Overlord (ปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด) ภาพยนตร์แนว Action Horror Sci-Fi จากทีม Bad Robot ของ J.J. Abrams โดยใช้บทที่เขียนโดย Billy Ray และ Mark L.Smith กำกับการแสดงโดย Julius Avery
ตอนนี้ถูกถอดออกจาก Netflix แล้วนะฮะ แต่ยังตามไปรับชมกันได้ทางช่อง Prime Video (เสียดายที่ไม่มีพากย์ไทยและซับไทยนะฮะ)
เรื่องย่อ/เนื้อเรื่อง
เรื่องราวมีพื้นหลังอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กล่าวถึงทหารสังกัดกองร้อย 101 ในวัน D-Day ที่มีปฏิบัติการณ์กระโดดร่มลงในพื้นที่แห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศสที่ถูกฝ่ายเยอรมันเข้ายึดไว้ โดยมีเป้าหมายในการถล่มหอคอยวิทยุของฝ่ายเยอรมันเพื่อเปิดทางให้หน่วยทหารราบของฝ่ายพันธมิตรยกพลขึ้นบกได้
ในระหว่างที่เครื่องบินได้เข้าสู่น่านฟ้าฝรั่งเศส ทั้งเครื่องบินและพลร่มทั้งหลาย ต่างถูกโจมตีด้วย ปตอ.ของฝ่ายเยอรมัน จนเหลือรอดชีวิตอยู่เพียง 5 นายที่ต้องปฏิบัติตามภารกิจต่อไป ประกอบไปด้วย สิบโทฟอร์ด (นำแสดงโดย Wyatt Russell), พลทหารบอยซ์ (นำแสดงโดย Jovan Adepo), พลทหารทิบเบต (นำแสดงโดย John Magaro), พลทหารเชต (นำแสดงโดย Iain De Caestecker) และ พลทหารดอวสัน (นำแสดงโดย Jacob Anderson)
ในระหว่างที่กำลังมองหาลู่ท่างในการเข้าโจมตีหอคอยวิทยุของฝ่ายเยอรมัน พลทหารบอยซ์ ได้แอบเข้าไปยังโบสถ์เก่าของเมืองได้โดยบังเอิญ จนทำให้เขาได้เห็นการจับเอาชาวบ้านและเหล่าทหารที่จับตัวเป็นเชลย รวมถึงการนำซากศพมนุษย์ มาทำการทดลองลับๆ และในระหว่างที่ทำการสำรวจในบริเวณห้องทดลอง เขาได้พบกับ พลทหารเจคอป (นำแสดงโดย Dominic Applewhite) ที่กำลังถูกทำการทดลองอยู่ เขาจึงได้เข้าทำการช่วยเหลือและก่อนที่จะหลบหนีออกมา พลทหารบอยซ์ ได้แอบขโมยเซรุ่มที่ใช้ในการทดลองนี้ออกมาได้
และนั่นเอง จึงทำให้พวกเขาได้รับรู้ว่า ความน่าสะพรึงกลัวกำลังจะเกิดขึ้น
ความคิดเห็นหลังจากได้ดู
เป็นการผสมผสานหนัง 2 แนวได้อย่างลงตัวมากฮะ ระหว่าง หนังสงคราม ที่สามารถสื่อให้เห็นถึงความเลวร้ายของสงครามได้ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงเปิดเรื่องก็ทำให้เรานึกถึงหนังสงครามชั้นเยี่ยมอย่าง Saving Private Ryan ได้เลยนะ กับ หนังสยองขวัญ เกรดบีที่มาในแนวทางแบบหนังสยองขวัญเกรดบีในยุค 80-90 เลย แถมยังให้อารมณ์เหมือนตอนที่เราเห็นตัวประหลาดแบบในเรื่อง Resident Evil (เวอร์ชั่นที่กำกับโดย Paul W. S. Anderson และนำแสดงโดย Milla Jovovich) ครั้งแรกอีกด้วย
ถือว่าทำออกมาได้น่าสนุกและลุ้นระทึกมากๆ ดำเนินเรื่องได้ดี แม้ว่าพลอตเรื่องจะเดาทางง่ายและไม่มีอะไรซับซ้อน แต่คือมันสนุกมาก
ความโหดเลือดสาด ก็มีให้เห็นเรื่อยๆ ตามสไตล์ของหนังแนวนี้
และเนื่องจากมีข่าวลือที่ถูกปล่อยออกมาค่อนข้างมากเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าเป็นภาคที่ 4 ของจักรวาล Cloverfiled จนทำให้สุดท้ายแล้ว J.J Abrams ต้องออกมายืนยันผ่านการสัมภาษณ์ด้วยตัวเขาเองว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับจักรวาล Cloverfiled แต่อย่างใดเลย แต่นี่จะเป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญเรื่องแรกของเขาและทีม Bad-Robot ที่จะได้รับ Rate-R ในการเข้าฉาย
สรุป >> ให้ไป 7.5 เต็ม 10 นะฮะ เป็นงานหนังสยองขวัญเกรดบีในงานโปรดักชั่นระดับเกรดเอที่มีทั้งความสนุก ลุ้นระทึก โหดเลือดสาดและดูได้เพลินมาก แต่ก็แบบว่าจบแล้วจบเลย ไม่มีอะไรให้ต้องตามมาคิดต่อ