สำเร็จตามเป้าหมายสำหรับ บาเยิร์น มิวนิค ที่ได้โอกาสอยู่หลายครั้งก่อนจะมาได้ แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ เป็นคนซ้ำส่งบอลเข้าประตู เสือใต้ เฉือน ทิเกรส สโมสรจากเม็กซิโก 1-0 ได้แชมป์สโมสรโลกเป็นแชมป์ที่ 6 ปิดท้าย
ฟุตบอลสโมสรโลก รอบชิงชนะเลิศ
บาเยิร์น มิวนิค 1 – 0 ติเกรส
สนาม : อาเหม็ด บิน อาลี สเตเดี้ยม, กาตาร์
เริ่มเกมมานาทีแรก ติเกรส ทักทายก่อนจากจังหวะเปิดบอลของ หลุยส์ กินโญเนส ที่ไปถึง อองเดร ปิแอร์ ชีญัก ได้ขึ้นโขก แต่ว่าติดบล็อกออกหลังนิดเดียว
ในนาทีที่ 5 เสือใต้ตอบโต้คืน คิงส์เล่ย์ โกมัน หาจังหวะส่องด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ แต่บอลยังไม่แรงพอที่จะผ่านมือ นาอวล กูซมาน นาทวารติเกรส
นาทีที่ 18 เสือใต้ ส่งบอลตุงตาข่ายได้จากจังหวะยิงไกลหน้าเขตโทษสุดสวยของ โยชัว คิมมิช แต่ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ก่อนชี้ขาดว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ล้ำหน้า แม้ว่าจะไม่โดนบอลจังหวะสุดท้าย แต่มีส่วนรบกวนการป้องกันของผู้รักษาประตู
ในนาทีที่ 34 บาเยิร์น เกือบได้สุดๆ จากการเล่นเตะมุมลูกสูตร แซร์ช นาบรี้ จ่ายเร็วเข้าเขตโทษให้ ลีรอย ซาเน่ หวดด้วยซ้ายเน้นๆ ทว่าบอลเช็ดสามเหลี่ยมออกหลังไปน่าเสียดาย จากนั้นจบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0
ในนาทีที่ 61 บาเยิร์น ขึ้นนำ 1-0 จนได้เมื่อ คิมมิช เปิดบอลให้ เลวานดอฟสกี้ ได้โหม่งไปติดบล็อกนายทวาร ติเกรส ก่อนเป็น เบนฌาแม็ง ปาวาร์ เก็บตกวอลเลย์เข้าไป โดยมีการเช็กวีเออาร์ยืนยันว่า เลวานดอฟสกี้ ไม่ได้ล้ำหน้าแต่อย่างใดแม้ตอนแรกจะมีการเป่าล้ำหน้า
ในนาทีที่ 82 บาเยิร์น เกือบได้อีกประตูเมื่อ โตลิสโซ่ ได้กดด้วยขวาหน้าเขตโทษ นาอวล กูซมาน ปัดไม่ดีก่อนบอลไปชนเสาอย่างจัง
เวลาที่เหลือ ติเกรส พยายามอย่างหนักเพื่อตีเสมอ แต่ไม่สำเร็จจบเกม บาเยิร์น มิวนิค ชนะไป 1-0 คว้าแชมป์สโมสรโลกสมัยที่ 2 ไปครอง และเป็นสมัยแรกต่อจากปี 2013