AI Love You (Netflix) บทป่วยห่วยหลอกคนมาดูมาริโอใบเฟิร์นครบรอบ 10 ปี

ภาพยนตร์ไทยลง Netflix (ซื้อมาไม่ลงโรง) กับการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของ ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ และ มาริโอ้ เมาเร่อ เรื่องราวของ AI ที่ตกหลุมรักหญิงสาว ก่อนจะมีโอกาสย้ายเข้ามาในร่างของหนุ่มโปรแกรมเมอร์ที่มาแก้ไขระบบ และหาทางสานรักกับเธอ

ตัวอย่าง AI Love You เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด

เรื่องย่อ

เรื่องราวอื่นที่น่าสนใจ

รีวิว Carnival Row SS2 ไฟนอลซีซั่นที่คงคุณภาพงานทุกอย่างไว้ได้เป็นอย่างดี (ไม่มีสปอยล์)

รีวิว Noise แนวหนังพล็อตเรื่องดราม่าทริลเลอร์ แต่เรื่องจริงไปแนวจิตวิทยาบ้าบอไม่สมเหตุผล

AI Love Youจะบอกเล่าเรื่องราวของโลกในอนาคต ที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่ได้สร้างตึกสมาร์ทซึ่งมี AI อัจฉริยะอำนวยความสะดวกให้กับผู้คน กระทั่งวันหนึ่งมี AI ที่ชื่อว่า ด็อบ ได้ไปตกหลุมรัก ลาน่า (ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) หญิงสาวที่กำลังตามหาความรัก จนทำให้ทางบริษัทตัดสินใจส่ง บ็อบ (มาริโอ้ เมาเร่อ) โปรแกรมเมอร์หนุ่มมาแก้ไขระบบของด็อบ ทันใดนั้นเจ้า AI จึงหนีเข้ามาควบคุมร่างกายของบ็อบ และใช้ร่างกายของเขาเพื่อเข้าหาลาน่า เรื่องราววุ่นๆ ของ AI ที่ดันไปตกหลุมรักมนุษย์จึงเริ่มต้นขึ้น

รีวิว AI Love You

นี่เป็นหนังที่เรียกได้ว่าฉวยโอกาสครบรอบ 10 ปี ของสองนักแสดงดังจากเรื่อง สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่า…รัก  เมื่อปี 2553 ที่ใครๆ ต่างก็อยากให้ทั้งคู่กลับมาร่วมงานกัน ก็ไม่รู้ว่าโปรเจ็กต์นี้เกิดขึ้นมาได้ไงเพราะว่าผู้กำกับกับเขียนบทเป็นชาวต่างชาติ  David Asavanond กับ Stephan Zlotescu (พ่วงเขียนบท) ซึ่งผลงานที่ผ่านมาก็ไม่เคยกำกับภาพยนตร์กันมาก่อน แถมประวัติการทำงานคนแรกเป็นนักแสดง คนหลังทำงานเบื้องหลังกับเขียนบทกำกับหนังสั้นมานิดหน่อย มันเลยทำให้ผลงานชิ้นนี้ดูโลวคลาสมาก ชนิดที่เรียกว่าเกรดบียังไม่ได้เลย และก็ไม่น่าจะมีหนังไทยทำบทชุ่ยๆ กับโปรดักชั่นลวกๆ แบบนี้ออกมาในยุคปัจจุบันนี้แล้วฉายโรงได้อีกแล้ว แต่ด้วยความที่มันย้ายมาลงสตรีมมิ่งไม่ลงโรง นี่จึงเป็นผลงานที่คงมีคนหลวมตัวดูไม่น้อย คนดูโรงรอดตัวไป คนดูสตรีมมิ่งซวยแทน โดยเฉพาะแฟนๆ ของใบเฟิร์นที่อยากเห็นเธอกลับมาเล่นกับมาริโอมานานแล้ว ซึ่งผู้เขียนก็เป็นหนึ่งในนั้น และมองว่านี่เป็นการฉวยโอกาสเอาเรื่องนี้มาขายอย่างน่าเกลียดมากที่สุด

พล็อต AI หลงรักมนุษย์ไม่ได้ใหม่ ก่อนนี้ที่ดังๆ ก็อย่าง HER รักดังฟังชัด หนังโรแมนติก/ไซไฟ ที่ฉายในปี พ.ศ. 2556 การที่เรื่องนี้เอามาพล้อตนี้มาใช้ รวมถึงการย้ายร่าง AI มาในมนุษย์ก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไร ใน HER ก็มีทำมาหมดแล้ว และ HER ยังพยายามอิงความสมเหตุผลให้คนดูเชื่อตามได้ แต่กับเรื่องนี้คือเขียนบทมาทีหลัง แต่ขาดความสมเหตุผลไปกับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ตึกที่มี AI ควบคุมแบบง้องแง้งทั้งรูปร่างหน้าตากับการกระทำ การถ่ายโอนร่างมายังมนุษย์ก็ไม่มีอิงกับอะไรให้พอเข้าใจได้ ไม่มีการอธิบายอะไรไม่พอ การกระทำหลังจาก AI เข้าร่างมนุษย์ก็งี่เง่าถึงขั้นบัดซบ อย่างการฉี่ไม่เป็น นอนไม่เป็น ซึ่งในเรื่องตอนแรกวางไว้ว่า AI รวบรวมข้อมูลทุกอย่างไว้ถึงขั้นหลงรักมนุษย์ได้ แต่กลับทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้ต้องมาถาม AI ด้วยกันเองว่ามนุษย์นอนยังไง ที่ยกมานี่ยังเป็นแค่เสี้ยวเดียวของเรื่องเท่านั้น เพราะถ้าให้เล่าอธิบายนี่คือทุกจุดทุกฉากในเรื่องนี้เลวร้ายถึงขั้นนี้แทบทั้งหมด 99% เลยก็ว่าได้  โดยเฉพาะช่วงท้ายฉากจบที่จบดื้อๆ แบบ WTF มักง่ายมากๆ จนแทบไม่น่าเชื่อ

โอเคว่าถ้ามองว่านี่มันหนังตลกโรแมนติกจะเอาอะไรมาก ก็ต้องบอกว่าส่วนตลกของเรื่องนี้ผู้เขียนก็ตลกไปกับมันได้อยู่นะ กับการที่มาริโอทำท่าเด๋อด๋าไม่เต็ม หรือฉากเปิดตัวที่ทำเรื่องเชี่ยๆ ในนัดเดทแบบที่ไม่น่ามีผู้ชายที่ไหนเชี่ยแบบปัญญาอ่อนได้ขนาดนี้ บทอาจจะตั้งใจเขียนให้เว่อร์ๆ เอาตลกเข้าว่า แต่ที่มันตลกจริงๆ มาจากการที่เรื่องราวขาดเหตุผลให้เชื่อตามได้มากกว่า คือมันง้องแง้งในตัวมันเองจนไม่ต้องมีมาริโอทำเด๋อด๋าก็ตลกในตัวอยู่แล้ว คือถ้าผู้สร้างคิดมาเหนือขนาดนี้ว่าให้บทมันดูขาดเหตุผลจนถึงขั้นป่วยให้คนตลกก็ยอม กราบเลยว่าวิธีนี้ได้ผล แต่คิดว่าผู้สร้างไม่น่าจะตั้งใจทำแบบนี้หรอก…

ชั่วโมงแรกของเรื่องหมดไปกับความพยายามของ AI ทำให้สาวรับรัก ซึ่งก็ดูจะเป็นแนวนี้ไปจนจบก็น่าจะได้ แต่ไม่รู้ผู้สร้างนึกไง อยู่ๆ อยากเปลี่ยนแนวมาแอ็กชั่นก็เปลี่ยนกันดื้อๆ โดยให้มีนักฆ่าส่งมาจากบริษัทผู้สร้าง AI เพื่อมาจัดการโดยเฉพาะ ตัวหนังก็พยายามเปลี่ยนแนวเป็นแอ็กชั่นระทึกจากการที่พระเอกถูกไล่ล่า แล้วก็มีเปิดโอกาสให้นางเอกได้บทบู๊ต่อสู้กับนักฆ่า ที่เหมือนคิวบู๊ดูดีนิดนึงแหละ แต่สุดท้ายก็ไม่วายจบลงด้วยฉากป่วยๆ กับนักแสดงในบทนักฆ่าที่เล่นได้เฟคสุดๆ จนคนดูคงต้องหลุดขำอีกครั้งกับความเฟคของหมอนี่

สำหรับคนที่คาดหวังว่าจะดูเคมีเลิฟๆ ของมาริโอกับใบเฟิร์นก็ต้องบอกว่าทำใจกันหน่อย คือด้วยความที่คนดูอินกับนักแสดงก็อาจจะมองข้ามทุกอย่างเพื่อมาดูแค่นี้ก็ได้ ซึ่งผู้เขียนเองก็ทนดูจนจบได้เพราะใบเฟิร์นล้วนๆ เช่นกัน ตัวหนังทำฉากโรแมนติกของทั้งคู่ออกมาไม่ได้ดีอะไรนัก แต่ก็พอกล้อมแกล้มให้หายคิดถึงได้ แม้บทสนทนาจะไม่เป็นธรรมชาติมากๆ จนดูแข็งๆ กันทั้งคู่ แต่ที่แปลกหน่อยคือเรื่องนี้ใบเฟิร์นกลับเป็นสายรุก อาจจะเพราะฝรั่งเขียนบทด้วยมั้งเลยทำให้ทั้งคู่มีบทจูบเลิฟซีนกันทันทีในเดตแรกกับ AI แต่ก็ไม่ได้ให้เห็นอะไรสักนิดหรอกนะ นอกจากแค่จูบเท่านั้น

ด้วยความที่เรื่องมาแนวไซไฟหน่อยๆ ก็เลยต้องมีพวกงาน CG มาเกี่ยวข้องด้วยหลายอย่าง จากทุนสร้าง 35 ล้านบาท (อ้างอิงจากบัดเจ็ตใน IMDB) แต่หลายอย่างในเรื่องนี้กลับออกมาแบบง่อยๆ ตั้งแต่ยอดตึกรูปร่างหุ่นยนตร์ที่ดูยังไงปลอม หน้าจอติดต่อ AI ที่เหมือนเด็กประถมออกแบบ การเข้าไปในสมองกลของ AI ก็ดูงานหยาบมาก หรือหุ่นยนต์ตามที่ต่างๆ ก็ดูเป็นหุ่นกระป๋องโลวเทคสุดๆ เป็นหนังที่งบเยอะเกินคาด เพราะดูสเกลแล้วไม่น่าใช้งบได้ขนาดนี้เลย กลายเป็นหนังที่ทำร้ายซ้ำเติมภาพลักษณ์วงการหนังไทยเข้าไปอีก

สรุป AI Love You สนุกและดีไหม

เป็นหนังไทยที่ผู้เขียนพยายามหาความสนุกกับข้อดีของมันแทบไม่เจอ ทุกอย่างดูป่วยไปหมด จนไม่แนะนำให้ใครดูด้วยประการทั้งปวง ยกเว้นคุณเป็นแฟนที่คลั่งดารา 2 คนนี้มาก็คงทนๆ ดูไปจนจบได้แหละ