[รีวิว] The Broken Hearts Gallery – ฝากรักไว้…ในแกลเลอรี่
— 7/10 —
หนังรักสูตรสำเร็จ ที่คอนเซ็ปท์น่าสนใจ ได้แง่คิดสำหรับคนอยาก Move on
อาจไม่อินเท่าไหร่ แต่ก็ผ่อนคลายสมองและ Feel Good ไม่ใช่เล่น
The Broken Hearts Gallery – ฝากรักไว้…ในแกลเลอรี่ บอกเล่าเรื่องราวของ Lucy หญิงสาวที่มักเก็บสิ่งของของแฟนเก่าไว้เป็นที่ระลึก และล่าสุดก็เพิ่งโดนหักอกมาอย่างเจ็บปวดจาก Max ทำให้เธอทั้งช้ำและเสียหน้าที่การงานในคืนเดียว แต่แล้วเธอก็ได้บังเอิญมาเจอกับชายหนุ่มหน้าหวานนามว่า Nick ทำให้เธอได้ปิ๊งไอเดียสร้าง The Broken Hearts Gallery ขึ้นมา เป็นสถานที่ให้คนได้เอาสิ่งของของคนรักเก่าที่ทิ้งไปมารวมไว้เป็นผลงานศิลปะจัดแสดงไว้ในที่แห่งนี้
หากดูแต่เพียงรายชื่อนักแสดงหลายคนอาจจะไม่คุ้นสักเท่าไหร่ ยกเว้นเพียงคนเดียว Dacre Montgomery ที่เพิ่งฝากผลงานเอาไว้ใน Stranger Things นอกเหนือจากนั้นคือใครไม่รู้เหมือนกัน
แต่หนังทำตัวละครแต่ละตัวได้มีชีวิตชีวาและน่ารักสุดๆ ไล่ไปตั้งแต่นางเอก Geraldine Viswanathan ที่ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้สวยหุ่นดีเหมือนนางเอกทั่วไป แต่การแสดงของเธอ คาแรคเตอร์ของเธอก็ดูมีเสน่ห์ ดูน่ารักและมีชีวิตชีวาแบบสุดๆ และเป็นการบอกเป็นนัยๆ เลยว่านางเอกไม่จำเป็นต้องพิมพ์นิยมแบบแต่ก่อนอีกแล้ว อีกทั้งตัวละครประกอบเพื่อนนางเอกก็ยังมีคาแรคเตอร์ชัดเจนและมีชีวิตชีวาไม่แพ้กัน ทั้ง Nadine (Phillipa Soo) และ Amanda (Molly Gordon) ที่ช่วยส่งช่วยเสริมให้หนังมีมิติและน่าดูชมขึ้นเยอะเลย
แต่แอบน่าเสียดายบททางฝั่งพระเอกอย่าง Nick (Dacre Montgomery) ที่นอกจากหน้าตาหล่อเหลา เป็นชายหน้าหวานชวนฝัน ก็ไม่มีได้มีการแสดงที่จัดจ้านชัดเจนหรือให้โชว์ของอะไรสักเท่าไหร่ เป็นตัวละครที่แทบจะไม่ได้เห็นอะไรเลยจริงๆ นอกจากหน้าหล่อๆ ของเขา อาจจะเพราะตัวบทเองด้วยกระมั้ง
หนังมีการบอกเล่าง่ายๆ ไม่ซับซ้อน และมีความเรื่อยๆ ให้อมยิ้มได้บ้างเล็กน้อย ให้ดราม่าบ้างประปราย โดยรวมมันก็เป็นหนังสูตรสำเร็จแหละ แต่หนังก็ไม่สามารถดึงเราไปอินกับเรื่องราวได้มากเท่าที่ควร แต่ในขณะเดียวกันมันก็เข้าถึงเราง่ายเช่นกัน กับประเด็นต่างๆ ที่หนังต้องการจะสื่อ
ค่อนข้างชอบคอนเซ็ปท์ของหนังนะ กับการเก็บของเก่าของคนรักมาทำเป็นแกลเลอรี่ ซึ่งถ้ามันมีจริงๆ น่าจะได้รับความนิยมไม่ใช่เล่น เชื่อว่าคนไม่น้อยเลยที่เลือกจะเก็บของที่หลายคนอาจมอง่วาเป็นขยะเอาไว้เพื่อระลึกถึงแฟนเก่านึกถึงช่วงเวลาดีๆ อะไรแบบนั้น เพราะช่วงเวลานั้นมันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข (แต่ก็มีหลายคนเขวี้ยทิ้งแหละเพราะอยากลืม 555) และในประเด็นนี้หนังก็ยังพูดถึงความทรงจำที่เราควรจะทิ้งและ Move on สักที แต่ถ้าใส่รายละเอียดความดราม่าของสิ่งของแต่ละชิ้นเข้าไปน่าจะชวนอินได้มากกว่านี้ และช่วงหลังๆ ของหนังจุดขัดแย้งมันเบาไปหน่อย แถมยังมีความรีบเร่งในหลายๆ จุด จนกลายเป็นหาทางลงแต่ละเรื่องได้ง่ายเสียเหลือเกิน แต่ก็นะ Feel Good แหละ
สรุปแล้ว The Broken Hearts Gallery เป็นหนังรักเบาๆ ผ่อนคลายสมอง อมยิ้มบ้างประปราย ดราม่านิดหน่อย โดดเด่นที่คอนเซ็ปท์และการแสดงของฝ่ายหญิงที่ดูมีชีวิตชีวาสุดๆ ที่สำคัญน่าจะได้ข้อคิดบางอย่างสำหรับคนที่อยากจะ Move on ได้ไม่มากก็น้อย