ล่าแบบมันส์ แต่ก็มันส์ไม่สุดสักทางอยู่ดี แต่หากว่าใครที่ชอบดูหนังบู๊ของลุงเลียมก็อาจจะต้องตามเก็บเรื่องนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องที่สนุกที่สุด แต่เสน่ห์ของลุงก็ยังเปล่งประกายอยู่ไม่เลือนหาย
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Blacklight โคตรระห่ำ ล้างบางนรก
- ประเภท: แอคชั่น / ทริลเลอร์
- ผู้กำกับ: มาร์ค วิลเลียมส์
- นำแสดงโดย: เลียม นีสัน, ไอแดน ควินน์, เอ็มมี เรเวอร์-แลมพ์แมน
- ความยาว: 104 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 24 กุมภาพันธ์ 2022 (ในโรงภาพยนตร์)
Movie.TrueID METRIC: Blacklight โคตรระห่ำ ล้างบางนรก
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5/10)
————————————-