หนังแนวไร้พิษภัยของค่าย Walt Disney อีกเรื่องหนึ่งครับ ซึ่งจริงๆ หนังเรื่องนี้มีการเตรียมงานสร้างมาพร้อมๆ กับ Mary Poppins (1964) แต่พอถึงจุดหนึ่งก็ทางค่ายก็มองว่าเทคนิคพิเศษในเรื่องนี้ค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อนก็เลยเปลี่ยนไปทำ Mary Poppins แทน แล้วก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่พักหนึ่งครับ จนไปๆ มาๆ ทำท่าว่าโปรเจคท์นี้จะถูกแขวนแบบถาวร
ทีนี้พอหนังทำท่าจะถูกยุบ ทาง Sherman brothers ที่เป็นคนทำเพลงให้กับหนังเรื่องนี้ก็ไม่เห็นด้วยล่ะครับ เพราะจริงๆ โครงการหนังก็ทำมาได้เยอะพอสมควรแล้ว พวกเขาเลยผลักดันโปรเจคท์นี้จนในที่สุด Disney ก็ยอมทำต่อจนเสร็จครับ (แต่กว่าจะได้ออกฉายก็ปาเข้าไปปี 1971 ตั้งหลายปีหลังจาก Mary Poppins)
เรื่องราวเล่าย้อนไปช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ เด็กกำพร้า 3 คนอันได้แก่ ชาร์ลี (Ian Weighill), แคร์รี่ (Cindy O’Callaghan) และพอล (Roy Snart) ถูกส่งมาให้คุณไพรซ์ (Angela Lansbury) ผู้ร่าเริงคอยดูแล แล้วสักพักพวกเด็กๆ ก็ค้นพบว่าคุณไพรซ์คนนี้เป็นแม่มดฝึกหัดครับ แล้วนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องวุ่นๆ อีกทั้งการผจญภัยที่สุดล้ำจินตนาการ
ตัวหนังก็ชวนให้นึกถึง Mary Poppins จริงๆ นั่นแหละครับ แนวทางคล้ายๆ กัน แต่โดยส่วนตัวแล้วผมว่า MP จะลงตัวและกลมกล่อมกว่า กระนั้นสำหรับเรื่องนี้ก็ถือว่าดูได้เรื่อยๆ ครับ เป็นหนังสำหรับเด็กที่มีฉากร้องเพลงแทรกเป็นพักๆ ซึ่งเพลงก็เพราะดีครับ ดูแล้วเข้าใจเลยว่าพี่น้อง Sherman ที่ทำเพลงให้กับหนังเขาตั้งใจทำจริงๆ แต่ละเพลงมีเนื้อหาที่ดี เนื้อร้องสละสลวย และไพเราะ คงเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างมากน่ะครับหากเพลงที่พวกเขาแต่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกเผยแพร่ออกมา
Lansbury แสดงได้น่ารักดีครับ แรกเริ่มเดิมทีนั้นคนที่จะมาเล่นบทนี้ก็คือ Julie Andrews แต่เธอก็บอกปัดไปครับ ก่อนที่จะเปลี่ยนใจอยากกลับมาเล่น แต่พอดีตอนนั้น Lansbury ตอบตกลงแล้ว Andrews เลยไม่ได้มาเล่น เหล่าเด็กๆ ก็แสดงได้ดีเช่นกัน แต่คนที่เด่นและขโมยซีนเกือบตลอดเลยก็คือ David Tomlinson ในบทชายจอมกะล่อน เอมิลิอุส รายนี้แสดงได้ดีเสมออยู่แล้วครับ โดยเฉพาะบทฮาๆ เป๋อๆ นี่ขอยกนิ้วให้เลย เรียกได้ว่าเป็นสีสันชั้นดีให้กับหนังเลยล่ะ
ไฮไลท์สำคัญของหนังนอกจากฉากร้องเพลงแล้วก็คือเทคนิคพิเศษครับ ฉากที่เหล่าตัวละครต้องแสดงร่วมกับตัวการ์ตูน หรือตอนท้ายที่มีฉากเล่นเอฟเฟคท์เยอะพอตัว จนไม่แปลกใจครับที่หนังจะได้ออสการ์สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยมไปครอง ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ได้รับการบันทึกว่าเป็นหนังแบรนด์ Disney เรื่องสุดท้ายที่ได้รับออสการ์ในช่วงยุค 70 ซึ่งหลังจากนั้นหนัง Disney ก็ไม่ได้ออสการ์อีกเลยจนกระทั่งการมาของ The Little Mermaid ในปี 1989
หนังกำกับโดย Robert Stevenson เจ้าเก่าจาก Mary Poppins และ The Love Bug นอกจากนี้ก็ยังได้ Ward Kimball มาช่วยกำกับในฉากที่เป็นการ์ตูน
เรื่องนี้โดยรวมแล้วหนังทำออกมาได้ดีครับ ช่วงต้นอาจจะเรื่อยๆ ไปบ้างตามสไตล์ของหนังยุคเก่า แต่พอถึงช่วงที่คุณไพรซ์ปรากฏตัวหนังก็น่าสนใจขึ้น และความสนุกจะเริ่มมาเยอะๆ ก็ตอนที่เอมิลิอุสมานี่แหละครับ จัดว่าดูสนุก ดูเพลิน แต่ในแง่ของความประทับใจกับเรื่องชวนซึ้งนั้น หนังเรื่องนี้อาจไม่มีให้ครับ จุดนี้ถือว่าเป็นจุดที่ทำให้ Mary Poppins มีความเหนือกว่าเพราะเรื่องนั้นสามารถสอดแทรกเรื่องประทับใจเข้ามาได้อย่างพอเหมาะ ในขณะที่เรื่องนี้จะเน้นสนุกสนานเป็นหลักครับ
สองดาวครึ่งได้ครับ
(7/10)