Sick of Myself – ซิค ออฟ มายเซลฟ์

[รีวิว] SICK OF MYSELF
— ?/10 —
เรื่องราวของหญิงหิวแสง ตรรกะเพี้ยน
ที่ดูจบแล้วแบบ ห๊ะ!? อะไรวะ?

“ห๊ะ!?” คือคำอุทานแรกตั้งแต่หนังจบลง เรานั่งอึ้ง นั่งงง นั่งอึน นั่งแบบไม่รู้ต้องรู้สึกอะไรกับหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่ End-credit ขึ้น เห็นชื่อผู้กำกับ ทีมงาน นักแสดง จนจอดำ ไฟในโรงหนังเปิด ก็ยังคงวงเวียนอยู่กับความคิดตัวเองว่า “ห๊ะ!? อะไรวะ?”

บอกเล่าเรื่องย่อสั้น ๆ ง่าย ๆ ของ Sick of Myself เป็นเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่หิวแสงมาก ๆ ต้องการเป็นจุดสนใจมากถึงมากที่สุด เธอมักจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ผู้คนรอบข้างหันมาสนใจในตัวเธอ แล้วเธอก็ใช้วิธีแบบสุดโต่งที่กู่ไม่กลับเพื่อเรียกร้องความสนใจแบบสุด ๆ รู้แค่นี้แหละ แล้วก็มานั่งห๊ะ! ไปตลอดเรื่องแบบผมเนี่ยแหละ

เอาจริง ๆ มันอาจจะมีอะไรแอบแฝงไว้ลึกซึ้งมากมายกว่านั้น แต่ผมคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าหลังดูจบแล้วผมได้อะไรไปจากหนังเรื่องนี้ เข้าไม่ถึงความตั้งใจของผู้กำกับจริง ๆ ถ้าดูตามท้องเรื่องนะมันไม่ใช่หนังมันดูยากนะ มันดูง่ายมาก ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ตามเรื่องย่อที่บอก เราจะได้เห็นตรรกะเพี้ยน ๆ ป่วย ๆ จนน่าจะเรียกได้ว่าเป็นโรคของตัวนางเอกตลอดทั้งเรื่อง แล้วก็ผลกระทบจากสิ่งสุดโต่งที่เธอทำ แล้วก็…แค่นั้นแหละ ที่ผมได้จากหนังเรื่องนี้ จริง ๆ หนังอาจจะแค่อยากบอกเราว่าในโลกมันมีคนหิวแสงหนักมาก ๆ จนกลายมาเป็นโรคนะ มีคนได้รับผลกระทบจากการกระทำแบบนี้มากมายเลยนะ ก็อาจจะแค่ประมาณนั้น หรือมันมีอะไรมากกว่านั้น…ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พอมาถึงบทสรุปของหนัง แล้วย้อนกลับมาดูชื่อหนังอีกที คงจะพอสรุปได้ว่า “เออ นางเอกมันก็คงเบื่อตัวเองเหมือนกันแหละ” มั้ง

ถ้าถามว่าหนังมันสนุกมั้ย มันก็สนุกนะ ไม่น่าเบื่อ เพราะหนังมีความตลกร้าย มีการใส่มุกหยอดมาถูกช่วงถูกจังหวะให้คนได้หัวเราะกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ตัวเอกทำ ได้หัวเราะไปกับตรรกะเพี้ยน ๆ ป่วย ๆ ของนางเอก 

โอเคเรามาดูถึงงานภาพกันบ้าง หนังมันก็ไม่ได้มีซีนสวย ๆ อะไรเท่าไหร่ หลายฉากก็เป็นการใช้ Handeld ถือกล้องถ่าย มุมกล้องก็ธรรมดา ในด้านการถ่ายทำก็ไม่ได้มีอะไรน่าชื่นชมเท่าไหร่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทีม make up ก็แต่งหน้านางเอกออกมาได้เจ๋งดี มีทั้งสมจริง และดูเวอร์เกินจริงแบบตั้งใจให้มันเกินจริง 

ทางด้านนักแสดงคนอื่นเราเฉย ๆ นะ ยกเว้นนางเอก ที่เข้าถึงบทบาทดี ดูรู้จักตัวละครดีเลยแหละ เธอแสดงได้ธรรมชาติ ตรรกะดูป่วยจริง ดูเพี้ยนจริง แถมยังแสดงได้น่าหมั่นไส้ในบางทีอีกด้วย 

สรุปแล้ว Sick of Myself เป็นหนังเรื่องนึงที่เขียนรีวิวยากเหมือนกัน เพราะไม่รู้จะเขียนอะไร หนังมันมีแค่นั้นจริง ๆ อย่างที่บอกว่านอกจากจะได้เห็นความหิวเสียง การต้องการเป็นที่สนใจ จนอาจเรียกได้ว่าเป็นโรค ก็ไม่รู้ว่าหนังมันแฝงอะไรไว้หรือเปล่า แต่(1)มันก็เป็นหนังที่บันเทิงอยู่เหมือนกัน แต่(2)ก็ยัง “ห๊ะ!?” กับสิ่งที่เกิดขึ้นใน 1 ชั่วโมงครึ่งอยู่ดี เอาจริง ๆ ให้คะแนนไม่ถูกเหมือนกันนะ ไม่รู้จะให้คะแนนอะไรยังไงเลยอะ ขอไม่ให้คะแนนละกั๊น