A Tourist’s Guide to Love (2023) คู่มือรักฉบับนักท่องเที่ยว

Untitled09295

A Tourist’s Guide to Love ทำให้ผมมีความสุขทั้งตอนระหว่างดูและหลังดูจบครับ

ว่าตามจริงมันอาจเป็นเพียงหนังรักโรแมนติกอีกเรื่องที่ Netflix ผลิตออกมา และหนังอาจไม่ได้ยอดเยี่ยมเจ๋งเป้งอะไรมากมาย แต่ผมว่ามันทำหน้าที่ได้อย่างพอเหมาะไม่ว่าจะตอบโจทย์บันเทิง เล่าเรื่องรักๆ พาไปเที่ยวที่สวยๆ และสอดแทรกอะไรๆ ที่มัน Feel Good

พล็อตเล่าง่ายครับ อแมนด้า ไรลี่ย์ (Rachael Leigh Cook) ทำงานด้านท่องเที่ยวและเธอกำลังเฮิร์ตเพราะเพิ่งแยกทางกับแฟนหนุ่ม เธอเลยตัดสินใจเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวเวียดนามโดยใช้บริการบริษัททัวร์ท้องถิ่นซึ่งในเวลาเดียวกันเธอก็ต้องทำการประเมินว่าบริษัทแห่งนี้ควรค่าแก่การซื้อกิจการหรือไม่

แล้วเธอก็ได้เจอกับซินห์ (Scott Ly) หนุ่มเวียดนามที่พาเธอทัวร์ทั่วเวียดนามในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร

อ่านพล็อตแล้วน่าจะเดาอะไรๆ ได้หมดล่ะนะครับ ตั้งแต่คู่พระนางที่ดูก็รู้ว่าจะต้องตกหลุมรักกันแน่ๆ รวมถึงปมขัดแย้งที่จะทำให้พระนางคู่นี้ทะเลาะกันในตอนที่หนังเดินไปค่อนเรื่อง ก่อนจะพาเราไปสู่บทสรุปชวนลุ้นนิดๆ ว่าพระนางจะกลับมาคืนดีกันได้อย่างไร

Untitled09296

ถือเป็นหนังรักเบาๆ ที่ดูสบายครับ อาจมีขาดบ้างเกินบ้างไม่ว่าจะในแง่การเดินเรื่อง การแสดง หรือเรื่องบท แต่โดยรวมแล้วผมว่าใช้ได้นะ อย่างแรกเลยที่ประทับใจผมต้องยกให้ภาพวิวต่างๆ ของเวียดนามครับ หนังว่าด้วยเรื่องการท่องเที่ยว แล้วหนังก็เหมือนพาเราไปเที่ยวเวียดนามจริงๆ มีสถานที่สวยๆ ธรรมชาติงามๆ ให้ดูเยอะมาก และที่ต้องขอชมเลยคือฝีมือของ Jon Keng ผู้กำกับภาพที่จับภาพมาขึ้นจอได้แบบขึ้นกล้องสุดๆ ตั้งแต่ภาพถนนในเมืองที่มีสีสันของร้านค้าตัดกันอย่างพอเหมาะ ยาวไปจนถึงภาพธรรมชาติป่าเขาท้องทุ่งอันเขียวขจี คือสวยมากน่ะครับ สวยเลยจริงๆ

ผมนี่ตายแบบจริงๆ จังๆ ตอนหนังเดินเรื่องไปถึงเมืองฮอยอันน่ะครับ แค่ภาพแรกซีนแรกของเมืองนี่ก็สวยถึงตายแล้ว ไหนจะภาพตรอกซอกซอยที่มีโคมไฟประดับอีก พูดได้เต็มปากเลยครับว่าพระเอกตัวจริงของหนังคืองานภาพนี่แหละ นอกจาก Keng จะนำภาพสวยๆ มาฝากแล้ว เขายังสามารถจับอารมณ์และบรรยากาศของสถานที่นั้นๆ ใส่ลงมาได้อย่างดี ทำเอาอยากไปเที่ยวบ้างเลยล่ะครับ

อย่างต่อมาที่ผมชอบคือบทครับ โอเค เรื่องของบทนั้นอาจไม่ได้เข้มหรือเจ๋งแบบจัดๆ แต่ผมสัมผัสได้ถึงความน่ารักนะ รู้สึกเลยว่าคนเขียนบทมีความตั้งใจในการนำเสนอ จับเอาสูตรของหนังรอมคอมมาใส่ลงไป นั่นนิดนี่หน่อย – คนเขียนบทคือ Eirene Tran Donohue ซึ่งแม่ของเธอเป็นชาวเวียดนามครับ ส่วนคุณพ่อเป็นชาวบอสตัน โดยพ่อแม่ของเธอนั้นได้เจอกันครั้งแรกที่เมืองไซง่อน เมื่อประมาณปี 1968 พ่อของเธอเป็นทหารเรือและยังเป็นกวีอีกด้วย เขาได้เจอกับแม่ของเธอในบาร์แห่งหนึ่ง ได้สนทนากันและประทับใจในกันและกัน ก่อนจะเอ่ยคำลาต่างคนต่างกลับ

แต่กลายเป็นว่าวันถัดมา แม่ของเธอไปโผล่หน้าสำนักงานที่พ่อทำงานอยู่พร้อมบอกว่ามอเตอร์ไซค์ของเธอเสียอันเป็นเหตุให้พวกเขาได้มีเวลาร่วมกัน แล้วจากนั้นอีกไม่กี่วันพ่อของเธอก็ไปยืนอยู่หน้าบ้านพร้อมบอกว่ารถจี๊ปของเขาเสียพอดีอีก แล้วเขาก็เลยขอชวนเธอเดทในวันนั้นเลย แล้วนั่นล่ะครับคือจุดเริ่มต้นของความรักที่ยืนยาวกว่า 50 ปี พร้อมมีพยานรักตามมาอีก 6 คน โดย Eirene Tran Donohue เป็นน้องนุชสุดท้องครับ – “สูตรหนังรอมคอมอยู่ในสายเลือดของฉันค่ะ” เธอสรุปให้ฟัง

แล้วผมก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ น่ะครับ คือโดยรวมบทอาจยังไม่ลงตัวเต็มร้อย แต่มันก็มีอะไรน่ารักๆ แฝงอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่มุกมาตรฐานอย่างฉากพระเอกนางเอกแอบมองกันไปกันมา หรือฉากแลกเปลี่ยนความคิดแสดงตัวตนของกันและกัน รวมถึงตัวละครแวดล้อมที่ผลัดกันมาชงเรื่องชงรักให้พระนางได้ใกล้ชิดกัน ไหนจะมุก Feel Good ที่ชวนเราอมยิ้มอีก และที่ผมชอบสุดคงต้องยกให้บทสรุประหว่างนางเอกกับแฟนเก่าน่ะครับ ผมว่าเป็นการแลนดิ้งที่ดีไม่น้อยเหมือนกัน ดังนั้นในเรื่องของบทนี่ผมถือว่ามัน “มีของ” อยู่ไม่น้อยครับ

Untitled09297

ผู้ที่รับหน้าที่กำกับคือ Steven K. Tsuchida ที่โตมากับสายงานกำกับซีรี่ส์และหนังทีวีครับ ก่อนหน้านี้ก็กำกับ Resort to Love ให้ Netflix แล้วก็กำกับบางตอนของ Cobra Kai (ปี 3 กับปี 5) ด้วย จังหวะการเดินเรื่องก็ถือว่าเรื่อยๆ ครับ ดูโอเคตามสไตล์หนังรอมคอม ส่วนความกลมกล่อมก็ถือว่ากลางๆ อย่างที่บอกว่าดูเหมือนบทมันมีของน่ะครับ แต่การนำเสนอยังดูขาดๆ เกินๆ ในบางวาระ ลูกเล่นในแง่การเดินเรื่องก็ยังไม่มาก และกลายเป็นว่าผมสะดุดตากับองค์ประกอบอื่นๆ ที่น่าจะมาจากบทมากกว่า (โดยเฉพาะช่วงที่ซินห์มาลูกทัวร์ไปเจอคุณย่าเป็นต้น)

นักแสดงก็ถือว่าดีครับ Rachael Leigh Cook ก็ยังดูน่ารักอยู่ ส่วน Scott Ly ก็ดูมีเสน่ห์แบบหนุ่มเอเชียที่ดูบ้านๆ ลุยๆ และมีความเป็นตัวของตัวเอง แม้ระหว่างดูจะแอบรู้สึกว่าพี่แกตั้งหน้าตั้งตาจีบจนออกหน้าออกตาไปหน่อยก็ตาม ในขณะที่บทอื่นๆ ถือว่าเป็นบทแวดล้อมครับ ยังไม่มีใครเด่นหรือขโมยซีน แม้แต่ Missi Pyle ที่มักจะขโมยซีนบ่อยๆ ก็ยังดูเรื่อยๆ สำหรับเรื่องนี้

แต่รายที่ผมชอบมากเป็นพิเศษต้องยกให้ Nsut Le Thien ในบทคุณย่าของซินห์ครับ ผมว่าย่าเขาน่ารักมากเลยนะ และยังแสดงความรู้สึกผ่านแววตาได้ดี คือดูออกเลยน่ะครับว่าย่าเขาคิดอะไรอยู่ เป็นชูรสที่เยี่ยมเอาการสำหรับหนังเรื่องนี้ครับ – ยกเว้นใครไม่ถูกเส้นกับบทแบบนี้ก็อาจมองว่าย่าเขาดูจุ้นจ้าน ก็อาจจะแล้วแต่บุคคลครับ ส่วนผมนั้นชอบนะ ย่าเขาน่ารักดี

อีกหนึ่งของดีคือเพลงประกอบเลือกมาได้เหมาะครับ ไพเราะเป็นส่วนใหญ่และยังเข้ากับอารมณ์ของฉากนั้นๆ ด้วย

ระหว่างผมพิมพ์นี่ผมยังยิ้มเป็นพักๆ เลยนะ คือหนังมันอาจไม่สุดไม่ยอด แต่มันบันเทิงครับ มันตอบโจทย์ความบันเทิงและ Feel Good ได้ไม่เลว ยิ่งเรื่องภาพเรื่องวิวนี่ยกนิ้วให้เลย – ส่วนหนึ่งมันรู้สึกเหมือนได้ผ่อนคลายด้วยน่ะครับ หลังจากทำงานมาเยอะๆ ได้ดูหนังแบบไม่ต้องคิดมาก รอมคอมไปเรื่อยๆ ดูวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยๆ ฟังเพลงไปเรื่อยๆ แค่นี้ก็ผ่อนคลายแล้วล่ะ – ว่าง่ายๆ คือผมได้ดูหนังเรื่องนี้แบบถูกจังหวะครับ กำลังเหนิื่อยๆ อยากเบาๆ ก็ได้สมใจ

ใครอยากผ่อนคลายและโอเคกับหนังรัก Netflix เรื่องนี้ผมว่าตอบโจทย์ครับ

สองดาวกว่าๆ ครับ

Star21

(6.5/10)

Untitled09298

SHARE THIS: