แมนฯซิตี้ ที่ได้ ไคล์ วอล์คเกอร์ ครอสเข้าประตูให้ทีมนำ ก่อนที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ กาเบรียล เชซุส จะมายิงเพิ่มต้นครึ่งหลังปราบ สวอนซี ซิตี้ 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ แถมทำสถิติใหม่เป็นสโมสรลีกสูงสุดแดนผู้ดีทีมแรกที่กวาดชัย 15 เกมรวดในทุกรายการ
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5
สวอนซี 1 – 3 แมนฯ ซิตี้
สนาม : ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม
เริ่มเกมได้แค่ 2 นาที แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้น กาเบรียล เชซุส เลี้ยงบอลจากทางริมเส้นฝั่งซ้ายตัดเข้ามาด้านใน ก่อนจะยิงไกลนอกกรอบด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งแรงผ่านกำแพง จนนายทวารเจ้าบ้านต้องออกแรงพุ่งชกบอลออกไป
ในนาทีที่ 15 ทัพเรือใบสีฟ้าได้ลุ้นอีกครั้ง แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ ผ่านบอลเข้ากลางจากบริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย บอลมาถึง เชซุส ได้แปบอลจ่อๆระยะ 6 หลา บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
ในนาที 30 แมนฯซิตี้ ทำประตูขึ้นนำ 1-0 จาก ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่บรรจงผ่านบอลจากแนวลึก หวังให้ เฟร์ราน ตอร์เรส วิ่งโฉบมายิง แต่ปีกดาวโรจน์วิ่งมาสไลด์ตัวเล่นบอลไม่ถึง กลายเป็นหลอกทางนายทวาร สวอนซี จนหลง บอลเสียบเข้าเสาไกลไปอย่างดื้อๆ
เริ่มเกมครึ่งหลังได้ 2 นาที แมนฯซิตี้ มายิงเพิ่มเป็น 2-0 จากจังหวะที่ โรดริโก้ เอร์นานเดซ แทงบอลให้กับ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดมาในกรอบเขตโทษ ก่อนจะเลี้ยงจี้เข้าไปดวลตัวต่อตัวกับผู้รักษาประตู แล้วเอี้ยวตัวแปด้วยขวาสวนทางนายทวารเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ
ในนาที 50 เรือใบสีฟ้า นำห่างเป็น 3-0 จากจังหวะที่ สเตอร์ลิง ครอสบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายไปที่บริเวณเสาสองให้กับ แบร์นาโด้ ซิลวา วิ่งมาเทคตัวขึ้นโหม่งส่งบอลต่อให้กับ เชซุส ที่หันหลังให้ประตูอยู่ ทำการเกี่ยวบอลลงแล้วพลิกตัวยิงด้วยซ้ายระยะเผาขนเข้าไปอย่างยอดเยี่ยม
ในนาทีที่ 77 สวอนซี มาได้ประตูตีไข่แตกเป็น 1-3 จากจังหวะที่ ไรอัน แมนนิ่ง เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษจากริมเส้นฝั่งซ้าย บอลลอยมาถึง มอร์แกน วิตเทกเกอร์ แข้งตัวสำรอง ทำการจับบอลลง แล้วกลับตัวยิงลูกวอลเลย์ด้วยซ้าย บอลพุ่งเสียบเสาขวาเข้าไปอย่างเฉียบคม จบเกม แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มสุดร้อนแรง เก็บชัย 15 นัดติดต่อกัน หลังบุกมาอัด สวอนซี 3-1